การเปลี่ยนแปลงใหม่ที่ชัดเจนที่สุดในการประชุมรัฐสภาครั้งนี้คือการตั้งและตอบกระทู้ถามของสมาชิกรัฐสภาโดยรัฐสภาได้สรุปผลการตั้งและตอบกระทู้ถาม การปฏิบัติคำมั่นที่ให้ไว้ของสมาชิกรัฐบาลตั้งแต่ต้นสมัยจนถึงปัจจุบัน รัฐสภาไม่เลือกสมาชิกรัฐบาลตอบกระทู้ถามตามกลุ่มปัญหาเหมือนที่เคยปฏิบัติ นาย เจิ่นหงอกวิง รองหัวหน้าคณะผู้แทนสมาชิกรัฐสภาเมืองท่าไฮฟองได้ประเมินว่า“ไม่เหมือนทำเนียมปฏิบัติ คำถามทุกข้อครอบคลุมในทุกด้านและเรียกร้องให้สมาชิกรัฐบาลทุกคนต้องตอบกระทู้ถามทุกข้อ มีคำถามหลายข้อที่เจาะลึกปัญหาและสะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอย่างจริงจัง”

จากการเปลี่ยนแปลงใหม่ทางวิธีการได้ช่วยให้คุณภาพการตั้งและตอบกระทู้ถามในการประชุมรัฐสภาครั้งนี้ได้รับการยกระดับให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นาง บุ่ยถิอาน สมาชิกรัฐสภากรุงฮานอยได้แสดงความเห็นว่า“บรรยากาศการอภิปรายในการประชุมเป็นไปอย่างดี ในการประชุมครั้งนี้ ทั้งสมาชิกรัฐสภาและคุณภาพการตั้งและตอบกระทู้ถามได้สร้างความประทับใจต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยเฉพาะในการประชุมครั้งนี้ ประธานรัฐสภา เหงียนซิงหุ่งได้ตอบกระทู้ถามซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง บรรยากาศความมีประชาธิปไตยในการประชุม”

การเปลี่ยนแปลงใหม่อีกประการหนึ่งในการประชุมครั้งนี้คือรัฐสภาได้ลงคะแนนเลือกตำแหน่งสำคัญๆ เช่นประธานสภาเลือกตั้งแห่งชาติและเลขาธิการรัฐสภาซึ่งมีส่วนร่วมเพิ่มความสมบูรณ์ของกิจกรรมของรัฐสภา

การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมปลายวาระรัฐสภาสมัยที่ 13 ดังนั้นในการประชุมนี้ รัฐสภาได้ตั้งหน้าที่หลักในการร่างกฎหมายเพื่อเสร็จสิ้นโครงการร่างกฎหมาย กฤษฎีการัฐสภาวาระนี้โดยได้อนุมัติกฎหมาย 16 ฉบับ มติ 4 ฉบับและแสดงความคิดเห็นเป็นครั้งแรกต่อร่างกฎหมายอื่น 8 ฉบับซึ่งมากกว่าการประชุมสมัยก่อน

นาย เยืองจุงก๊วก สมาชิกรัฐสภาจังหวัด่งนายได้แสดงความเห็นว่า“การประชุมได้นำเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญปี 2013 เข้าสู่ชีวิตด้วยการปรับปรุงระบบกฎหมายให้มีความสมบูรณ์ พร้อมทั้งอนุมัติประมวลกฎหมายบางฉบับที่เกี่ยวข้องถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์เช่นกฎหมายการทำประชาพิจารณ์ ประมวลกฎหมายอาญาและประมวลกฎหมายแพ่งซึ่งผมคิดว่า นี่คือสิ่งที่น่าสนใจเพื่อปรับปรุงกฎหมายให้มีความสมบูรณ์”

ในการประชุมครั้งนี้ รัฐสภาได้สงวนเวลา 12 วันเพื่อหารือ พิจารณาผลการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในปี 2015และในระยะ 5 ปีต่อไป นาย เจิ่นหว่างเงิน สมาชิกรัฐสภานครโฮจิมินห์ได้เผยว่า“พวกเรามีความคาดหวังว่า การขยายตัวด้านเศรษฐกิจจะสูงกว่าเป้าหมายที่ได้วางไว้ นับเป็นครั้งแรกภายในเวลา 5 ปี การขยายตัวจีดีพีในปี 2015 ได้รับการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับแผนการที่วางไว้คือร้อยละ 6.2 นอกจากนั้น กระบวนการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจได้บรรลุผลงานที่น่ายินดีและกฎหมายที่เกี่ยวข้องถึงเศรษฐกิจก็ได้เกิดประสิทธิผล”

สมาชิกรัฐสภาได้ย้ำว่า ส่วนงานที่เวียดนามให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆคือรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหาภาคและธำรงอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ สมาชิกรัฐสภาได้เสนอมาตรการปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียงและเคร่งครัดเพื่อผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ ควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัว เพิ่มความสมบูรณ์ของระเบียบเศรษฐกิจเชิงตลาดอย่างพร้อมเพรียงและทันสมัย รัฐสภายังเห็นพ้องกันว่า ในช่วงปี 2016-2020 เวียดนามตั้งเป้าไว้ว่า การขยายตัวด้านเศรษฐกิจจะอยู่ที่ร้อยละ 6.5-7 ต่อปี ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไอเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และรักษาสวัสดิการสังคม.