(VOVworld) – อำเภอNam Đông ในจังหวัดThừa Thiên เว้เป็นอำเภอที่กำลังปฏิบัติโครงการพัฒนาชนบทใหม่เป็นการนำร่องในช่วงปี๒๐๑๑ถึงปี๒๐๑๕  ที่นี่มีประชากรเกือบ๔หมื่น๕พันคนซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยโดยชนเผ่าCơ Tu มีประชากรมากที่สุด  ส่วนที่เหลือคือชนเผ่าTà Oi Pa Co Pa Hy และVân Kiều        

เส้นทางเข้าอำเภอNam Đông(Photo:Internet )

ตำบลThượng Nhật อำเภอNam Đông มีประชากรเกือบ๕๐๐คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าCơ Tu  ชีวิตของประชาชนที่นี่ต้องพึ่งพาต้นยางพารา การทำสวนและการปลูกป่า มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรอยู่ที่๑๐ล้านด่งหรือประมาณ๑๔๓๐๐บาทต่อปี หลังจากที่ตำบลได้รับการคัดเลือกให้เป็นตำบลที่ปฏิบัติการพัฒนาชนบทใหม่เป็นการนำร่อง รัฐได้ลงทุน๖พัน๒ร้อยล้านด่งหรือประมาณ ๘๘๕๗๐๐๐บาทเพื่อก่อสร้างถนนคอนกรีต ซ่อมแซมและยกระดับสถานีอนามัย โรงเรียนอนุบาล หอวัฒนธรรมและสนามออกกำลังกายซึ่งจนถึงปัจจุบัน ตำบลนี้ได้๑๐มาตรฐานจากทั้งหมด๑๙มาตรฐานของการพัฒนาชนบทใหม่ นายNguyễn Ngọc Mới ประธานแนวร่วมปิตุภูมิตำบลThương  Nhật กล่าวว่า “คณะกรรมการแนวร่วมปิตุภูมิและทางการปกครองตำบลได้เดินทางไปหาทุกครอบครัวเพื่อประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจแนวทางการพัฒนาชนบทใหม่ ในจำนวน๑๙มาตรฐาน  มาตรฐานไหนที่ปฏิบัติได้ง่ายก็จะรณรงค์ให้ประชาชนทำก่อน มาตรฐานไหนที่ปฏิบัติยากก็จะทำทีหลัง ประชาชนได้สนับสนุนแนวทางพัฒนาชนบทใหม่อย่างเต็มที่โดยบางครอบครัวได้มอบที่ดินและต้นไม้ให้”     
 ส่วนที่ตำบลHương Son ชนเผ่าCơ Tu ๓๐๐ครอบครัวได้ปลูกยางพาราเกือบ๔๐๐เฮกตาร์ และกระถินเทศ๓๐๐เฮกตาร์ หลายครอบครัวมีรายได้ตั้งแต่๖๐ถึงกว่า๑๐๐ล้านด่งหรือประมาณ ๘๕๐๐๐ถึง๑๔๓๐๐๐บาทต่อปีจากการทำสวนและเลี้ยงสัตว์  จากการสนับสนุนแนวทางการพัฒนาชนบทใหม่ พี่น้องประชาชนที่นี่ได้ลงทุนเพื่อขุดบ่อน้ำและก่อสร้างถนนคอนกรีตระหว่างหมู่บ้าน นายTrân Xuân Bh’Lá ประชาชนตำบลHương Sơnกล่าวว่า “ชาวบ้านทุกคนมีความประสงค์ว่า หมู่บ้านจะพัฒนามากขึ้น มีต้นไม้สีเขียว มีถนนกว้างและสะอาด นอกจากนี้ จากการชี้นำอย่างใกล้ชิดของทางการปกครองอำเภอและตำบลก็ทำให้ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจพัฒนาชนบทใหม่ ปัจจุบันมีถนนคอนกรีตที่ตลอดสองข้างทางมีต้นไม้ซึ่งทำให้คุณภาพชีวิตของชาวบ้านดีขึ้น”โครงการพัฒนาชนบทใหม่ของอ.NamĐông จังหวัด Thừa