การใช้ประโยชน์จากข้อตกลง EVFTA และ EVIPA เพื่อส่งเสริมโอกาสการพัฒนาและการผสมผสาน
|
ข้อตกลง EVFTA และ EVIPA จะสร้างโอกาสที่ยิ่งใหญ่ให้แก่การขยายตัวทางการค้าและการลงทุนและรักษาสวัสดิการสังคม เมื่อข้อตกลง 2 ฉบับนี้ได้รับการปฏิบัติ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามจะได้รับการปรับปรุงทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว
มีส่วนช่วยชดเชยผลกระทบทางเศรษฐกิจในช่วงเกิดโรคระบาด
การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การผลิต การส่งออกและนำเข้าทั้งของเวียดนามและหุ้นส่วนต่างๆในทั่วโลก ในสภาวการณ์ดังกล่าว การที่ข้อตกลง EVFTA มีผลบังคับใช้มีความหมายที่สำคัญ มีส่วนช่วยชดเชยความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 สำหรับสถานประกอบการ ข้อตกลง EVFTA จะสร้างโอกาสในการเจาะตลาดที่หลากหลายมากขึ้นและสร้างแรงกระตุ้นการฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19
ในเวลาที่ผ่านมา สถานประกอบการเวียดนามต้องแข่งขันกับสถานประกอบการรายใหญ่จากทั่วโลกในตลาดยุโรป ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของสินค้าของเวียดนามในตลาดยุโรปมีไม่มากนัก สิ่งที่น่าสนใจคือมีสินค้าส่งออกของเวียดนามไปยังยุโรปเพียงร้อยละ 42 ที่ได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษี 0% ตามโครงการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไปหรือ GSP นาย เจิ่นแทงหาย รองอธิบดีกรมส่งออกและนำเข้าสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ได้เผยว่า จากคำมั่นเปิดตลาดอย่างเข้มแข็งและการยกเลิกภาษีนำเข้าถึงเกือบ 100% ในข้อตกลง EVFTA โอกาสการผลักดันการส่งออกของเวียดนามมีมากมาย โดยเฉพาะ เมื่อเวียดนามสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19 ได้เป็นอย่างดี ชมรมสถานประกอบการเวียดนามจะมีโอกาสและเป็นฝ่ายรุกมากกว่าสถานประกอบการของหลายๆประเทศ
“ ตลาดอียูเป็นตลาดใหญ่และมีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกและนำเข้าของเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดที่นิยมผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เป็นจุดแข็งของเวียดนาม เช่น สินค้าสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า สินค้าการเกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำ ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามได้เพิ่มส่วนแบ่งในตลาดนี้ การที่ข้อตกลง EVFTA มีผลบังคับใช้จะอำนวยความสะดวกให้แก่เวียดนามในการเข้าถึงตลาดนี้เนื่องจากภาษีสำหรับสินค้าส่งออกไปยังเขตนี้จะอยู่ที่ 0%”
ในภาคการนำเข้า สถานประกอบการเวียดนามได้รับประโยชน์จากแหล่งสินค้า วัตถุดิบที่มีคุณภาพที่ดี มีเสถียรภาพและราคาที่เหมาะสมจากอียู นาย เจิ่นหว่างเงิน ผู้แทนสภาแห่งชาตินครโฮจิมินห์ได้เห็นว่า
“เวียดนามไม่เพียงแต่ส่งออกสินค้าไปยังยุโรปเท่านั้นหากยังนำเข้าสินค้าจากยุโรปอีกด้วยและผู้บริโภคเวียดนามจะได้ซื้อสินค้าของยุโรปด้วยภาษี 0% ปัจจุบัน มูลค่าการส่งออกระหว่างสองฝ่ายอยู่ที่กว่า 5 หมื่น 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมูลค่าการนำเข้าจากอียูของเวียดนามอยู่ที่ 1 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่คืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล เภสัชภัณฑ์ เป็นต้น หลังจากที่ข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ผู้บริโภคเวียดนามจะสามารถซื้อสินค้าของยุโรปด้วยภาษี 0% นี่เป็นปัจจัยที่ดีมาก ”
การเพิ่มความสมบูรณ์ด้านกลไกเพื่อปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน
ข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปหรือ EVIPA กำหนดหลักการเพื่อค้ำประกันให้เวียดนามพัฒนาความสัมพันธ์กับอียูบนเจตนารมณ์แห่งการให้ความเคารพเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน สอดคล้องกับเป้าหมายที่ทั้งสองฝ่ายได้วางไว้ตามข้อตกลงความร่วมมือและหุ้นส่วนในทุกด้านเวียดนาม-อียู ควบคู่กับข้อตกลง EVFTA การปฏิบัติคำมั่นตามข้อตกลง EVIPA จะสร้างพลังขับเคลื่อนเพื่อผลักดันให้เวียดนามปรับปรุงเพิ่มความสมบูรณ์ด้านกลไกและนโยบายเพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุนและการประกอบธุรกิจที่ปลอดภัย มีความเสมอภาค โปร่งใสและอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน นาย เหงวียนวันเหย่า หัวหน้าคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์สภาแห่งชาติได้เผยว่า
“การให้สัตยาบันข้อตกลงนี้จะสร้างโอกาสการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ มีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม รวมทั้ง การเข้าถึงอุตสาหกรรมที่ทันสมัย เทคโนโลยีใหม่และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของประเทศยุโรป ควบคู่กับข้อตกลง EVFTA ข้อตกลง EVIPAจะดึงดูดประโยชน์จากการดึงดูดการลงทุนจากประเทศสมาชิกอียู สร้างโอกาสให้แก่บรรดานักลงทุนเวียดนามในการเจาะตลาดยุโรป สร้างกรอบทางนิตินัยให้แก่เวียดนามและนักลงทุนเวียดนามในการแก้ไขการพิพาทเมื่อสิทธิผลประโยชน์ถูกละเมิด”
จากการที่มีประชากร 508 ล้านคน ด้วยจีดีพีอยู่ที่ 18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อียูเป็นตลาดที่มีศักยภาพของเวียดนาม การที่สภาแห่งชาติได้อนุมัติมติว่าด้วยการให้สัตยาบันข้อตกลง EVFTA และEVIPAได้เป็นการเปิดทางให้เวียดนามเข้าถึงตลาดอียูและสร้างโอกาสการพัฒนาเศรษฐกิจในหลายด้าน.