นายกรัฐมนตรีเวียดนามและนายกรัฐมนตรีจีน |
การเยือนประเทศจีนได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับจีนกำลังธำรงแนวโน้มการพัฒนาและประสบผลที่น่ายินดีต่างๆ โดยความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างสองประเทศได้รับการเสริมสร้าง ส่วนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนได้รับการธำรง
เวียดนามสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้เป็นอย่างดี สถานการณ์เศรษฐกิจสังคมมีการฟื้นตัวและประสบผลอย่างที่น่ายินดีและรอบด้าน เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพในขั้นพื้นฐาน ภาวะเงินเฟ้อได้รับการควบคุม การขยายตัวได้รับการผลักดันและความสมดุลใหญ่ๆ ได้รับการค้ำประกัน เวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจและสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของประชาคมระหว่างประเทศในกลไกความร่วมมือพหุภาคีต่างๆ
ปฏิบัติผลงานและความเข้าใจร่วมระหว่างเวียดนามกับจีนอย่างรอบด้าน
การเยือนประเทศจีนครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งถือเป็นโอกาสเพื่อกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อปฎิบัติความเข้าใจในทุกด้านระหว่างผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศในการพบปะเมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การขยายความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านต่างๆ โดยเฉพาะเศรษฐกิจ- การค้าและการลงทุน นาย ตงอวี่ รองหัวหน้าสถาบันวางแผนพัฒนาสังกัดมหาวิทยาลัยชิงหวา ให้ข้อสังเกตว่า
“เวียดนามให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจดิจิทัลในขณะที่ในหลายปีมานี้ จีนก็ผลักดันความเป็นกลางทางคาร์บอน ดังนั้น ทั้งสองประเทศมีศักยภาพสูงในการร่วมมือ โดยเฉพาะเวียดนามกำลังพัฒนาอี – คอมเมิร์ซ ส่วนจีนมีพื้นฐานในด้านนี้ที่มั่นคง นอกจากนี้ เวียดนามมีประชากรถึง 100 ล้านคน ถือเป็นตลาดใหญ่ที่จีนอยากส่งออกสินค้ามากขึ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่สองประเทศจะหาได้โอกาสและผลประโยชน์ร่วมกันในการร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า”
ในการเยือนครั้งนี้ ผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศยังหารือถึงมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมความขัดแย้ง ธำรงบรรยากาศแห่งสันติและเสถียรภาพทางทะเล ส่งเสริมการประสานงานและสนับสนุนกันในฟอรั่มพหุภาคี มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เอื้อประโยชน์ต่อการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก
การเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรีเวียดนามกับนายกรัฐมนตรีจีน |
ขยายความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับ WEF
วันที่ 27 มิถุนายน ในการประชุมผู้นำฟอรั่มเศรษฐกิจโลกหรือ WEF ครั้งที่ 14 ทาง WEF และรัฐบาลจีนได้ประสานงานจัดขึ้นและเป็นการประชุมที่มีขนาดเป็นใหญ่อันดับ 2 รองจากการประชุมของฟอรั่มในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้ง ได้กล่าวปราศรัยเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของเวียดนามในการประชุมครบองค์และในการประชุมนัดหลักๆ ในกรอบระเบียบวาระการประชุม พร้อมทั้งเป็นประธานร่วมกับผู้นำ WEF ในการสนทนาเชิงยุทธศาสตร์แห่งชาติเวียดนาม – WEF เข้าร่วมฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม – จีน มีการพบปะกับผู้นำประเทศต่างๆ และเครือบริษัทรายใหญ่ๆ ที่เข้าร่วมการประชุม นาย ฝ่ามซาวมาย เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศจีน ยืนยันว่า
“การที่เวียดนามเข้าร่วมการประชุมพร้อมกับตัวแทนของประเทศ องค์กรและเครือบริษัทชั้นนำของโลกจะมีส่วนร่วมแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาทั้งในระดับสถานประกอบการ ประเทศ ภูมิภาคและโลก โดยย้ำถึงบทบาทสำคัญของภาคเอกชนและความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ส่งเสริมพลังขับเคลื่อนให้แก่การขยายตัวใหม่ๆ เช่น การพัฒนาแห่งสีเขียว การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและนวัตกรรม ในย่านเอเชีย ในเวลาที่ผ่านมา จีน อินเดียและอาเซียน ซึ่งรวมทั้งเวียดนามได้มีการพัฒนาและผสมผสานอย่างเข้มแข็ง ธำรงการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคและโลก พร้อมทั้งมีบทบาทเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยง การค้า การลงทุนและห่วงโซ่อุปทานของโลก”
จากการประชุมครั้งนี้ เวียดนามได้ส่งสารเกี่ยวกับเป้าหมาย ทัศนะและแนวทางการพัฒนาของเวียดนาม อัพเดทแนวโน้มใหม่ๆ ของเศรษฐกิจโลก หารือเกี่ยวกับทัศนะเกี่ยวกับการพัฒนาและธรรมาภิบาลในระดับโลก ระดับภูมิภาคและระดับประเทศในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากเพื่อยกระดับบทบาทและเสียงพูดของเวียดนามในปัญหาระดับโลก ผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับ WEF ให้นับวันมีประสิทธิภาพและจริงจังมากขึ้น การประชุมครั้งนี้ยังเป็นโอกาสให้เวียดนามขยายความร่วมมือกับเครือบริษัทชั้นนำของภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะสถานประกอบการจีนเพื่อปรับปรุงบรรยากาศระหว่างประเทศที่เอื้ออำนวยและดึงดูดแหล่งพลังจากภายนอก ช่วยให้เวียดนามปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและการปรับเปลี่ยนรูปแบบของการขยายตัว
การเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการและการเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง จะมีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศและความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับจีน ขยายความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับ WEF และมีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาของภูมิภาคและโลก.