นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย (VNA) |
การเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรี Dato' Sri Ismail Sabri bin Yaakob ได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศกำลังพัฒนาอย่างดีงาม
ความสัมพันธ์กำลังพัฒนาอย่างดีงาม
เวียดนามและมาเลเซียได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1973 สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2015 และกำลังปฏิบัติแผนปฏิบัติการด้านความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระยะปี 2021-2025 อย่างเข้มแข็ง ในเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 แต่การพบปะระดับสูงยังคงได้รับการธำรงอย่างคล่องตัวตั้งแต่ปี 2020 มาจนถึงปัจจุบันผ่านรูปแบบที่หลากหลาย เช่น การพูดคุยทางโทรศัพท์หรือการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เป็นต้น
ทั้งสองประเทศได้ธำรงกลไกความร่วมมือทวิภาคีต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น คณะกรรมการผสมเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเวียดนาม – มาเลเซีย คณะกรรมการความร่วมมือด้านกลาโหม คณะกรรมการผสมด้านการค้าเวียดนาม – มาเลเซียและคณะกรรมการความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ในด้านความสัมพันธ์ร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน เมื่อปี 2021 มาเลเซียเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับที่ 2 ของเวียดนามในกลุ่มอาเซียนและเป็นอันดับที่ 9 ของโลก ส่วนเวียดนามก็เป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับที่ 3 ของมาเลเซียในอาเซียน โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปี 2021 ได้บรรลุ 1 หมื่น 2 พัน 5 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละกว่า 25 เมื่อเทียบกับปี 2020 และถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 ยอดมูลค่าการนำเข้าและส่งออกระหว่างเวียดนามกับมาเลเซียได้บรรลุเกือบ 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2021
ในด้านการลงทุน มาเลเซียเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับที่ 2 ของเวียดนามในกลุ่มอาเซียน รองจากสิงคโปร์ ติดอันดับที่ 10 ในจำนวน 140 ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนามมากที่สุดรวม 668 โครงการ รวมยอดเงินลงทุนจดทะเบียน 1 หมื่น 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในด้านการศึกษา ปัจจุบัน มีนักศึกษาเวียดนามกว่า 1,000 คนกำลังศึกษาในมาเลเซีย เวียดนามและมาเลเซียได้ลงนามในบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการศึกษาเมื่อวันที่ 6 มีนาคมปี 2019
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ทั้งสองประเทศได้ร่วมกันรับมือการแพร่ระบาด บนพื้นฐานของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ เวียดนามได้สนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์รวมมูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐให้แก่มาเลเซียและสภาแห่งชาติเวียดนามได้มอบหน้ากากอนามัย 20,000 ชิ้นให้แก่มาเลเซียผ่านทางสถานทูตมาเลเซีย ณ กรุงฮานอย
นายกรัฐมนตรี Dato' Sri Ismail Sabri bin Yaakob (VNA) |
ขยายความร่วมมือต่อไป
ในบรรยากาศแห่งความสัมพันธ์ดังกล่าว การเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย Dato' Sri Ismail Sabri bin Yaakob มีความหมายเป็นอย่างมาก ซึ่งที่สำคัญอันดับแรกคือเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีและเพิ่มพลังที่เข้มแข็งของทั้งสองประเทศในกรอบความร่วมมือในระยะต่อไป พร้อมทั้งเป็นโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายศึกษาค้นคว้าศักยภาพใหม่ของความร่วมมือทวิภาคี หารือเกี่ยวกับปัญหาระดับภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ ผลักดันการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ
เรื่องที่สำคัญที่สุดในปัจจุบันต่อทั้งเวียดนามและมาเลเซียคือการเพิ่มและขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจให้กว้างขวางและรวดเร็วมากขึ้น มาเลเซียให้ความสนใจถึงการผลักดันระบบนิเวศเศรษฐกิจดิจิทัลกับเวียดนาม ส่งเสริมกิจกรรมในด้านการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง การผลิตในรูปแบบอัจฉริยะ พลังงานหมุนเวียน เทคโนโลยีการเงินและความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ต ที่น่าสนใจคือในวันที่ 1 เมษายนนี้ มาเลเซียจะฟื้นฟูการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ซึ่งรัฐบาลมาเลเซียอยากยืนยันเกี่ยวกับความตั้งใจในการเปิดประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ผลักดันความร่วมมือแลกเปลี่ยนในทุกด้านกับทุกประเทศ รวมทั้งเวียดนาม
สามารถยืนยันได้ว่า การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย Dato' Sri Ismail Sabri bin Yaakob ไม่เพียงแต่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศเท่านั้น หากยังเปิดโอกาสความร่วมมืออย่างจริงจัง มีประสิทธิภาพและเชื่อมโยงระหว่างประชาชน สถานประกอบการและรัฐบาลของทั้งสองประเทศ รวมทั้งผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้นับวันพัฒนาอย่างดีงามมากขึ้นอีกด้วย การที่ทั้งสองประเทศเป็นฝ่ายรุกในการเปิดประเทศอีกครั้งในรอบ 2 ปีหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่เพื่อช่วยให้สถานประกอบการ นักลงทุน แรงงาน นักเรียนและนักศึกษาของทั้งสองประเทศสามารถกลับมาทำงานและศึกษาได้ตามปกติ ซึ่งช่วยผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมืออย่างกว้างลึกและคล่องตัวระหว่างสองประเทศ เปิดโอกาสนำความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม- มาเลเซียพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่.