ศ. ไหมแหลง ผู้อำนวยการศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา หัวหน้าสถาบันกฎหมายสังกัดมหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศกรุงปักกิ่ง |
นี่คือคำยืนยันของ ศ. ไหมแหลง ผู้อำนวยการศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา หัวหน้าสถาบันกฎหมายสังกัดมหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศกรุงปักกิ่งในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนาม ศ. ไหมแหลง เผยว่า การที่เวียดนามและจีนสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาตร์ในทุกด้านได้แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างสองฝ่ายที่ได้รับการเสริมสร้าง ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดผ่านการพบปะในระดับสูงที่มีขึ้นเป็นประจำ ควบคู่กันนั้น ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้เพิ่มขึ้น 10 เท่านับตั้งแต่ปี 2008 โดยเมื่อปีที่แล้ว เวียดนามเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในอาเซียนและเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ลำดับที่ 4 ของจีน รองจากสหรัฐ ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี ศ. ไหมแหลง เผยว่า “ผมคิดว่า ศักยภาพของความร่วมมือระหว่างจีนกับเวียดนามสดใสเป็นอย่างมาก เวียดนามได้ปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงใหม่และเปิดประเทศ ส่วนจีนก็ปฏิบัติการปฎิรูปและเปิดประเทศเช่นกัน เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศได้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ซึ่งเราควรขยายความร่วมมือเพื่อผลักดันการปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศต่อไป ในอนาคต จีนและเวียดนามมีศักยภาพความร่วมมือในหลายด้าน เช่น เทคโนโลยีขั้นสูง เทคโนโลยีอัจฉริยะ เทคโนโลยีชีวภาพและรถไฟความเร็วสูง.