(VOVworld) – นิทรรศการนานาชาติเกี่ยวกับยาและอุปกรณ์การแพทย์จะจัดขึ้น ณ ประเทศพม่าในระหว่างวันที่๑๐ถึงวันที่๑๒กรกฎาคมซึ่งเป็นโอกาสเพื่อให้พม่าแนะนำหน่วยงานเภสัชกรรมและการแพทย์ของตนและเชิญชวนบรรดานักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศพม่า
|
ดร.ทาน ทาน เซน ประธานสมาพันธ์เภสัชกรและแพทย์พม่า(Photo:dautu ) |
นอกรอบการสัมมนาเพื่อแนะนำกิจกรรมนี้ ที่จัดขึ้น ณ กรุงฮานอย เมื่อเร็วๆนี้ ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามได้สัมภาษณ์ดร.ทาน ทาน เซน ประธานสมาพันธ์เภสัชกรและแพทย์พม่าเกี่ยวกับศักยภาพการลงทุนในตลาดยาและอุปกรณ์การแพทย์พม่า โดยผู้สื่อข่าวได้ถามดร.ทาน ทาน เซนเกี่ยวกับหน่วยงานเภสัชกรรมในพม่าเป็นอย่างไร? ดร.ทาน ทาน เซนตอบว่า “ปัจจุบันพม่ามีโรงงานผลิตยาของรัฐ๓แห่ง เมื่อก่อนนี้ ชาวพม่าชอบใช้ยาที่ผลิตภายในประเทศเนื่องจากมีคุณภาพดีแต่ปัจจุบันความช่วยเหลือของรัฐบาลด้านแหล่งวัตถุดิบเพื่อผลิตยาไม่สามารถตอบสนองความต้องการ ดังนั้น พวกเราจึงเรียกร้องให้สถานประกอบการเอกชนเข้าร่วมในด้านนี้ด้วย”
ต่อจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า รัฐบาลพม่าให้ความช่วยเหลือเช่นไรแก่หน่วยงานเภสัชกรรมและอุปกรณ์การแพทย์พม่า ดร.ทาน ทาน เซนตอบว่า “รัฐบาลพม่าได้พยายามบริหารด้านคุณภาพและสิ่งนี้ได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดีแต่การดำเนินงานของโรงงานผลิตยาและอุปกรณ์การแพทย์ยังไม่ดีนัก ในขณะเดียวกัน ความต้องการด้านยาและอุปกรณ์การแพทย์ของพม่านับวันยิ่งเพิ่มขึ้น ดังนั้น พม่าต้องนำเข้ายาจากประเทศอินเดียและไทย ด้วยเหตุนี้ นี่เป็นโอกาสเพื่อให้สถานประกอบการเวียดนามเจาะตลาดยาของพม่า”
ต่อคำถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า ความสะดวกสำหรับสถานประกอบการเวียดนามเมื่อเข้าลงทุนในพม่า? ดร.ทาน ทาน เซนตอบว่า “ปัจจุบัน พม่ากำลังพยายามเตรียมให้แก่ปี๒๐๑๕เมื่อประชาคมอาเซียนได้รับการจัดตั้งซึ่งทั้งเวียดนามและพม่าต่างเป็นสมาชิก นี่ถือเป็นความสะดวกที่มีต่อเวียดนาม นอกจากนี้ อาหารเวียดนามมีคุณค่าทางโภชนาการ ยาสมุนไพรของเวียดนามมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนั้นเวียดนามควรเน้นพัฒนาอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และผ่านโครงการศึกษาและระบบการศึกษาของพม่า เวียดนามสามารถประชาสัมพันธ์ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้แก่ประชาชนพม่า ดิฉันมีความเชื่อมั่นว่า สถานประกอบการเวียดนามจะประสบความสำเร็จในการลงทุนในตลาดยาและอุปกรณ์การแพทย์ของพม่า”./.