( VOVworld ) - ช่วง๔ เดือนนับจากนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจะเป็นช่วงของการช่วงชิงคะแนนเสียงระหว่างประธานาธิบดี บารัค โอบามา ตัวแทนพรรคเดโมแครตที่ลงแข่งเพื่อครองตำแหน่งผู้นำเป็นสมัยที่ ๒ และนาย มิตต์ รอมนีย์ ตัวแทนพรรค รีพับลิกัน ซึ่งจนถึงขณะนี้ สองคนยังได้รับคะแนนนิยมไล่เลี่ยกันที่มีโอกาสที่จะพลิกล็อกชนะกันได้ทุกเมื่อ กระแสประชามติสหรัฐกำลังตั้งคำถามว่า ผู้สมัครคนใดจะชนะและการหาเสียงเพื่อชิงเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาวตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะร้อนขึ้นทุกขณะ
|
ประธานาธิบดีโอบามาโจมตีนายมิตต์ รอมนีย์
|
จนถึงวันที่ ๑๖ ที่ผ่านมา ผลสำรวจล่าสุด ๑๓ ครั้งปรากฎว่า ผู้ลงสมัครสองคนคือประธานาธิบดีบารัค โอบามาและนายมิตต์ รอมนีย์ได้รับคะแนนนิยมไล่เลี่ยกัน โดยส่วนใหญ่คะแนนนิยมต่อนายบารัค โอบามาเหนือกว่านายรอมนีย์แต่ไม่มากนัก และสามารถพลิกผันได้ตลอดเวลา หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์และเอบีซีนิวส์ ฉบับวันที่ ๑๐ ที่ผ่านมารายงานว่า ผู้สมัครทั้วสองคนได้รับคะแนนนิยมเท่ากันคือร้อยละ ๔๗ ผลสำรวจของควินนีเพียค ยูนีเวอร์ซีตี โพลลิง อินสตีตุสที่ประกาศเมื่อวันที่ ๑๑ ที่ผ่านมาปรากฎว่า ประธานาธิบดี บารัค โอบามานำนายรอมนีย์ร้อยละ ๔๓ – ๔๐ ซึ่งห่างกันร้อยละ ๓ เท่ากับอัตราคลาดเคลื่อนบวกลบไม่เกินร้อยละ ๓ ส่วนผลสำรวจของสถาบันกาลลัปและฮัฟฟ์โพสต์คะแนนนิยมของสองคนไล่เลี่ยกันร้อยละ ๔๗ - ๔๕ และ๔๕.๙ – ๔๔.๑ ตามลำดับ โดยนายบารัค โอบามาเหนือกว่านายรอมนีย์ ด้วยเหตุนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญจึงคาดการณ์ว่า ในช่วงเวลานับจากนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้ง การช่วงชิงคะแนนเสียงเพื่อชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐนั้นจะดุเดือดยิ่งขึ้น
เพื่อลดความน่าเชื่อถือของคู่แข่งในการหาเสียง ณ มลรัฐเวอร์จีเนียเมื่อวันที่ ๑๔ ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้โจมตีและกล่าวหานายมิตต์ รอมนีย์ อายุ ๖๕ ปีที่เคยเป็นเจ้าของบริษัทชั้นนำของสหรัฐในเรื่องจ้างแรงงานต่างชาติและเลิกจ้างแรงงานที่อยู่ในอำนาจของตนจำนวนมาก อีกประเด็นที่นายบารัค โอบามานำมาโจมตีคือนายมิตต์ รอมนีย์มีนโยบายด้านการต่างประเทศที่ไม่มีการกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการถอนทหารสหรัฐออกจากอัฟกานีสถาน ข้อมูลการแสดงบัญชีทรัพย์สินของนายมิตต์ รอมนีย์นั้นมีมูลค่าประมาณ ๒๕๐ ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับเป็นจุดอ่อนของนายรอมนีย์ จนถูกโจมตีเป็นพวกเศรษฐีไฮโซ ไม่ติดดิน โดยใช้จุดอ่อนนี้ประธานาธิบดี บารัคโอบามาได้เรียกร้องให้รัฐสภายกเลิกการยกเว้นภาษีก่อนกำหนดให้กับคนรวยซึ่งเป็นนโยบายของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยูบุชจากพรรครีพับลิกันและจำเป็นต้องขยายเวลาการยกเว้นภาษีให้แก่ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า ๒๕๐,๐๐๐ เหรียญสหรัฐต่อปี ประเด็นนี้ได้ทำให้นายบารัค โอบามาได้รับคะแนนนิยมจากกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งหัวอนุรักษ์นิยมในมลรัฐเวอร์จีเนีย จากการโจมตีดังกล่าว นายบารัค โอบามาหวังจะได้รับเสียงสนับสนุนเหมือนเมื่อปี ๒๐๐๘ ต่อจากเวอร์จีเนีย ประธานาธิบดีโอบามาจะหาเสียงต่อที่มลรัฐโอไฮโอ เพนซีลเวเนียและไอโอวา ซึ่งเป็นฐานเสียงของตน
