 นาย เจิ่นแทงเหมิน ประธานสภาแห่งชาติกล่าวปราศรัยปิดการประชุม (quochoi.vn) |
ที่ประชุมได้พิจารณา ตัดสินใจและเสร็จสิ้นเนื้อหาที่สำคัญๆ ในด้านนิติบัญญัติ การตรวจสอบสูงสุด แปรแนวทางและมติต่างๆ ของพรรคให้กลายเป็นความจริงผ่านการประกาศข้อกำหนดทางกฎหมายเพื่อมีส่วนร่วมต่อภารกิจสร้างสรรค์และปกป้องประเทศ
เสร็จสิ้นงานด้านบุคลากรระดับสูง
ที่ประชุมได้สงวนเวลา 2 วันแรกสำหรับงานด้านบุคลากรที่สำคัญ โดยอนุมัติมติเลือกนาย เจิ่นแทงเหมิน ให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาแห่งชาติวาระปี 2021-2026 อนุมัติมติเลือกพลตำรวจเอกโตเลิมเป็นประธานประเทศเวียดนามวาระปี 2021-2026 พร้อมทั้งจัดการลงคะแนนเลือกรองประธานสภาแห่งชาติ สมาชิกคณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติ อนุมัติการแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะและสมาชิกสภากลาโหมและความมั่นคง พร้อมทั้งปฏิบัติงานด้านบุคลากรต่างๆ ที่อยู่ภายใต้อำนาจของสภาแห่งชาติโดยได้รับความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์จากผู้แทนสภาแห่งชาติทุกท่าน การเสร็จสิ้นงานด้านบุคลากรนี้สามารถตอบสนองความต้องการของประเทศในสภาวการณ์ใหม่ นาย ตะวันหะ ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดกว๋างนามแสดงความคิดเห็นว่า
“เรามีความยินดีเป็นอย่างมากที่ประธานสภาแห่งชาติได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้แทนสภาแห่งชาติทุกคน ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบของผู้แทนสภาแห่งชาติเพื่อตอบสนองความต้องการของพรรคและสอดคล้องกับความปรารถนาของประชาชนในการเลือกบุคลากรมาบริหารประเทศ”
ปฏิบัติงานด้านนิติบัญญัติเป็นอย่างดี
ผู้แทนสภาแห่งชาติทุกคนต่างชื่นชมว่า นี่เป็นการประชุมแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่และคล่องตัวของสภาแห่งชาติ ซึ่งได้สร้างนิมิตหมายสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านนิติบัญญัติ โดยได้อนุมัติกฎหมาย 11 ฉบับและมติของสภาแห่งชาติอีก 21 ฉบับ รวมทั้งหารือและแสดงความคิดเห็นต่อร่างกฎหมายอื่นๆ อีก 11 ฉบับ โดยนับเป็นครั้งแรกที่สภาแห่งชาติได้อนุมัติให้กฎหมาย 4 ฉบับคือ กฎหมายที่ดิน กฎหมายที่อยู่อาศัย กฎหมายการประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และกฎหมายองค์กรสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติจากการประชุมครั้งก่อนมีผลบังคับใช้เร็วกว่ากำหนด คือตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมปี 2024 แทนวันที่ 1 มกราคมปี 2025 นอกจากนี้ มีนโยบายบางเรื่องที่ได้รับการอนุมัติจากสภาแห่งชาติและมีผลบังคับใช้ทันที เช่น การขยายเวลาบังคับใช้นโยบายการลดภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 2 ออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ และการปฏิรูปเงินเดือนขั้นพื้นฐาน เป็นต้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวของสภาแห่งชาติในการเปลี่ยนแปลงใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันตามข้อเสนอของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง สถานประกอบการและประชาชนทั่วประเทศ ส่วนปัญหาที่ได้รับการตัดสินใจจากสภาแห่งชาติก็ถือเป็นการยืนยันเกี่ยวกับเจตนารมณ์ที่ถือประชาชนและสถานประกอบการเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจต่างๆ ของสภาแห่งชาติ นาง เหงียนถิแทงเกิ่ม ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดเตี่ยนยาง แสดงความเห็นว่า
“ฉันประทับใจมากเพราะถึงแม้ที่ประชุมมีงานที่ต้องทำมากมาย แต่ก็มีการจัดแบ่งเวลาอย่างเหมาะสม ส่วนการอนุมัติร่างกฎหมายต่างๆ ก็ได้รับเสียงสนับสนุน 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมอย่างรอบคอบของทั้งรัฐบาล คณะกรรมาธิการต่างๆ และคณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติ ที่ช่วยสร้างความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์นี้ เราก็ตั้งความหวังต่อเอกสารและกฎหมายที่ได้รับการอนุมัติในการประชุมครั้งนี้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องถึงปัญหาที่ได้รับความสนใจจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประชาชน เช่น การปฏิรูปเงินเดือนขั้นพื้นฐาน เงิบบำนาญและกลไกการช่วยเหลือ เป็นต้น จะเข้าสู่ชีวิตโดยเร็ว”
สภาแห่งชาติเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและมีรับผิดชอบในปัญหาระหว่างประเทศ
ในกรอบการประชุมครั้งนี้ นอกจากหารือเกี่ยวกับปัญหาภายในประเทศแล้ว ด้วยเสียงสนับสนุนข้างมาก ที่ประชุมยังอนุมัติมติให้สัตยาบันเอกสารขอเข้าเป็นสมาชิกข้อตกลงซีพีทีพีพีของอังกฤษและไอร์แลนด์เหนือ นาย หวูหายห่า สมาชิกคณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติและหัวหน้าคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของสภาแห่งชาติได้ย้ำว่า
“การที่สภาแห่งชาติครั้งที่ 7 สมัยที่ 15 ได้ลงนามอนุมัติเอกสารนี้ช่วยให้เวียดนามเป็น 1 ใน 6 ประเทศซีพีทีพีพีแรกที่อนุมัติเอกสารดังกล่าว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและมีความรับผิดชอบของเวียดนามในการขยายความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนทวิภาคีระหว่างเวียดนามกับอังกฤษ ยืนยันบทบาทและสถานะของเวียดนามในภูมิภาคและโลก สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศ มีส่วนร่วมปรับปรุงระบบกฎหมายให้มีความสมบูรณ์และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่สถานประกอบการเวียดนาม”
ผู้แทนสภาแห่งชาติยังแสดงความเชื่อมั่นว่า จากความพยายามของสภาแห่งชาติ รัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นโยบายต่างๆ จะเข้าสู่ชีวิตโดยเร็วเพื่อมีส่วนร่วมเสร็จสิ้นเป้าหมายที่วางไว้ของเวียดนามในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในปี 2024 และในวาระ 2021-2026.