มติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรรคสมัยที่ 13 รวมถึงมติต่างๆของคณะกรรมการกลางพรรคและกรมการเมืองพรรคต่างระบุว่า ต้องปรับปรุงระบบกฎหมาย กลไกและนโยบายต่างๆอย่างพร้อมเพรียง ครบถ้วนและมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจที่โปร่งใส สะดวกและเท่าเทียมกันเพื่อระดม บริหารและใช้ทุกแหล่งพลังสำหรับพัฒนาประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะที่ดินและการเงิน
ใช้ทุกแหล่งพลังสำหรับพัฒนาประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะที่ดินและการเงิน
แนวทาง นโยบายและกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินมีบทบาทสำคัญพิเศษต่อเสถียรภาพและการพัฒนประเทศอย่างยั่งยืน โดยในเวียดนาม การฟ้องร้องคดีที่เกี่ยวข้องถึงปัญหาที่ดินมากถึงร้อยละ 70 ดังนั้น ก่อนที่อนุมัติร่างกฎหมายที่ดินฉบับแก้ไขในการประชุมวิสามัญสภาแห่งชาติครั้งที่ 5 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สภาแห่งชาติสมัยที่ 15 ได้ทำการปรับปรุงหลายครั้ง อีกทั้งเลื่อนระยะเวลาการอนุมัติร่างกฎหมายนี้อย่างระมัดระวัง ซึ่งร่างกฎหมายที่ดินฉบับแก้ไขได้แปรเนื้อหาของมติที่ 18 ของคณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 13 เกี่ยวกับที่ดินให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและระบบกฎหมาย โดยได้รับการแก้ไขบนเจตนารมณ์ “ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ปรับปรุงข้อกำหนดต่างๆเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนในระดับสูงสุด เช่น ผู้ที่ถูกเวนคืนที่ดินจะได้รับเงินค่าชดเชยในราคาตลาด ส่วนรัฐต้องออกใบรับรองการใช้ประโยชน์ที่ดินให้แก่ผู้ที่มีสิทธิ์ในเรื่องนี้ ซึ่งการปรับปรุงดังกล่าวได้มีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจสังคมอย่างมีเสถียรภาพ
ส่วนในการปฏิบัติกฎหมายองค์การสินเชื่อก็ประสบปัญหาต่างๆ โดยการอนุมัติร่างกฎหมายองค์การสินเชื่อฉบับแก้ไขได้ช่วยแก้ไขอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาหนี้เสียและตราสารหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของระบบธนาคารและช่วยให้ตลาดการเงินมีความโปร่งใส ซึ่งเนื้อหาของร่างกฎหมายนี้ได้รับการอนุมัติในการประชุมวิสามัญสภาแห่งชาติครั้งที่ 5 มีบทบาทสำคัญไม่เพียงแต่ต่อการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในปี 2024 และทั้งวาระเท่านั้น หากยังมีความหมายเชิงยุทธศาสตร์ในระยะยาวอักด้วย นาย หว่างวันเกื่อง สมาชิกคณะกรรมาธิการด้านการเงินและงบประมาณของสภาแห่งชาติได้เผยว่า
“กฎหมายองค์การสินเชื่อฉบับแก้ไขเป็นกฎหมายที่มีลักษณะพิเศษ ซึ่งการปรับปรุงร่างกฎหมายนี้ได้สร้างความหวังเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของระบบธนาคารและองค์การสินเชื่อ โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการควบคุมปัญหาหนี้เสีย การถือหุ้นไขว้และการบริหารเงินสด”
ส่งเสริมนโยบายให้เข้าสู่ชีวิต
ตามผลการประชุมวิสามัญสภาแห่งชาติครั้งที่ 5 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา กฎหมายที่ดินฉบับแก้ไขจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปี 2025 ซึ่งเพื่อผลักดันการบังคับใช้โดยเร็ว เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กระทรวงและหน่วยงานต่างๆยื่นเสนอมติแนะนำการปฏิบัติกฎหมายนี้ให้รัฐบาลพิจารณาอนุมัติโดยเร็ว ซึ่งเป็นพื้นฐานให้แก่การเสนอให้สภาแห่งชาติอนุมัติให้กฎหมายที่ดินฉบับแก้ไขมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้
ส่วนผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมได้แสดงความหวังว่า จะจัดทำมติแนะนำการปฏิบัติกฎหมายที่ดินฉบับแก้ไขให้แล้วเสร็จเพื่อให้กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมนี้ นาย เลมิงเงิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมได้เผยว่า
“กระทรวงทรัพยกรและสิ่งแวดล้อมได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานในการจัดทำมติ 6 ฉบับและเอกสารแนะนำ 4 ฉบับ โดยกำลังเร่งจัดทำตามขั้นตอนและข้อกำหนดทางกฎหมาย เพื่อยื่นเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาอนุมัติในเดือนพฤษภาคมนี้ สำหรับมติเกี่ยวกับการถมทะเลนั้น ต้องเร่งจัดทำให้แล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนนี้”
ส่วนสำหรับกฎหมายองค์การสินเชื่อฉบับแก้ไข ธนาคารชาติได้เสนอประกาศใช้เอกสารแนะนำการปฏิบัติ 6 ฉบับ ซึ่งคาดว่า ในเดือนเมษายนนี้ กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆจะตรวจสอบเอกสารกฎหมายที่เกี่ยวข้องและเสนอให้ทำการปรับปรุง แก้ไขเพื่อค้ำประกันความเป็นเอกภาพในการปฏิบัติ
การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 ปี 2021ได้ปลูกฝังความคาดหวังเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองและมีความสุข ซึ่งถูกแปรให้เป็นรูปธรรมผ่านเป้าหมายของวาระปี 2021 - 2025 และวิสัยทัศน์ในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า การปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างเคร่งครัดของทั้งระบบการเมือง นโยบายและมาตรการที่มีความหมายชี้ขาดเกี่ยวกับปัญหาเชิงยุทธศาสตร์ รวมถึงนโยบายที่ดินและการเงินกำลังสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การะดมแหล่งพลังสำหรับพัฒนาประเทศและปฏิบัติความคาดหวังเกี่ยวกับประเทศที่เจริงรุ่งเรืองและมีความสุขให้ประสบความสำเร็จ.