(VOVworld)- ในกว่า32ปีที่มีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาของบริษัทผลิตนม วีนามิลค์ และเป็นผู้บริหารของบริษัทแห่งนี้ถึง20ปี นางมายเกี่ยวเลียน วีรชนแรงงานและประธานคณะกรรมการบริหาร รวมทั้งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัทหุ้นส่วนนมวีนามิลค์ถือเป็นสตรีคนหนึ่งที่มีความมั่นคงและมีความคิดสร้างสรรค์ในการนำบริษัทฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆเพื่อก้าวเข้าสู่ตลาดต่างประเทศจากผลงานที่ที่ผ่านมา เธอได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน50นักธุรกิจหญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดของเอเซียจากนิตยสาร Forbes
เมื่อต้นเดือนมีนาคมนี้และนี่ไม่เพียงแต่เป็นความภาคภูมิใจของเธอเท่านั้นหากยังเป็นของสตรีเวียดนามทุกคนอีกด้วย

นางมายเกี่ยวเลียน วีรชนแรงงานและประธานคณะกรรมการบริหาร รวมทั้งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัทหุ้นส่วนนมวีนามิลค์

นาง มายเกี่ยวเลียน นักธุรกิจหญิงวัย58ปี ประธานคณะกรรมการบริหารและผู้อำนวยการใหญ่ของ วีนามิลค์ ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่มีรายได้มากถึง1พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และเธอยังเป็นคนเวียดนามคนเดียวที่นิตยสาร Forbes นิตยสารด้านการเงินเศรษฐกิจชั้นแนวหน้าของโลกจัดให้อยู่ในอันดับที่25ของนักธุรกิจหญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเอเซีย โดยนิตยสารนี้ได้เขียนเกี่ยวกับเธอด้วยวาทีที่เคารพนับถือว่า ผู้อำนวยการหญิงที่มีความคล่องตัวผู้นี้ได้ทำให้บริษัทวีนามิลค์พัฒนาเป็นสถานประกอบการชั้นนำของเวียดนาม  เธอได้เกิดและเติบโตที่ประเทศฝรั่งเศส จบการศึกษาด้านวิศวกรสาขาการผลิตและแปรรูปนมที่ประเทศรัสเซียและกลับเวียดนามเมื่อปี1976ตอนอายุ22ปี  เธอเข้าทำงานในบริษัทผลิตนมและกาแฟภาคใต้ก็คือบริษัท วินามิลค์ในปัจจุบัน  ในระหว่างการทำงานเธอได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางด้านวิชาชีพจนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่างๆมาจนถึงปัจจุบัน  โดยเฉพาะเมื่อรัฐมีนโยบายส่งเสริมการแปรรูปสถานประกอบการภาครัฐเป็นหุ้นส่วน ซึ่งก็เป็นช่วงที่บริษัทได้สร้างก้าวกระโดดใหม่อย่างน่าประทับใจ โดยทางบริษัทได้นำเข้าเครื่องจักรที่ทันสมัยเพื่อการผลิตนมสดและยอมลดกำไรเพื่อสนับสนุนการพัฒนาการเลี้ยงโคนมภายในประเทศด้วยการรับซื้อนมจากเกษตรกรในราคาที่สูงกว่าราคานำเข้า

พัฒนาฟาร์มเลี้ยงโคนม

นอกจากนี้ทางบริษัทยังทำการวิจัยเพื่อออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและนับจนถึงปลายปี2011 รายได้ของวินามิลค์นั้นมีมากถึง1หมื่นล้านเหรียญสหรัฐโดยรายได้ร้อยละ14มาจากการส่งออก และส่วนแบ่งในตลาดภายในประเทศก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและได้รับความนิยมจากผู้บริโภค นาง เลหว่างมาย ผู้บริโภคนครโฮจิมินห์กล่าวว่า ดิฉันรู้สึกสบายใจเมื่อให้ครอบครัวบริโภคผลิตภัณฑ์ของวินามิลค์ เมื่อก่อนนี้บริษัทมีแค่นมข้นต่อมาก็มีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนมผงสำหรับเด็ก Dielac Anfa ลูกๆของดิฉันดื่มแต่ผลิตภัณฑ์นี้และเห็นว่ามีคุณภาพดีไม่แพ้นมนำเข้าแต่ราคาถูกกว่าถึงครึ่งหนึ่ง.

