นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงวียนซวนฟุกและบรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมอาเซมครั้งที่12 (Photo: chinhphu.vn) |
ก่อนหน้านั้น ในกรอบการเยือนประเทศเดนมาร์กและการเข้าร่วมการประชุมP4G เมื่อวันที่20ตุลาคม นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้เจรจากับนายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก ลาร์ส เลิกเกอ รัสมุสเซน โดยเสนอให้รัฐบาลเดนมาร์กปฏิบัติยุทธศาสตร์การขยายตัวของเดนมาร์กต่อเวียดนามต่อไป ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเดนมาร์กเข้ามาลงทุนในเวียดนามในด้านการขนส่งทางทะเล การก่อสร้างท่าเรือ การต่อเรือ พลังงานหมุนเวียน อุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน
ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะปฏิบัติโครงการร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ให้ความสนใจต่อการปฏิบัติโครงการลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกที่สอดคล้องกับเงื่อนไขของเวียดนาม ผลักดันการเชื่อมโยงระหว่างยุโรปกับเอเชีย ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับอียู โดยเฉพาะ อาเซียนกับเดนมาร์ก ส่วนนายกรัฐมนตรีเดนมาร์กได้ยืนยันความพยายามรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ค้ำประกันเสรีภาพในการเดินเรือทางทะเลและการบินในทะเลตะวันออก การแก้ไขปัญหาการพิพาทอย่างสันติ สอดคล้องกับกฎหมายสากล รวมทั้ง อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี1982 โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ออกแถลงการณ์ร่วมที่ยืนยันถึงความเห็นพ้องที่จะแสวงหาโอกาสการขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนทวิภาคีในเวลาที่จะถึง
ในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้เข้าร่วมการสนทนากับสถานประกอบการชั้นนำของเดนมาร์ก20แห่ง ในการนี้ นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ย้ำถึงข้อตกลงการค้าเสรี16ฉบับที่เวียดนามได้ลงนามและเตรียมลงนาม ซึ่งเปิดโอกาสให้แก่นักลงทุนเดนมาร์
“เวียดนามมีแหล่งแรงงานรุ่นใหม่ที่มีทักษะความสามารถ ผมยินดีเป็นอย่างมากที่มีโอกาสร่วมกับบรรดาสถานประกอบการเดนมาร์กแลกเปลี่ยนข้อคิดริเริ่มและมาตรการส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศในสภาวการณ์การปฏิวัติอุตสาหกรรม4.0 ผมมีความประสงค์ว่า บรรดาผู้ประกอบการเดนมาร์กจะอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับชมรมผู้ประกอบการเวียดนาม เป็นสะพานเชื่อมเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองฝ่าย”
ในกรอบการเยือนประเทศเดนมาร์ก นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธที่ 2แห่งเดนมาร์ก.