โดยเมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม อิตาลีมีผู้เสียชีวิต ๓๖๘ รายและผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ ๓ พันราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ ๑,๘๐๙รายและมีผู้ติดเชื้อกว่า ๒๔,๗๐๐ รายภายในเวลาแค่ ๓ สัปดาห์ ส่วนที่ประเทศสเปนหลังการประกาศปิดประเทศเป็นเวลา ๑ วัน จำนวนผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเกือบ ๒ เท่า อยู่ที่ ๒๘๘ รายและยอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ ๗,๗๕๓ ราย
ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขชั้นนำของอังกฤษได้ยืนยันว่า มีความเป็นไปได้สูงที่โรคโควิด-๑๙ จะแพร่ระบาดนานถึง ๑๒ เดือนในอังกฤษหรือยาวไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิปี ๒๐๒๑ คาดว่า ชาวอังกฤษร้อยละ ๘๐ จะติดเชื้อโรคโควิด-๑๙ โดยร้อยละ ๑๕ คิดเป็นประมาณ ๗. ๙ ล้านคนต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล จนถึงวันที่ ๑๕ มีนาคม อังกฤษมียอดผู้ติดเชื้อสะสมที่ ๑,๓๙๑ รายและยอดผู้เสียชีวิต ๓๕ ราย
จนถึงบ่ายวันที่ ๑๕ มีนาคม ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อไวรัส Sars-CoV-2 จำนวน๕,๔๒๓ รายและมีผู้เสียชีวิต ๑๒๗ ราย ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในประเทศนี้ โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๙๐๐ รายและผู้เสียชีวิต ๓๖ รายภายในเวลา ๒๔ ชั่วโมง
ในขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม เยอรมนีได้สั่งปิดชายแดนที่ติดกับฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ เดนมาร์ก ออสเตรียและลักเซมเบิร์ก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศได้เพิ่มขึ้นเกือบ ๕ พันรายและผู้เสียชีวิต ๑๐ ราย
เมื่อค่ำวันที่ ๑๕ มีนาคม หลังการประชุมที่มีขึ้นหลายชั่วโมง พรรคการเมือง ๑๐ พรรคในรัฐสภาเบลเยียมได้สนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เพื่อปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องถึงการป้องกันการแพร่ระบาด
ส่วนที่สหรัฐ จนถึงวันที่ ๑๕ มีนาคม ได้มีผู้เสียชีวิต ๖๒ รายและยอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า ๓,๒๐๐ ราย.