(VOVworld) – ศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐกำลังเข้าสู่ระยะสำคัญ โดยผู้ลงสมัคร 2 คน คือนาง ฮิลลารี คลินตัน และมหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์ จะทำการโต้วาทีรอบแรกซึ่งได้รับการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ การโต้วาทีครั้งนี้มีความหมายสำคัญเพราะสามารถทำให้คะแนนสนับสนุนของผู้สมัครทั้งสองมีการเปลี่ยนแปลงได้ และเป็นการชี้ชะตาว่า ใครจะกลายเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐ
การโต้วาทีระหว่างผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐได้รับการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ (AFP)
|
เหลือเวลาอีกประมาณ 1 เดือนครึ่งก็จะถึงวันจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ดังนั้นในช่วงนี้ ผู้ลงสมัครทั้งสองคนคือ นาง ฮิลลารี คลินตั้นและมหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังแข่งกับเวลาเพื่อจัดการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งโน้มน้าวให้ผู้มีสิทธิ์สนับสนุนตน
ตามกำหนดการ นาง ฮิลลารี คลินตัน ผู้ลงสมัครของพรรคเดโมแครตและมหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ลงสมัครของพรรครีพับลิกันต้องเข้าร่วมการโต้วาที 3 รอบตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน โดยการโต้วาทีทั้ง 3 รอบจะได้รับการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ใหญ่ๆของสหรัฐ ซึ่งการโต้วาทีรอบแรกได้มีขึ้นในวันที่ 27 กันยายน ณ มหาวิทยาลัยฮอฟสตราในรัฐนิวยอร์ค
ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากประชามติ
การโต้วาทีระหว่างผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งได้รับการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ได้ถูกจัดขึ้นเป็นประจำตั้งแต่ปี 1960 และได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากชาวอเมริกัน คาดว่าการโต้วาทีรอบแรกระหว่างนาย โดนัลด์ ทรัมป์และนาง ฮิลลารี คลินตันจะได้รับความสนใจจากผู้ชมเกือบ 100 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรสหรัฐ ซึ่งสูงกว่าจำนวนผู้ชมการโต้วาทีระหว่างประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า กับผู้ลงสมัครของพรรครีพับลิกัน มิตต์ รอมนีย์ เมื่อ 4 ปีก่อน และสูงกว่าผู้ชมการโต้วาทีระหว่างนาย จิมมี คาร์เตอร์และนาย โรนัลด์ เรแกน เมื่อปี 1980 ที่มี 80 ล้านคน
ภายในเวลา 90 นาทีของการโต้วาที ผู้ลงสมัครทุกคนจะกล่าวสุนทรพจน์เพื่อแสดงความคิดเห็นและทัศนะของตน ตลอดจนตอบโต้จุดยืนของคู่แข่งใน 6 ด้านที่เกี่ยวข้องถึงหัวข้อของการโต้วาที สำหรับแต่ละหัวข้อ วิทยากรจะตั้งคำถามและผู้ลงสมัครจะมีเวลาตอบคำถาม 2 นาที โดย 3 หัวข้อของการโต้วาทีครั้งแรกคือแนวทางสำหรับอนาคตของสหรัฐ ต้องทำเช่นไรเพื่อให้สหรัฐเจริญรุ่งเรืองและปัญหาความมั่นคงของสหรัฐ ซึ่งประธานของการโต้วาทีจะส่งเนื้อหาที่เกี่ยวข้องถึงหัวข้อของการโต้วาทีให้แก่ผู้ลงสมัครก่อน 1 สัปดาห์เพื่อเตรียมพร้อมและวิจัยจุดแข็งและจุดอ่อนของคู่แข่ง
นาง ฮิลลารี คลินตัน ผู้ลงสมัครของพรรคเดโมแครต (AP)
|
การศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐที่ร้อนแรงระหว่างผู้ลงสมัคร 2 คน
นาง ฮิลลารี คลินตันและนาย โดนัลด์ ทรัมป์ได้เสร็จสิ้นการโต้วาทีรอบแรกซึ่งใช้เวลา 90 นาที ณ มหาวิทยาลัยฮอฟสตรา ในรัฐนิวยอร์ค โดยผู้ลงสมัครทั้ง 2 คนต่างใช้เวทีนี้เพื่อวิเคราะห์จุดยืนและนโยบายของอีกฝ่าย และนาง ฮิลลารี คลินตัน ถูกประเมินว่า สามารถสร้างความประทับใจได้มากกว่านาย โดนัลด์ ทรัมป์ ผลการสำรวจความคิดเห็นจากเว็บไซต์ fortute.com หลังจากการโต้วาทีเสร็จสิ้นลงปรากฎว่า นาง ฮิลลารี คลินตันได้รับเสียงสนับสนุนกว่าร้อยละ 54 ส่วนนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ร้อยละ 45 ถึงแม้ผลการสำรวจความคิดเห็นปรากฎว่า นาง ฮิลลารี คลินตัน กำลังมีคะแนนนำคู่แข่ง แต่เธอยังมีท่าทีที่ระมัดระวัง ก่อนหน้านั้นไม่กี่สัปดาห์ ทีมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของนาง ฮิลลาตรี คลินตัน ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาอาวุโส 2 คนคือ นาย Ron Klain และนาง Karen Dunn ให้ดูแลเนื้อหาของบทสุนทรพจน์ นอกจากการวิเคราะห์ข้อเสนอเกี่ยวกับนโยบายของนาย โดนัลด์ ทรัมป์แล้ว นาง ฮิลลารี คลินตัน ยังศึกษาวีดีโอรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อหาจุดอ่อนของเขา แต่ตามความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ ถึงแม้มีประสบการณ์ทางการเมือง แต่นาง ฮิลลารี คลินตั้น ก็ต้องมีความระมัดระวังต่อความสามารถในการกล่าวสุนทรพจน์ที่มีแรงโน้มน้าวดึงดูดความสนใจจากผู้ชมของมหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในรายการโทรทัศน์ต่างๆ
ในขณะเดียวกัน มหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังมีปัจจัยสำคัญซึ่งช่วยให้เขามีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในการโต้วาที ที่น่าสนใจคือนาย Roger Ailes อดีตผู้อำนวนการของช่อง Fox News ซึ่งสามารถให้การช่วยเหลือนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ในด้านเทคนิคและยุทธวิธีการอภิปราย ส่วนเรื่องการขาดประสบการณ์ทางการเมืองนั้น นาย โดนัลป์ ทรัมป์สามารถได้รับการช่วยเหลือจากพลโท Mike Flynn ผู้อำนวยการหน่วยงานข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมสหรัฐในช่วงปี 2012-2014
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสหรัฐรอคอยอะไร
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปีนี้มีขึ้นในช่วงที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่แสดงความไม่พอใจต่อสภาพเศรษฐกิจ ถึงแม้อัตราผู้ว่างงานได้ลดลง แต่สภาพของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงทำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมีความวิตกกัวล ดังนั้น นโยบายที่เป็นรูปธรรมเพื่อฟื้นฟูการพัฒนาของสหรัฐและวางยุทธศาสตร์ให้แก่อนาคตคือสิ่งที่ชาวอเมริกันต้องการได้ฟัง ต้องทำเช่นไรเพื่อเพิ่มเงินเดือนขั้นต่ำ พัฒนาการศึกษาและระบบสาธารณสุข และความเสมอภาคทางเพศเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง การเน้นถึงนโยบายที่เป็นรูปธรรมให้แก่ชาวอเมริกันจะสร้างความได้เปรียบให้แก่ผู้ลงสมัครในโค้งสุดท้ายเพื่อกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไป.