(VOVworld) –  ดังข่าวที่เราได้เสนอไปแล้ว ในที่ประชุมประจำเดือนกันยายนปี๒๐๑๒ ณ กรุงฮานอย เมื่อวันที่๒๗เดือนนี้ รัฐบาลเวียดนามได้วางเป้าหมายควบคุมเงินเฟ้อและสร้างเสถียรภาพให้เศรษฐกิจต่อไปซึ่งถือเป็นหน้าที่หลักในการบริหารและชี้นำการปฏิบัติหน้าที่พัฒนาเศรษฐกิจสังคมในเวลาที่จะถึง

การประชุมประจำเดือนกันยายนปี๒๐๑๒ของรัฐบาล(Photo:Internet)

 เหตุผลที่ต้องเน้นควบคุมเงินเฟ้อคือ ดัชนียราคาผู้บริโภคหรือเงินเฟ้อในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นร้อยละ๒.๒ซึ่งเป็นอัตราสูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีซึ่งตามรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบการเงินแห่งชาติ สาเหตุที่ดัชนียราคาผู้บริโภคในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นเนื่องจากกลุ่มสินค้าด้านการศึกษา เภสัชภัณฑ์ สาธารณสุข น้ำมัน และค่าโดยสารเพิ่มขึ้นโดยกลุ่มบริการสาธารณสุขเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือร้อยละ๒๓.๘ ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขNguyễn Thị Kim Tiếnกล่าวว่า เป็นผลมาจากงบประมาณการประกันสุขภาพซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ยากจน“รัฐบาลได้ซื้อบัตรประกันสุขภาพให้แก่ผู้ยากจนทุกคนและ เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลยังออกมติให้การประกันสุขภาพครอบคลุมการผ่าตัดหัวใจ การฟอกไต และโรคมะเร็ง นอกจากนี้ รัฐบาลยังซื้อบัตรประกันสุขภาพให้แก่ชนกลุ่มน้อย เด็กอายุต่ำกว่า๖ขวบและผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง สำหรับครอบครัวเกือบจะยากจน รัฐบาลได้ช่วยเหลือเงินประกันสุขภาพร้อยละ๓๐ และพวกเรากำลังเสนอให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือเงินประกันสุขภาพ๑๐๐% แก่ผู้ที่เพิ่งหลุดพ้นจากความยากจน สำหรับเกษตรกร นักเรียนและนักศึกษาก็ได้รับความช่วยเหลือเงินประกันสุขภาพร้อยละ๓๐ถึงร้อยละ๕๐”            ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นชั่วคราวเท่านั้นมิใช่ผลจากนโยบายเศรษฐกิจมหภาคแต่ปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลทางจิตวิทยา ด้วยเหตุนี้ หนึ่งในหน้าที่หลักที่รัฐบาลต้องเน้นชี้นำปฏิบัติในเวลาที่จะถึงคือการควบคุมราคาสินค้าและไม่ปล่อยให้เงินเฟ้อสูงถึงเลขหลักสิบ ท่านNguyễn Tấn Dũng นายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวว่า“ควบคุมราคาสินค้า รวมทั้งไม่ปล่อยให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นถึงเลขหลักสิบถือเป็นเป้าหมายในการสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจที่ต้องบรรลุให้ได้ในปีนี้และเป็นพื้นฐานในการพัฒนาอย่างยั่งยืนในปีต่อๆไป พวกเราจะไม่ปล่อยให้ราคาสินค้าและเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเนื่องจากการบริหาร”      

ท่านเหงวียนเติ้นหยุงนายกฯกล่าวต่อที่ประชุมของรัฐบาล

ในการควบคุมเงินเฟ้อ รัฐบาลได้กำชับให้ผลักดันอัตราการขยายตัวด้านสินเชื่อ ควบคุมระบบการชำระ รักษาอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้มีเสถียรภาพ ควบคุมดอกเบี้ย ไม่ปล่อยให้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ในด้านงบประมาณ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ลำบากปัจจุบัน ต้องพยายามสร้างความสมดุลย์ระหว่างรายรับและรายจ่ายโดยรักษาอัตรารายจ่ายมากกว่ารายรับร้อยละ๔.๘เท่านั้น  พยายามสร้างความสมดุลย์ระหว่างอุปสงค์กับอุปทาน ไม่ปล่อยให้เกิดการขาดแคลนสินค้าและราคาสินค้าถีบตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะข้าวและอาหารพร้อมทั้งพยุงและควบคุมราคาสินค้า รัฐบาลชี้นำปฏิบัติแนวทางบริหารราคาสินค้าตามกลไกตลาด โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจสังคมหลังจากที่ได้ทำการปรับปรุงราคาสินค้า เพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายตัวกว่าร้อยละ๕ในปี๒๐๑๒ รัฐบาลได้กำชับให้หน่วยงานต่างๆให้ความสนใจต่อการแก้ไขอุปสรรคในการผลิต การประกอบธุรกิจ ผลักดันการผลิต และการส่งออกสินค้าที่มีความได้เปรียบ เช่น ข้าว สัตว์น้ำ สินค้าสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องหนังและรองเท้า ให้ความสนใจพัฒนาการบริการที่มีความได้เปรียบ เช่น การท่องเที่ยว การเงิน ธนาคาร โทรคมนาคม การบิน เน้นแก้ไขปัญหาสินค้าค้างสต๊อก โดยเฉพาะวัสดุก่อสร้าง แก้ไขอุปสรรคให้แก่ตลาดอสังหาริมทรัยพ์เพื่อผลักดันการผลิตและประกอบธุรกิจในเวลที่จะถึง          การผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ รวมทั้ง การปรับปรุงโครงสร้างการลงทุนสาธารณะ สถานประกอบการภาครัฐ และธนาคารก็เป็นหน้าที่สำคัญที่รัฐบาลเน้นชี้นำการปฏิบัติจากนี้ถึงปลายปี ในการปรับปรุงโครงสร้างสถานประกอบการภาครัฐ รัฐบาลเน้นปรับปรุงโครงสร้างเครือบริษัท และสาขาอาชีพหลัก โดยเฉพาะ ปรับปรุงโครงสร้างธนาคารโดยเน้นแก้ไขปัญหาหนี้เสียควบคู่กับการแก้ไขปัญหาของธนาคารที่ประสบปัญหา นอกจากนี้ รัฐบาลยังกำชับให้กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นสร้างงานทำ แก้ปัญหาความยากจน ให้นักศึกษายากจนกู้เงินเพื่อการศึกษา ปฏิบัติเป้าหมายสวัสดิการสังคมให้ดีซึ่งเป็นมาตราการแบบเบ็ดเสร็จเพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายตัวในปีนี้และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในปีต่อๆไป ./.