(VOVworld) - ตามคำเชิญของท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม วันที่ 26 ธันวาคม สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาพร้อมภริยาได้เริ่มการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งการที่สมเด็จฮุนเซนเลือกเดินทางมาเยือนเวียดนามเป็นประเทศแรกหลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีวาระที่สองได้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับเวียดนามของรัฐบาลกัมพูชาและความตั้งใจของผู้นำทั้งสองประเทศที่จะผลักดันและขยายความสัมพันธ์เพื่อนบ้านที่ดีงาม มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือในทุกด้านให้พัฒนายิ่งขึ้น
|
ท่านเหงียนเติ๊นหยุงและสมเด็จฮุนเซน
|
ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาเป็นความสัมพันธ์ที่มีมาช้านาน มีความผูกพันทั้งในด้านภูมิศาสตร์ วัฒนธรรมและผลประโยชน์ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสร้างสรรค์ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศให้กว้างลึกยิ่งขึ้น ปัจจุบัน เวียดนามและกัมพูชากำลังปฏิบัตินโยบายการต่างประเทศที่เปิดกว้าง พหุภาคีและมีความหลากหลาย ซึ่งให้ความสำคัญต่อการปรับปรุงและขยายความสัมพันธ์สามัคคีมิตรภาพและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างกัน
ผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้าน
จากความตั้งใจและความพยายามของทั้งสองประเทศ ในหลายปีมานี้ ความสัมพันธ์สามัคคีมิตรภาพและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาได้มีก้าวพัฒนาอย่างเห็นได้ชัดทั้งในด้านลึกและด้านกว้าง ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญและมีส่วนร่วมต่อการสร้างสรรค์บรรยากาศสันติภาพและเสถียรภาพอันยาวนานเพื่อผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคม ปกป้องเอกราชและอธิปไตยของประเทศ เวียดนามและกัมพูชาได้กำหนดกรอบความสัมพันธ์ตามแนวทาง “เพื่อนบ้านที่ดีงาม มิตรภาพที่ยาวนาน ความร่วมมือในทุกด้านและยั่งยืนถาวร” จนถึงปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงร่วมมือทวิภาคีในเกือบทุกด้านกว่า 80 ฉบับ ตลอดจนจัดตั้งระเบียบการประสานงานที่จำเป็นและสอดคล้องกับความต้องการของการพัฒนาความสัมพันธ์สามัคคีมิตรภาพและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศ ท่านฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามยืนยันว่า “แม้ต้องประสบอุปสรรคในช่วงต่างๆของประวัติศาสตร์แต่ความสัมพันธ์เพื่อนบ้านมิตรภาพระหว่างสองประเทศยังคงพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดจากการเยี่ยมเยือนกันของผู้นำระดับสูงทั้งสองประเทศและเป็นพื้นฐานพัฒนาความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นและหน่วยงานของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในระดับประชาชน ชาวบ้านในเขตพรมแดนที่ติดกันของเราได้มีการช่วยเหลือจุนเจือกันอย่างมากมาย ซึ่งได้ช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนมีความแน่นแฟ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน”
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างเวียดนามกับกัมพูชากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วโดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปี 2012 บรรลุ 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2011 และใน 10 เดือนต้นปี 2013 ได้บรรลุ 2.94 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2012 ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆได้รับการขยาย ความร่วมมือในการกำหนดและปักหลักพรมแดนได้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรการเมืองและองค์กรสังคมก็ได้รับการส่งเสริมอย่างไม่หยุดยั้งและมีส่วนร่วมต่อการยกระดับความรู้ของประชาชนทุกชั้นชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับเกียรติประวัติแห่งความสามัคคี การช่วยเหลือจุนเจือกันเพื่อมีส่วนร่วมต่อการรักษาและเสริมสร้างความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้พัฒนายิ่งขึ้น นายหวูหมาว นายกสมาคมมิตรภาพเวียดนาม – กัมพูชาเผยว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาเป็นความสัมพันธ์พิเศษ ซึ่งในประวัติศาสตร์ของทั้งสองชาติก็มีช่วงที่ประสบอุปสรรค ดังนั้นทางสมาคมฯจึงได้รับการก่อตั้ง พวกเราตระหนักได้ดีว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพในคนรุ่นใหม่ ดังนั้นด้วยชื่อเสียงและความพยายามของตนเอง ทางสมาคมฯจะรณรงค์ให้ทั้งสังคมเข้าร่วมและจัดกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงจัดการพบปะสังสรรค์ในระดับประชาชนเพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศมีความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาของทั้งสองชาติมากขึ้น”
ประสานงานอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มพหุภาคี
ไม่เพียงแต่ในกรอบของความสัมพันธ์ทวิภาคีเท่านั้น เวียดนามและกัมพูชานับวันได้มีความร่วมมือ ความผูกพันและสนับสนุนกันในฟอรั่มระหว่างประเทศและภูมิภาคมากขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นกรอบของความร่วมมือสามประเทศกัมพูชา ลาวและเวียดนาม ในกรอบความร่วมมือสี่ประเทศ กัมพูชา ลาว พม่าและเวียดนาม ในกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคแม่น้ำโขงขยายวงหรือในกรอบความร่วมมืออาเซียน อาเซมและสหประชาชาติ เป็นต้น
บนพื้นฐานแห่งความสัมพันธ์อันดีงามนั้น การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของสมเด็จฮุนเซนก็เพื่อขยายและพัฒนาความสัมพันธ์เพื่อนบ้านที่ดีงาม มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้งเป็นโอกาสให้ผู้นำทั้งสองประเทศแจ้งสถานการณ์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมต่อกันและหารือเกี่ยวกับปัญหาต่างๆของความสัมพันธ์ทวิภาคีเพื่อมุ่งผลักดันให้ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาพัฒนายิ่งขึ้น./.