องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้เป็นพันธมิตรทางทหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกเนื่องจากมี 6ประเทศจากทั้งหมด 28 ประเทศที่เป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมพัฒนาหรือจี 7 เข้าร่วม
หลังจากการประชุมสุดยอดเมื่อเดือนกันยายนปี 2014 ณ เขตเวลส์ นาโต้ได้ดำเนินแผนการเสริมสร้างศักยภาพในการป้องกันตนเองครั้งใหญ่นับตั้งแต่สงครามเย็น แต่ดูเหมือนว่า แผนการนี้ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้แก่นาโต้ดังนั้น บรรดาผู้นำพันธมิตรทางทหารที่ใหญ่ที่สุดนี้หวังว่า ประเทศสมาชิกจะอนุมัติยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงใหม่ในการประชุมสุดยอดนาโต้ครั้งนี้
ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงใหม่
ก่อนการประชุมดังกล่าว นาย เจนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ได้ให้ข้อสังเกตว่า ปัจจุบัน กองกำลังของนาโต้มีความเข้มแข็งมากขึ้นและพร้อมที่จะสู้รบ แต่ก็ยังคงดำเนินแผนการต่างๆ รวมถึงการเพิ่มการปรากฎตัวทางทหารใกล้เขตชายแดนทางทิศตะวันออกของกลุ่ม โดยในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยมเมื่อวันที่ 4 ที่ผ่านมา นาย เจนส์ สโตลเตนเบิร์ก ได้เผยว่า นาโต้มีแผนส่งทหารนานาชาติ 4 กองพันไปยังประเทศเอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนียและโปแลนด์ รวมทั้งเสริมกำลังทหารอีก 1 กองพลในประเทศโรมาเนีย  เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ตและพัฒนาศักยภาพในการป้องกันและรับมือการโจมตีด้วยขีปนาวุธนำวิถี
ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงใหม่ที่จะได้รับการหยิบยกขึ้นมาหารือในการประชุมสุดยอดนาโต้ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในระเบียบวาระของการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนาโต้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม โดยบรรดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนาโต้ได้ยืนยันถึงการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ที่เน้นเพิ่มศักยภาพของกลุ่มในภูมิภาคยุโรปตะวันออก โดยได้ถอนทหารออกจากประเทศนอกกลุ่ม เช่น โคโซโว ลิเบียและอัฟกานิสถานเพื่อระดมกำลังปกป้องประเทศสมาชิกของกลุ่มในยุโรปตะวันออก เขตทะเลบอลติก ทะเลแบเร็นตส์และทะเลดำ สำหรับกระบวนการต่อต้านกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงนั้น นาโต้ก็ไม่ได้ส่งทหารเข้าร่วม หากให้การสนับสนุนโดยทางอ้อมต่อประเทศและพันธมิตรนานาชาติเพื่อต่อต้านกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงเท่านั้น ส่วนสำหรับการซ้อมรบครั้งต่างๆของนาโต้ ณ โปแลนด์เมื่อเร็วๆนี้ก็เป็นการฝึกซ้อมขนส่งทหารและยุทธปัจจัย และพัฒนาท่าเรือทหารริมฝั่งทะเลบอลติกเป็นกองบัญชาการทหารที่ใหญ่ที่สุดของนาโต้ในยุโรปตะวันออก

ปัญหาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง
การประชุมสุดยอดนาโต้ครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่อังกฤษ ซึ่งเป็น 1 ในสมาชิกที่เข้มแข็งของนาโต้ได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ อียู ซึ่งทำให้เศรษฐกิจของอังกฤษอยู่ในภาวะซบเซาและส่งผลกระทบไม่น้อยต่อค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมของนาโต้  ส่วนสหรัฐกำลังละเลยไม่ปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้กับนาโต้ โดยแนวทางการหาเสียงเลือกตั้งของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นตัวเต็งของพรรครีพับลิกันได้สร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการอยู่อย่างสันโดดของสหรัฐ โดยเฉพาะบรรดาผู้นำประเทศตะวันตกที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดนาโต้ครั้งนี้จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเร็วๆนี้ เช่น นายเดวิด คาเมรอนนายกรัฐมนตรีอังกฤษและนาย บารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ในขณะที่นาย ฟรองซัว อองลองค์ และนาง อังเกลา แมร์เคิล  จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีเยอรมนีอีกสมัยหรือไม่นั้นจะขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสและนายกรัฐมนตรีเยอรมนีภายในปี 2017
ในขณะเดียวกัน ประเทศสมาชิกนาโต้ก็ต้องพิจารณาท่าทีที่แข็งกร้าวของรัสเซียต่อการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงของกลุ่ม โดยก่อนหน้านั้น ทางการของนาย วลาดีเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้ส่งจรวด รถถังและทหารมาประจำที่  Kaliningrad ที่ติดกับประเทศโปแลนด์และลิทัวเนีย ซึ่งทำให้มีความวิตกกังวลว่า รัสเซียอาจติดตั้งขีปนาวุธพิสัยใกล้ติดหัวรบนิวเคลียร์ในเขต  Kaliningradหลังการประชุมสุดยอดนาโต้ ณ ประเทศโปแลนด์  และล่าสุดนี้คือเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา นาย วลาดีเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียก็ได้กล่าวถึงแนวทางนโยบายการต่างประเทศใหม่ของรัสเซีย โดยยํ้าว่า การเพิ่มการปรากฎตัวของนาโต้ในเขตชายแดนที่ติดกับรัสเซียนั้นถือเป็นการต่อต้านรัสเซีย ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ฝ่ายตกอยู่ในภาวะเผชิญหน้า
การประชุมสุดยอดนาโต้ครั้งนี้อาจจะอนุมัติยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงใหม่ แต่แน่นอนว่า บรรดาผู้นำนาโต้จะต้องพิจารณาถึงแผนการปฏิบัติอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าด้านทหารกับรัสเซียและไม่ทำให้สถานการณ์ในยุโรปตึงเครียดมากขึ้น.