บรรดาผู้นำพรรคและรัฐเข้าร่วมการประชุมครั้งที่ 11 สภาแห่งชาติสมัยที่ 14 (Photo: VGP) |
การพิจารณา การอนุมัติให้พ้นจากตำแหน่งตามวาระ การลงคะแนนเลือกและอนุมัติตำแหน่งระดับสูงของรัฐก็เพื่อสร้างความมีเสถียรภาพด้านองค์กรและบุคลากร ตอบสนองการปฏิบัติตามมติการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 และเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการดำเนินงานของสภาการเลือกตั้งแห่งชาติเพื่อเตรียมพร้อมชี้นำงานด้านการจัดการเลือกตั้งต่อไป
ร่วมกันสามัคคีเพื่อฟันฝ่าอุปสรรค
ในการกล่าวในพิธีสาบานตนรับตำแห่ง บรรดาผู้นำรัฐ รัฐบาลและสภาแห่งชาติต่างตระหนักได้ดีว่า ประสบการณ์และผลสำเร็จของบรรดาผู้บริหารชุดก่อนเป็นสิ่งที่มีค่าเพื่อสานต่อและพยายามเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในเวลาข้างหน้าอย่างลุล่วงด้วยดี
จากการตระหนักถึงอุปสรรคและความท้าทายที่ประเทศยังต้องฟันฝ่าในเวลาที่จะถึง รวมทั้ง โอกาสต่างๆ บรรดาผู้นำชุดใหม่ได้ย้ำถึงจิตใจแห่งความสามัคคีของประชาชาติ ซึ่งผลสำเร็จของประเทศไม่ใช่แค่มองจากตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการฟันฝ่าวิกฤตโควิด -19 เท่านั้นหากยังรวมถึงจิตใจแห่งความสามัคคีและการแข่งขันรักชาติ โดยจากบทเรียนในอดีต เมื่อประเทศประสบอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ จิตใจแห่งความสามัคคี จิตใจแห่งเอกราช พลังแห่งความชอบธรรมและจิตใจใฝ่สันติภาพของประชาชนนับล้านคนถือเป็นแหล่งพลังที่สำคัญที่ช่วยนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้า
บนเจตนารมณ์นี้ บรรดาผู้นำประเทศได้ยืนยันว่า จะสามัคคี ประสานงานกับสำนักงานที่เกี่ยวข้อง มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดเพื่อรับฟังความคิดเห็นและความปรารถนาของประชาชนเพื่อนำไปพิจารณาปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างดีที่สุดเพื่อเป้าหมายสูงสุดคือการรับใช้เพื่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชาติ เพื่อความผาสุกของประชาชน ดั่งคำยืนยันของประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งเมื่อเช้าวันที่ 5 เมษายน
“ข้าพเจ้าขอส่งสารถึงประชาชนทั้งภายในและต่างประเทศว่า พรรคและรัฐจะอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชนเพื่อให้การเก็บเกี่ยวจะได้ผลดี เพื่อการผลิตและการประกอบธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เพื่อแปรความฝันของเด็กให้กลายเป็นความจริง เพื่อให้ผู้สูงอายุได้ใช้ชีวิตอย่างมีความหมายและเปี่ยมด้วยความสุข และเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ที่มีความปรารถนาในการอุทิศและสร้างสรรค์”
การประชุมครั้งที่ 11 สภาแห่งชาติสมัยที่ 14 (Photo: VGP) |
ความไว้วางใจจากประชามติ
สำหรับบรรดาผู้นำประเทศที่สภาแห่งชาติลงคะแนนเลือก บรรดาผู้แทนสภาแห่งชาติแสดงความเห็นว่า ประธานประเทศ นายกรัฐมนตรีและประธานสภาแห่งชาติล้วนเป็นผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญและมีประสบการณ์เพื่อที่จะสามารถดำเนินการบริหารชี้นำเพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาของประเทศ นาย เหงาะยวีเหียว ผู้แทนสภาแห่งชาติกรุงฮานอยได้เผยว่า
“ผมคิดว่า คณะผู้บริหารชุดใหม่จะสามารถบริหารประเทศเพื่อปฏิบัติตามความคาดหวังของประชาชาติคือสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามที่แข็งแกร่งและเจริญรุ่งเรือง บรรดาผู้นำชุดใหม่ล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์ มีความคล่องตัวและความรับผิดชอบสูงและเคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญต่างๆ ผมเชื่อมั่นว่า จากการที่มติการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 กำหนดแนวทางการพัฒนาของประเทศและคณะผู้นำชุดใหม่ที่มีความทุ่มเท ประเทศจะฟันฝ่าอุปสรรคและบรรลุเป้าหมายคือจนถึงกลางศตวรรษที่ 21 เวียดนามจะเป็นประเทศที่พัฒนาตามแนวทางสังคมนิยมอย่างสมบูรณ์”
ส่วนบรรดาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมีความเชื่อมั่นว่า บรรดาผู้นำประเทศจะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปด้วยดีตามคำมั่นที่ได้ให้ไว้ สามารถระดมแหล่งพลังจากทุกภาคส่วน มีนโยบายที่เข้มแข็งมากขึ้นเพื่อผลักดันการพัฒนาประเทศ
เกียรติประวัติแห่งการสร้างสรรค์และปกป้องประเทศของประชาชาติเวียดนามในทุกยุคทุกสมัยล้วนแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาในการพัฒนาประเทศด้วยความภาคภูมิใจและการพึ่งพลังตนเอง ซึ่งการที่บรรดาผู้นำระดับสูงของประเทศได้มีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์และความตั้งใจในการปฏิบัติจะมีส่วนที่สำคัญเพื่อภารกิจการสร้างสรรค์พลังที่แข็งแกร่งและสถานะของประเทศให้มั่นคงยั่งยืนต่อไป. /.