บ้านไม้ยกพื้นของครอบครัวชนกลุ่มน้อยเผ่าหนุ่งที่นี่ |
หมู่บ้านกว๋างหว่าตั้งอยู่ในหุบเขาที่โอมล้อมด้วยสวนกาแฟและสวนยางพาราที่เขียวขจี ห่างจากตัวตำบลอีอาตามประมาณ 4 กิโลเมตร มองจากใกลๆท่ามกลางสวนกาแฟอันเขียวขจี บ้านไม้ยกพื้นของครอบครัวนาย นง วัน มินห์ ในหมู่บ้านกว๋างหว่า ดูโดดเด่นด้วยหลังคากระเบื้องสีแดงใหม่ๆ ซึ่งเขาเล่าว่า บ้านของครอบครัวยังคงรักษาสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในตามแบบดั้งเดิมของชนเผ่าหนุ่ง โดยครอบครัวของเขาย้ายจากจังหวัดกาวบั่งมาตั้งถิ่นฐานที่จังหวัดดั๊กลั๊กตั้งแต่ปี 1987 สภาพอากาศที่นี่เอื้ออำนวยต่อการปลูกพืชหลายชนิด ซึ่งจากความขยันหมั่นเพียร เขาก็สามารถสร้างฐานะที่มั่นคงได้
“หลังจากมาย้ายอาศัยและพัฒนาการผลิตที่นี่ เราก็มีฐานะที่มั่นคงกว่าเดิม ผมเองก็พยายามอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมและประเพณีของชนกลุ่มน้อยเผ่าหนุ่งอานเพื่อสืบทอดให้แก่คนรุ่นหลัง นั่นคือรากเงาของเรา ไม่สามารถทิ้งได้และหวังว่า คนรุ่นหลังจะอนุรักษ์ต่อไป”
นาย หว่างดิ่งเติน เลขาธิการพรรคสาขาหมู่บ้านตามเดี่ยนเผยว่า บ้านกว๋างหว่ามีครอบครัวเกือบ 60 ครอบครัว โดยมีถึง 58 ครอบครัวที่สร้างบ้านไม้ยกพื้นตามแบบสถาปัตยกรรมของชนกลุ่มน้อยเผ่าหนุ่งอาน โดยมี 5 ห้อง มีบันไดอยู่นอกเรือนด้านหน้าทางซ้าย ขั้นบันไดต้องเป็นเลขคี่เพื่อให้ครอบครัวประสบแต่ความโชคดีและการทำงานสะดวก ลุล่วง ส่วนเตาไฟตั้งอยู่ในห้องหลักของบ้าน ซึ่งไม่เพียงแต่ใช้เพื่อปรุงอาหารและให้ความอบอุ่นเท่านั้น หากยังถือว่าเป็นเทพเจ้าที่นำโชคดีมาให้ครอบครัวอีกด้วย
“ชาวบ้านที่นี่ยังคงอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยเผ่าหนุ่งในชีวิตประจำวัน เช่น ในงานแต่งงานและงานศพ ส่วนคนรุ่นใหม่ก็สามารถพูดภาษาชนเผ่าหนุ่งได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งหมู่บ้านมีบ้านที่ปลูกแบบใหม่แค่ 2 หลัง ส่วนที่เหลือต่างบ้านไม้ทั้งหมด”
ในตำบลอีอา ตาม มีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่รวม 19 เผ่า โดยชนกลุ่มน้อยเผ่าไต – หนุ่งคิดเป็นเกือบร้อยละ 90 ในเวลาที่ผ่านมา ทางตำบลได้เน้นพัฒนาเศรษฐกิจสังคมพร้อมกับการอนุรักษ์และส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆ โดยเฉพาะที่บ้าน กว๋างหว่า ยังคงสามารถอนุรักษ์บ้านไม้ยกพื้นและอาชีพทอผ้าย้อมครามเอาไว้ได้ นอกจากนี้ ก็กำลังฟื้นฟูการร้องเพลงทำนองเหลือนและการร้องเพลงรักโต้ตอบระหว่างหนุ่มสาว ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ที่จะช่วยให้ท้องถิ่นสามารถพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงชุมชน
นาง ลาเบ๊ถวีจาง รองประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลอีอา ตาม เผยว่า ทุกครัวเรือนในตำบลฯ มีพื้นที่ปลูกกาแฟและผลไม้ที่มีคุณภาพสูง เช่น ทุเรียน แมคคาเดเมียและอะโวคาโด ดังนั้น ฐานะความเป็นอยู่ของชาวบ้านจึงดีขึ้นและมีส่วนร่วมต่อการสร้างสรรค์ชนบทใหม่อย่างเข้มแข็ง อีกทั้งช่วยให้ชาวบ้านสามารถรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยเผ่าหนุ่งเอาไว้ได้
“ควบคู่กับการอนุรักษ์และพัฒนาเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่าตน ชาวบ้านในบ้านกว๋างหว่ายังร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจ แก้ปัญหาความยากจน ชาวบ้านส่วนใหญ่มีฐานะที่มั่นคง”
บ้านไม้ยกพื้นในสวนกาแฟที่เขียวขจีที่บ้านกว๋างหว่าได้แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยเผ่าหนุ่งที่พยายามอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมที่ดีงามให้แก่คนรุ่นหลังต่อไป./.