เขตท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ก๊าวโหย่งได้รับการจัดตั้งเมื่อปี2003 ซึ่งพื้นที่อยู่ในเขตป่าเสม็ดของต.ก๊าวโหย่ง อ.กาวแหลง จ.ด่งทาบ ห่างจากนครโฮจิมินห์ประมาณ150กิโลเมตร ที่นี่เป็นเขตป่าเสม็ดธรรมชาติพร้อมระบบคูคลองรวมกว่า70กิโลเมตร มีบรรยากาศที่บริสุทธิ์ปลอดโปร่งและยังเป็นแหล่งปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของเขตด่งทาบเหมื่อยอีกด้วย ดังนั้นจึงได้กลายเป็นแหล่งอาศัยของนกชนิดต่างๆเช่น นกเป็ดน้ำ นกกาน้ำ นกนางนวลแดง โดยเฉพาะนกระสาขาว ซึ่งมีบางช่วงที่ฝูงนกกระสาขาวที่นี่มีมากกว่าหลายหมื่นตัว

ก่อนเดินเข้ามาชมสวนนกก๊าวโหย่ง นักท่องเที่ยวจะได้ขึ้นหอชมนกสูง18เมตรเพื่อชมภาพรวมของสวนจากที่สูง นาย เหงวียนก๊วกดาด ช่างภาพที่มีประสบการณ์ในการถ่ายภาพที่สวนนกแห่งนี้ได้เผยว่า“สวนนกและป่าเสม็ดแห่งนี้ได้รับการจัดตั้งเมื่อปี1986 ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังคงความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ ที่นี่ได้มีการสงวนพื้นที่400เฮกต้าเพื่อเป็นแหล่งอนุรักษ์และสงวนพันธุ์ปลาและพันธุ์นกพิเศษที่อยู่ในหนังสือปกแดง นอกจากนี้ในพื้นที่ชุ่มน้ำของก๊าวโหย่งยังมีพันธุ์พืชธรรมชาติต่างๆที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของด่งทาบเหมื่อยเช่น ดอกบัวหรือแห้วทรงกระเทียม ซึ่งเป็นอาหารที่นกหลายชนิดชอบกิน”

หลังจากได้ยืนชมสวนนกบนหอชมพร้อมฟังคำบรรยายเกี่ยวกับสวนนก ท่านจะได้ลงเรือไม้เพื่อเข้าไปชมอาณาจักรของนกเพื่อสัมผัสกับสภาพแวดล้อมและชีวิตของนกชนิดต่างๆในธรรมชาติอย่างใกล้ที่สุด แม้จะเป็นช่วงเช้าตรู่หรือช่วงอาทิตย์ตกดิน สวนนกก็คึกคักด้วยเสียงนกร้องในหลากหลายจังหวะ ฝูงนกกระสาขาวที่บินกลับรังเกาะเต็มกิ่งไม้หรือฝูงนกเป็ดน้ำแดงที่กำลังหากินตามพื้นดินหรือบางตัวบินร่อนลงมาแย่งเหยื่อซึ่งสร้างเป็นภาพที่น่าประทับใจแห่งลีลาของธรรมชาติ นายเหงวียนวันหาย ไกด์ท้องถิ่นเผยว่า“ที่ด่บทาบเหมื่อยมีสองฤดูคือหน้าฝนและหน้าแล้ง หน้าฝนเริ่มตั้งแต่เดือน10จันทรคติจนถึงเดือน6จันทรคติปีต่อไป ซึ่งเป็นช่วงที่นกชนิดต่างๆบินมาหากินและขยายพันธุ์เพราะเป็นช่วงที่แหล่งอาหารนั้นอุดมสมบูรณ์มาก แต่ก็มีการแบ่งเขตตามฝูงตามชนิดของนกอย่างมีระเบียบ”

ส่วนในช่วงหน้าแล้ง สถานที่แห่งนี้สามารถใช้เป็นที่จัดกิจกรรมแคมป์ปิ้งหรือล่องเรือเที่ยวป่าเสม็ด ตกปลาและลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่หาทานได้เฉพาะในเขตด่งทาบเหมื่อย เช่น ปลาช่อนห่อกากบัวย่าง พืชป่าจิ้มน้ำจิ้มสูตรชาวภาคใต้ งูย่าง แกงส้มปลาลิงดอกเดียนเดี๋ยน หรือดื่มเหล้าน้ำผึ้งต้นเสม็ด เป็นต้น จากการพัฒนาระบบคมนาคมที่สะดวกทั้งทางบกและทางน้ำพร้อมการบริการท่องเที่ยวที่เป็นมืออาชีพทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเขตก๊าวโหย่งได้เพิ่มขึ้นทุกปี.