Thiên เว้ ในช่วงปี๒๐๑๑ถึงปี๒๐๑๕เน้นการทำสวนและปลูกป่าอย่างยั่งยืนโดยพยายามสร้างรายได้จากการทำสวนตั้งแต่๒๗ถึง๓๐ล้านด่งต่อเฮกตาร์ต่อปีหรือประมาณ ๓๘๐๐๐-๔๒๐๐๐บาท  จากการปลูกยางพาราตั้งแต่๔๕ถึง๕๐ล้านด่งหรือประมาณ ๖๔๓๐๐ถึง๗๑๔๐๐บาทและจากการปลูกป่าตั้งแต่๔๐ถึง๔๕ล้านด่งหรือประมาณ๕๗๒๐๐ ถึง ๖๔๓๐๐บาท ปัจจุบันในพื้นที่อำเภอ Nam Đôngปกคลุมไปด้วยสีเขียวของต้นยางพารา กระถินเทศ ต้นหมากและมันสัมปะหลัง นายNgô Văn Chiến ประธานคณะกรรมการประชาชนอำเภอNam Đông กล่าวว่า “อำเภอNam Đôngพยายามปฏิบัติให้ได้มาตรฐานชนบทใหม่ในปี๒๐๑๕ซึ่งในปี๒๐๑๒มี๒ตำบลได้มาตรฐานชนบทใหม่แล้ว ส่วนในปี๒๐๑๔ และในปี๒๐๑๕จะเพิ่มตำบลที่ได้มาตรฐานอีกปีละ๓ตำบล รวมเป็นทั้งหมด๘ตำบล ส่วนตำบลThượng LongและตำบลHương Huuที่มีครอบครัวที่ยากจนจำนวนมาก จะพยายามให้ได้ร้อยละ๘๐ของมาตรฐานพัฒนาชนบทใหม่ในปี๒๐๑๕ ”     
นอกจากมาตรฐานพื้นฐาน๑๙ข้อของการพัฒนาชนบทใหม่แล้ว มาตรฐานที่เหลือคือ ทุกตำบลมีตลาด  และการปรับเปลี่ยนแรงงานจากภาคการเกษตรมาเป็นแรงงานภาค อุตสาหกรรมถือว่าเป็นมาตรฐานที่ปฏิบัติยาก นายTần Văn Biển ประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลThượng Nhật กล่าวว่า “ตำบลThượng Nhậtได้๑๐มาตรฐานจากทั้งหมด๑๙มาตรฐานของการพัฒนาชนบทใหม่ มาตรฐานที่ปฏิบัติยากที่สุดคือพัฒนาแรงงานภาคอุตสาหกรรม เพราะว่าประชาชนที่นี่ปลูกป่าและทำไร่ทำนาเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น การบรรลุมาตรฐานแรงงานภาคอุตสาหกรรมร้อยละ๓๕จึงยากมาก ประเด็นที่๒คือ การยกเลิกบ้านชั่วคราว   เพื่อบรรลุ๑๙มาตรฐานในปี๒๐๑๕ ทางการปกครองตำบลยังคงรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนร่วมแรงร่วมใจพัฒนาชนบทใหม่ต่อไป โดยเฉพาะ มอบหมายหน้าที่ให้องค์การมวลชนติดตามการปฏิบัติแต่ละมาตรฐานและเจ้าหน้าที่บริหารและสมาชิกพรรคต้องเป็นแบบอย่างในการพัฒนาชนบทใหม่”       
 เมื่อมาเยือนอำเภอNam Đôngในปัจจุบัน ทุกคนต่างมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของผืนแผ่นดินนี้ที่มีถนนคอนกรีตและโรงเรียนถาวร เจ้าหน้าที่บริหารและประชาชนชนเผ่าต่างๆกำลังทุ่มเทแรงกายและแรงใจให้แก่การพัฒนาชนบทใหม่ จากวิธีการทำที่มีความคิดสร้างสรรค์และสอดคล้องกับความปรารถนาของประชาชน อำเภอ Nam Đôngไม่เพียงแต่พยายามบรรลุมาตรฐานของการพัฒนาชนบทใหม่เท่านั้นหากยังพยายามกลายเป็นแบบอย่างในการพัฒนาชนบทใหม่ที่จังหวัดThừa Thiênเว้ในปี๒๐๑๕อีกด้วย./.