(VOVworld)- ฤดูน้ำขึ้นในเขตด่งทาบเหมื่อยจะเริ่มตั้งแต่เมื่อปริมาณน้ำจากต้นน้ำของแม่น้ำโขงที่ไหลลงสู่ตอนล่างเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งก็ถือเป็นช่วงที่ธรรมชาติและวิถีชีวิตของคนที่นี่มีความคึกคักที่สุดในปีและก็เป็นช่วงที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุด
เขตด่งทาบเหมื่อยอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ราว200กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่มีความหลากหลายที่สุดของประเทศเพราะยังคงความเป็นธรรมชาติและแสนโรแมนติก โดยเฉพาะในฤดูน้ำขึ้นที่พืชพันธุ์เจริญงอกงามและอุดมสมบูรณ์ นี่ก็เป็นช่วงที่วิถีชีวิตของชาวท้องถิ่นคึกคักด้วยกิจกรรมการเก็บเกี่ยวโดยเฉพาะปลาลิงและดอกเดียนเดี๋ยน ซึ่งเป็นของขวัญจากธรรมชาติที่ชาวท้องถิ่นรอคอยทั้งปีเมื่อน้ำเข้าท่วมเต็มทุ่งนา นายดว่านวันนาม อาศัยในอ.เมืองจ่ามจิม เผยว่าปกติเขาประกอบอาชีพเป็นกรรมกรก่อสร้างแต่เมื่อถึงฤดูน้ำขึ้นเขาได้ตั้งกระท่อมกลางทุ่งเพื่อวางข่ายจับปลาลิง “อาชีพกรรมกรก่อสร้างนั้นลำบากกว่าการจับปลา เมื่อน้ำท่วมพื้นที่ท้องทุ่งเราก็มาจับปลาไม่ต้องกลัวจะเจอคลื่นลมแรง ปีนี้ปลาเยอะกว่าปีก่อนซึ่งเราก็มีปลากิน มีเผื่อขายเพิ่มรายได้ด้วย”
|
ในช่วงนี้ที่อุทยานจ่ามจิม หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของด่งทาบเหมื่อยได้กลายเป็นแหล่งหากินของนกหลายชนิดโดยเฉพาะนกกระสา โดยภาพของฝูงนกที่บินเต็มท้องฟ้าเหนือทุ่งนาหรือเกาะเต็มกิ่งไม้เหมือนปุยเมฆขาวได้สร้างเป็นภาพที่สวยงามให้แก่จ่ามจิม แต่หลังจากที่น้ำเริ่มลดลง ที่จ่ามจิมจะเป็นแหล่งหนีหนาวของฝูงนกกระเรียนหัวแดงซึ่งเป็นนกที่หายากที่ถูกระบุในหนังสือปกแดงซึ่งก็เป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชอบค้นคว้าธรรมชาติ สัมผัสกับชีวิตของนกป่า ซึ่งภาพของฝูงนกที่กางปีกโบยบินใต้แสงตะวันที่ลาลับขอบฟ้านั้นก็ได้สร้างอารมณ์ศิลป์ให้ช่างภาพเก็บเสี้ยวนาทีแห่งลีลาธรรมชาติอันน่าทึ่งนี้และก็มีผลงานหลายชิ้นที่สามารถคว้ารางวัลในการประกวดภาพถ่ายทั้งในและต่างประเทศ
เมื่อถึงฤดูน้ำขึ้น ธรรมชาติในเขตด่งทาบเหมื่อยยังถูกเติมแต่งสีสันที่สวยงามด้วยทุ่งดอกบัวที่กว้างไกล ซึ่งมีทั้งดอกสีขาวและสีชมพูที่บานสะพรั่งอวดโฉมงดงามส่งกลิ่นหอมอบอวนโชยไปตามลมจนกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของด่งทาบเหมื่อย
ทุกปีเมื่อถึงฤดูน้ำขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือน8-11ตามจันทรคติ ด่งทาบเหมื่อยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวนับหมื่นคนโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีโอกาสมาเที่ยวในช่วงนี้ต่างประทับใจเป็นอย่างมากทั้งในความงดงามของธรรมชาติ รสชาดของอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่นรวมถึงมิตรไมตรีที่ดีของชาวท้องถิ่น.