|
|
ในขณะเดียวกัน คู่แข่งของประธานาธิบดีคนปัจจุบันก็ไม่น้อยหน้า โดยพรรครีพับลิกันได้โจมตีด้วยการกล่าวหานายบารัค โอบามาในเรื่องการตัดงบประมาณทางทหารที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปี ๒๐๑๓ หลังจากที่ประชุมรัฐสภาสหรัฐเมื่อฤดูไม้ผลักใบปีที่แล้วไม่สามารถหามาตรการที่เป็นเอกภาพเพื่อลดการขาดดุลย์งบประมาณ ความล้มเหลวในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามาถือเป็น " จุดตาย " ที่ฝ่ายคู่แข่งนำมาโจมตี โดยเมื่อวันที่ ๑๑ ที่ผ่านมา นายมิตต์ รอมนีย์ได้มีก้าวเดินที่ถือว่ามีความกล้าเพื่อดึงคะแนนนิยมจากกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่สนับสนุนคู่แข่งของตน โดยนายรอมนีย์ได้กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมของสมาพันธ์แห่งชาติเพื่อความก้าวหน้าของคนผิวสีหรือเอ็นเอเอซีพี ซึ่งเป็นองค์กรปกป้องสิทธิพลเรือนที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ซึ่งได้แสดงการปกป้องชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงาน นับเป็นความพยายามของนายรอมนีย์ที่เป็นเศรษฐีที่ไม่ติดดินที่กำลังพยายามใกล้ชิดกับคนผิวสียิ่งขึ้น ผู้ที่สนับสนุนนายรอมนีย์ได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ชื่นชมนายรอมนีย์ที่กล้าเสนอทัศนะการเมืองของตนต่อกลุ่มผู้สนับสนุนนายบารัค โอบามา อดีตผู้ว่ามลรัฐแมสซาซูเซตต์มิตต์ รอมนีย์เห็นว่า แม้ช่วงเวลาดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีบารัก โอบามามีลักษณะแห่งประวัติศาสตร์ก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถทำให้ชาวอเมริกันพ้นจากความยากจน อีกทั้งยังทำให้ครอบครัวคนผิวสีต้องถอยหลัง นอกจากนี้ นายมิตต์ รอมนีย์ยังหวังจะได้รับเสียงสนับสนุนจากคนผิวสีที่ได้สนับสนุนนายบารัค โอบามาในการเลือกตั้งเมื่อปี๒๐๐๘ เนื่องจากตัวเลขอัตราคนว่างงานค่อนข้างสูงอยู่ที่ร้อยละ ๘ เป็นเวลา ๔๑ เดือนที่ติดต่อกันและตัวเลขล่าสุดอัตราคนว่างงานในกลุ่มคนผิวสีก็สูงถึงร้อยละ๑๔.๔ ส่วนวันที่ ๑๒ ที่ผ่านมาประธานาธิบดีบารัค โอบามาเองก็ได้ยอมรับที่ไม่ได้ส่งเสริมความสามัคคีชนในชาติ ความตั้งใจและความเห็นลู่ทางที่แจ่มใสในวาระแรกของตน ณ ทำเนียบขาว นับเป็นจุดอ่อนของฝ่ายพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเร็วๆนี้
ปัจจุบัน การหาเสียงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐกำลังย่างเข้าสู่ระยะที่ดุเดือด คู่แข่งสองคนกำลังพยายามใช้ความได้เปรียบของตนและจุดอ่อนของอีกฝ่ายเพื่อหวังชิงคะแนนเสียงสนับสนุนข้างมาก และไม่สามารถคาดเดาได้ว่าใครจะได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนเหนือกว่าคู่แข่ง ซึ่งการแข่งขันนี้ได้สร้างบรรยากาศการเลือกตั้งที่น่าดึงดูดใจและน่าติดตามอย่างมาก แต่ไม่ว่าใครจะชนะ สิ่งที่ชาวอเมริกันฝากความหวังไว้ก็คือ ผู้ที่ได้เป็นประธานาธิบดีต้องวางนโยบายที่ชัดเจนสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่กำลังตกอยู่ในวังวนของเศรษฐกิจถดถอยให้ดีขึ้น ./.