พิธีต้อนรับประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกและภริยาได้มีขึ้นอย่างสมเกียรติ

ลาวเป็นประเทศแรกที่ประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกเลือกเดินทางไปเยือนหลังจากที่ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานประเทศ ซึ่งการเยือนนี้มีขึ้นภายหลังการเยือนเวียดนามของเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศลาว ทองลุน สีสุลิดเมื่อเดือนมิถุนายน โดยมีความหมายพิเศษ เป็นการยืนยันถึงแนวทางการต่างประเทศที่เสมอต้นเสมอปลายของทั้งสองประเทศ โดยให้ความสำคัญพิเศษต่อการเสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ ความสามัคคีพิเศษและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งมีส่วนช่วยกระชับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด ความไว้วางใจระหว่างผู้นำพรรคและรัฐในวาระใหม่

ความสัมพันธ์ที่ซื่อสัตย์พิเศษ

จากการเป็น 2 ประเทศเพื่อนบ้าน ความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องระหว่างสองประชาชาติเวียดนาม-ลาวนับวันได้รับการสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ดีงามที่มีมาช้านาน ความใกล้ชิดและซื่อสัตย์ระหว่างประชาชนเวียดนาม-ลาวที่ประธานโฮจิมินห์ ประธาน ไกสอน พมวิหานและประธานสุภานุวงศ์และผู้นำรุ่นต่อๆมา รวมทั้งประชาชนของทั้งสองประเทศทำนุบำรุงได้กลายเป็นสมบัติอันล้ำค่าของทั้งสองประชาชาติและเป็นกฎแห่งการพัฒนาร่วมของทั้งสองประเทศบนเส้นทางแห่งการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองและประชาชนมีความอิ่มหนำผาสุก

ในตลอด 59 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและ 44 ปีการลงนามสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือ ความร่วมมือระหว่างสองประเทศนับวันได้รับการเสริมสร้างและการยกระดับอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งสองประเทศได้ให้ความช่วยเหลือกันเพื่อพัฒนาและประสบผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มีความหมายทางประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคมและการต่างประเทศ ในสภาวการณ์ที่เกิดแพร่ระบาดของโรคโควิด -19  ผู้นำทั้งสองประเทศยังคงธำรงการพบปะระดับสูงในรูปแบบที่เหมาะสม ความร่วมมือในด้านการเมืองได้รับการกระชับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจกันอย่างลึกซึ้ง ดังนั้น เอกอัครราชทูตลาวประจำเวียดนาม แสงเพชร ห่วงบุ่นญวงจึงประเมินว่า การเยือนสันถวไมตรีลาวของประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกมีความหมายพิเศษ

“ผมคิดว่า การเยือนครั้งนี้มีส่วนช่วยที่สำคัญต่อการส่งเสริมเกียรติประวัติที่ดีงามและความมีชีวิตชีวาของความสัมพันธ์พิเศษลาว-เวียดนาม เปิดระยะใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองพรรค สองรัฐและประชาชนทั้งสองประเทศเพื่อผลักดันความสัมพันธ์มิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ ความสามัคคีพิเศษและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองพรรค สองรัฐและประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นการยืนยันว่า แม้สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและยากที่จะคาดเดาได้ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19 แต่ทั้งสองประเทศยังคงผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือและธำรงการพบปะระหว่างกัน  ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามัคคี ความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์เพื่อร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคและพัฒนาเพื่อความสุกของประชาชนทั้งสองประเทศ”

เอกอัครราชทูตลาวประจำเวียดนาม แสงเพชร ห่วงบุ่นญวง (Photo: หนังสือพิมพ์อุตสาหกรรมและพาณิชย์)

ความสัมพันธ์ที่นับวันใกล้ชิดมากขึ้น

ในกรอบการเยือนครั้งนี้ ประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกได้เจรจากับเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศลาว พบปะกับผู้นำของพรรค รัฐบาลและรัฐสภาลาวเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการผลักดันความร่วมมือทวิภาคีอย่างมีประสิทธิภาพและจริงจังตามข้อตกลงระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกจะเข้าร่วมพิธีเปิดอาคารรัฐสภาหลังใหม่ของลาว ซึ่งเป็นของขวัญของพรรค รัฐและประชาชนเวียดนามที่มอบให้แก่พรรค รัฐและประชาชนลาว เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์มิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ ความสามัคคีพิเศษลาว-เวียดนาม เอกอัครราชทูตลาวประจำเวียดนาม แสงเพชร ห่วงบุ่นญวงยืนยันว่า

“ ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและยากที่จะคาดเดาได้ ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองพรรค สองรัฐและประชาชนทั้งสองประเทศต้องผลักดันความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจกัน ส่งเสริมเกียรติประวัติแห่งความสามัคคีพิเศษและความร่วมมือในทุกด้าน ความช่วยเหลือจุนเจือกันเพื่อนำภารกิจการปฏิวัติของทั้งสองประเทศก้าวไปสู่สังคมนิยมอย่างมั่นคง”

ต่อจากการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศลาว ทองลุน สีสุลิดเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การเยือนสันถวไมตรีลาวของประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกเป็นการยืนยันอีกครั้งถึงความสัมพันธ์มิตรภาพพิเศษระหว่างสองพรรค สองรัฐและประชาชนทั้งสองประเทศที่นับวันใกล้ชิดมากขึ้น.