ทางบริษัทได้ลงทุนประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลืต

ตามความเห็นของ นางมายเกี่ยวเลียน หากจะเป็นผู้บริหารก็ต้องรู้จักสร้างความสามัคคีในการฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวงเพื่อมุ่งปฏิบัติเป้าหมายเดียวกันและวินามิลค์ก็สามารถทำได้สำเร็จ โดยเธอและพนักงานอีก4พันคนได้มีความพยายามอย่างเต็มที่และมีความสร้างสรรค์เพื่อเปลี่ยนแปลงใหม่และสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพโดยทุกคนต่างตระหนักดีว่า วินามิลค์ เป็นครอบครัวใหญ่แห่งที่สองของตน นางฝามห่งแหง พนักงานบริษัท วินามิลค์ กล่าวว่า

ผู้อำนวยการใหญ่เป็นคนที่มีมิตรไมตรีและไม่ถือตัว ซึ่งในการทำงานที่นี่ดิฉันได้เรียนรู้หลายอย่างจากท่านโดยเฉพาะความเรียบง่ายและความมุ่งมั่นต่อหน้าที่การงาน ถ้าอยากทำอะไรก็พยายามทำให้สำเร็จ

ในกว่า30ปีที่ร่วมเดินไปกับบริษัท สิ่งที่ทำให้เธอไม่สบายใจอยู่ตลอดเวลาก็คือทำอย่างไรเพื่อสร้างแหล่งวัตถุดิบภายในประเทศได้อย่างสมบูรณ์เพื่อที่จะไม่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศและสร้างงานทำให้แก่เกษตรกร ปัจจุบัน นอกจากฟาร์มเลี้ยงโคนม5แห่งแล้ว ทางบริษัทก็ได้วางแผนขยายฟาร์มไปยังท้องถิ่นอีกหลายแห่งเพื่อเป้าหมายถึงปี2017จะสามารถใช้วัตถุดิบในประเทศได้ร้อยละ50 ในด้านการตลาดนั้น นอกจากมีส่วนแบ่งกว่าร้อยละ60ในตลาดภายในประเทศแล้ว ผลิตภัณฑ์ของบริษัทยังได้ส่งออกไปยัง16ประเทศและนับวันยิ่งสามารถยืนยันสถานะของวินามิลค์ได้อย่างมั่นคงในตลาดโลก นางมายเกี่ยวเลียน กล่าวว่า  ตอนแรกๆพวกเราเน้นเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเด็กและผู้ป่วยเพราะเศรษฐกิจของประเทศยังไม่เอื้ออำนวยจึงทำให้ผู้ที่มีโอกาสดื่มนมมีไม่มาก แต่ปัจจุบันนี้ เมื่อเศรษฐกิจพัฒนาดีขึ้น นอกจากเด็กๆแล้วพวกเราก็พยายามให้ผู้บริโภคทุกคนมีโอกาสดื่มนมเช่นกัน ตอบสนองความต้องการภายในประเทศและผลักดันการส่งออก ถ้าเราสามารถครองใจผู้บริโภคได้เราก็มีโอกาสที่จะพัฒนายิ่งขึ้น.

สนับสนุนนมให้แก่เด็กจังหวัด กว๋างหงาย

จากผลสำเร็จในการสร้างเครื่องหมายการค้าที่มั่นคงให้แก่วินามิลค์ นางมายเกี่ยวเลียนได้แสดงความมั่นใจว่า บริษัทของตนไม่น้อยหน้าเมื่อทำการแข่งขันกับเครื่องหมายการค้านมของต่างชาติและปรารถนาว่า จะพัฒนาให้บริษัทวินามิลค์กลายเป็นกลุ่มบริษัทผลิตอาหารที่เข้มแข็งและติด1ใน50บริษัทผลิตนมชั้นนำของโลกด้วยรายได้3พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปีก่อนปี2017./.