(VOVworld) - วันที่ 5 กันยายน นายธูรา ฉ่วย มาน ประธานรัฐสภาพม่าเริ่มการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของท่านเหงียนซิงหุ่ง ประธานรัฐสภาเวียดนาม นี่เป็นการต่อยอดการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนในกรอบความร่วมมือทวิภาคีและอาเซียนในเวลาที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายสำคัญเพื่อสร้างกลไกการประสานงานระหว่างรัฐสภาทั้งสองประเทศและอำนวยความสะดวกให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนับวันยิ่งพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เวียดนามและพม่าได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 1975 และในปี 2015 ทั้งสองฝ่ายจะจัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้พยายามเสริมสร้างและขยายความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือในหลายด้านให้พัฒนายิ่งขึ้น โดยมีการเยี่ยมเยือนกันในระดับสูง เช่น การเยือนประเทศพม่าของท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามเมื่อเดือนเมษายนปี 2010 การเยือนเวียดนามของท่านเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีพม่าเมื่อเดือนมีนาคมปี 2012 และของนาย  คิน อ่อง มินท์ ประธานรัฐสภาพม่าเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2012 และการเยือนประเทศพม่าของท่านเหงียนซิงหุ่ง ประธานรัฐสภาเวียดนามเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2013 ทั้งสองฝ่ายได้มีการจัดการประชุมทาบทามทางการเมืองประจำปีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ

การที่รัฐสภาพม่าชุดใหม่ได้รับการเลือกตั้งอีกครั้งภายหลัง 20 ปี โดยเฉพาะรัฐบาลพม่า นำโดยประธานาธิบดีเต็งเส่งได้มีก้าวเดินที่กระตือรือร้นในนโยบายภายในและต่างประเทศ ผลักดันกระบวนประชาธิปไตยและผสมผสาน คือเงื่อนไขที่อำนวยความสะดวกให้แก่การขยายความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับพม่า

ในกรอบการเยือนพม่าเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2013 ท่านเหงียนซิงหุ่ง ประธานรัฐสภาเวียดนามและนายคินอ่องมินท์ ประธานรัฐสภาพม่าได้ลงนามในข้อตกลงร่วมมือฉบับแรกระหว่างรัฐสภาทั้งสองประเทศได้สร้างกรอบทางนิตินัยสำคัญให้แก่การปฏิบัติกิจกรรมความร่วมมือทวิภาคีระหว่างสองฝ่าย โดยได้มีความเห็นพ้องกันว่า ขยายการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านนิติบัญญัติ การเฝ้าติดตามและปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงกิจกรรมของรัฐสภา ผลักดันและเฝ้าติดตามการปฏิบัติข้อตกลงและความตกลงระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ การจัดตั้งกลุ่มส.ส. มิตรภาพเวียดนาม – พม่าและพม่า – เวียดนามเมื่อเร็วๆนี้จะเป็นสะพานเชื่อมให้แก่ความสัมพันธ์และมีความร่วมมือที่ดีงามดังกล่าว

ถ้าหากมองในภาพรวม ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างเวียดนามกับพม่าพัฒนายังไม่ทัดเทียมกับศักยภาพที่มีอยู่ของทั้งสองประเทศ ดังนั้น หน้าที่สำคัญในช่วงนี้ที่ผู้นำทั้งสองประเทศตั้งเป้าไว้คือ เพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2015 และ 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 เวียดนามและพม่าได้มีมาตรการขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเกษตร ป่าไม้ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คมนาคมขนส่งและพลังงานการดูแลสุขภาพและวัฒนธรรม นั่นคือ ขยายความสัมพันธ์และร่วมมือเมืองพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดและนครทั้งสองประเทศเพื่อขยายความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นเหล่านี้ในด้านที่ถือเป็นจุดแข็งของแต่ละฝ่าย ยกตัวอย่างเช่น จังหวัดบ่าเหรียะหวุงเต่ากำลังขยายความร่วมมือเมืองพี่เมืองน้องกับเขตตะนาวศรีของพม่าเกี่ยวกับการจับ เพราะเลี้ยงและแปรรูปสัตว์น้ำ ส่วนจังหวัดอานยางกำลังผลักดันความร่วมมือบ้านพี่เมืองน้องกับเขตอิรวดีเกี่ยวกับการปลูกข้าวนาดำ การเพาะเลี้ยงและแปรรูปสัตว์น้ำ นอกจากนี้ นครโฮจิมินห์และกรุงย่างกุ้งได้ลงนามในบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับการสถาปนาความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างสองนครและทั้งสองฝ่ายได้จัดงานแสดงสินค้าประจำปีเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และดึงดูดการลงทุนของสถานประกอบการ นายฝ่ามกวางวิงห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้ข้อสังเกตว่า“ในกระบวนการความร่วมมือในหลายปีที่ผ่านมา แม้ยังมีไม่มากนักแต่เวียดนามและพม่าได้สร้างกรอบและพื้นฐานความร่วมมือในทุกด้าน เช่น เศรษฐกิจ การค้า การเมือง การต่างประเทศ ความมั่นคงและกลาโหม และกำลังพยายามขยายความร่วมมือดังกล่าวให้พัฒนายิ่งขึ้น”