พิพิธภัณฑ์ถ่ายภาพลายสา (Photo: Hanoimoi) |
หมู่บ้านลายสา ตำบลกิมจูง อำเภอหว่ายดึ๊ก อยู่ห่างจากใจกลางกรุงฮานอยไปทางทิศตะวันตกประมาณ15กิโลเมตร ซึ่งอาชีพช่างภาพของหมู่บ้านลายสาได้รับการก่อตั้งเมื่อปลายศตวรรษที่19 ซึ่งเอกสารที่ถูกเก็บรักษาของหมู่บ้านได้บันทึกว่า ผู้สร้างอาชีพพื้นเมืองของหมู่บ้านคือนาย เหงวียนดิ่งแค้งหรือมีอีกชื่อคือ แค้งกี๊ ซึ่งเป็นหนึ่งในช่างภาพที่มีชื่อเสียง4ท่าน ที่ถูกระบุชื่อในสารานุกรมเวียดนามประกอบด้วย นาย ดั๋งฮวีชื้อ แค้งกี๊ หวออานนิงและดิงดังดิ๋ง ท่านแค้งกี๊มีคุณูปการเนื่องจากเผยแพร่อาชีพช่างภาพจากต่างประเทศให้แก่ชาวบ้าน จนกลายเป็นอาชีพพื้นเมืองของหมู่บ้านและพัฒนาไปทั่วประเทศ นาย แค้งกี๊ เป็นผู้รักชาติที่เข้าร่วมขบวนการดงกิงเหงียถุกอย่างแข็งขัน เขาได้เปิดร้านถ่ายรูปในเมืองตูลูสและปารีส นาย เหงวียนมิงเหญิด ช่างศิลป์ของหมู่บ้านลายสาได้เผยว่า “หลังจากที่ท่าน แค้งกี๊สอนอาชีพนี้ ลูกหลานในตระกูลและชาวบ้านต่างเปิดร้านถ่ายรูปในทั่วประเทศและในประเทศต่างๆ เช่น ลาว จีนและเยอรมนีเป็นต้น ลูกศิษย์หลายคนไปด้วยกับท่านทำงานในประเทศฝรั่งเศส เมื่อก่อนนี้ พ่อแม่เปิดร้านถ่ายรูปที่ไหน ลูกหลานก็เปิดตาม ครอบครัวของผมมี4รุ่นประกอบอาชีพช่างภาพ หมู่บ้านลายสามีช่างศิลป์4ท่านที่ได้รับการรับรองจากรัฐ”
อาชีพช่างภาพของหมู่บ้านลายสาพัฒนาที่สุดในช่วงกลางศตวรรษที่20 ชาวบ้านลายสาได้เปิดร้านถ่ายรูป200แห่งในจังหวัดและนครต่างๆทั่วประเทศและต่างประเทศ ซึ่งร้านถ่ายรูป กิมลาย หมีลาย หวานฮวา ยวีเติน อานกี๊ ถิงกี๊ ถิงกี๊และเถียนกี๊ของหมู่บ้านลายสามีชื่อเสียงในทั่วประเทศ นาย ดั๋งวันติ๊ก ผู้สูงอายุคนหนึ่งของหมู่บ้านลายสาได้เผยว่า“เมื่อปี1890 ตอนท่านแค้งกี๊ อายุ16ปี เขาเรียนอาชีพในร้านถ่ายรูปยูเจืองของชาวจีนในกรุงฮานอยและ เมื่อปี1892 ท่าน แค้งกี่ ได้เปิดร้านถ่ายรูปแห่งแรกในถนนห่างยา กรุงฮานอย หลังจากนั้น ท่านแค้งกี๊ได้ชวนญาติพี่น้องประกอบอาชีพช่างภาพ ชาวบ้านลายสาถือปีแรกที่ท่านแค้งกี๊เปิดร้านถ่ายรูปเป็นปีก่อตั้งอาชีพพื้นเมืองของหมู่บ้าน เมื่อปี1913 ในจำนวนนักข่าวและช่างภาพต่างชาตินับร้อยคนที่ถ่ายภาพประธานาธิบดีฝรั่งเศส ท่าน แค้งกี๊ เป็นคนที่ถ่ายสวยที่สุด ซึ่งภาพถ่ายของท่านได้รับการตีพิมพ์บนหนังสือพิมพ์ต่างๆของฝรั่งเศส”
|
ช่างภาพลายสาต่างรู้จักทุกวิธีการถ่ายภาพ การล้างฟิลม์ การขยายภาพ อีกทั้ง ลายสามีเทคนิคการถ่ายภาพและความลับในการทำน้ำยา จึงสามารถถ่ายภาพที่สวยงามแม้จะอยู่ในเงื่อนไขที่ไม่สะดวกก็ตาม นาย ดั๋งวันติ๊ก ได้เผยว่า“ สถานที่อื่นใช้เวลาล้างฟิล์มแช่น้ำยา2-3รอบแต่ชาวลายสาต้องแช่น้ำยานับสิบรอบเพราะช่วยให้ภาพถ่ายไม่อมสีเหลือง ชาวบ้านลายสานิยมทำอาชีพช่างภาพมาก โดยชาวบ้านทุกคนต่างรู้จักวิธีการถ่ายภาพ นาย หวูดิ่งโห่ง ชาวบ้านลายสาที่ได้มีโอกาสถ่ายภาพให้แก่ประธาน โฮจิมินห์ นายกรัฐมนตรี ฝามวันด่ง ประธานประเทศ ตนดึ๊กทั้งและเลขาธิการใหญ่พรรคเจื่องจิง”
เมื่อเร็วๆนี้ หมู่บ้านลายสาได้เปิดพิพิธภัณฑ์ถ่ายภาพลายสา ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกที่ได้รับการก่อสร้างด้วยเงินทุนที่สมทบจากประชาชน นาย เหงวียนวันทั้ง หัวหน้าหมู่บ้านศิลปาชีพช่างภาพลายสาและหัวหน้าสโมสรช่างภาพเหงวียนดิ่งแค้งได้เผยว่า “เมื่อปี2003 พวกเราได้จัดตั้งสโมสรช่างภาพ เหงวียนดิ่งแค้ง โดยสมาชิกของสโมสรฯได้ส่งผลงานไปเข้าร่วมงานนิทรรศการต่างๆในกรุงฮานอยและท้องถิ่นต่างๆ”
ถึงแม้ ชาวบ้านลายสาได้แยกย้ายกันไปเปิดร้านถ่ายรูปในทั่วประเทศเพื่อสร้างฐานะแต่เมื่อถึงวันที่20เดือน4ตามจันทรคติทุกๆปี ซึ่งเป็นวันถึงแก่อสัญญกรรมของท่าน แค้งกี๊ ชาวบ้านต่างกลับบ้านเกิดเพื่อรำลึกถึงผู้ก่อตั้งอาชีพพื้นเมืองของหมู่บ้าน จากประวัติศาสตร์มาเป็นเวลา125ปี ชาวบ้านลายสาได้ส่งเสริมเอกลักษณ์ศิลปะการถ่ายภาพเวียดนาม ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของชาวบ้านลายสา.