นายกรัฐมนตรีเวียดนามเข้าร่วมการประชุมอาเซมครั้งที่12 |
ในการกล่าวปราศรัยเปิดการประชุม นาย โดนัล ทุสค์ ประธานสภายุโรปได้ชื่นชมผลสำเร็จของฟอรั่มนับตั้งแต่การประชุมระดับสูงอาเซมครั้งที่11 ณ ประเทศมองโกเลียเมื่อปี2016 ยกย่องบทบาทของอาเซมในการเป็นกลไกความร่วมมือและการสนทนาชั้นนำระหว่างสองทวีป เดินหน้าในการขยายความร่วมมือพหุภาคีและความเป็นระเบียบเรียบร้อยระหว่างประเทศบนพื้นฐานของกฎหมาย มีส่วนร่วมต่อการรักษาสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคและโลก
ภายใต้หัวข้อ “เอเชีย-ยุโรป ความสัมพันธ์หุ้นส่วนเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆในโลก” การประชุมอาเซมครั้งที่12มีความหมายสำคัญในการกำหนดแนวทาง วิสัยทัศน์ความร่วมมือภายในอาเซมในทศวรรษใหม่บนสามเสาหลักคือการสนทนาทางการเมือง ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความร่วมมือในด้านต่างๆ
นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงวียนซวนฟุกพบปะกับนายกรัฐมนตรีจีน หลีเค่อเฉียง (Photo: VGP) |
ก่อนหน้านั้น เมื่อบ่ายวันที่18ตุลาคม ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมระดับสูงอาเซมครั้งที่12 นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้พบปะกับนายกรัฐมนตรีจีน หลีเค่อเฉียงและนายกรัฐมนตรีนอร์เวย์ Erna Solberg
ในการพบปะกับนายกรัฐมนตรีจีน นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ชื่นชมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและเจตนารมณ์ที่ดีของจีนในการผลักดันความร่วมมือนระหว่างสองประเทศในเวลาที่ผ่านมา พร้อมทั้ง เสนอให้ทั้งสองประเทศธำรงการเยือนระดับสูง กำชับให้กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆผลักดันการแลกเปลี่ยนสินค้าเพื่อการพัฒนาอย่างสมดุลย์และยั่งยืนและสนับสนุนการนำเข้าสินค้าเวียดนาม โดยเฉพาะ สินค้าการเกษตร ส่วนนายกรัฐมนตรีจีนได้แสดงความประสงค์ว่า ทั้งสองฝ่ายจะใช้โอกาสเพื่อผลักดันความร่วมมือในด้านต่างๆ ควบคุมสถานการณ์และแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ธำรงสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลตะวันออก มีส่วนร่วมขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้านเวียดนาม-จีน
ส่วนในการพบปะกับนายกรัฐมนตรีนอร์เวย์ ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความพอใจต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือทวิภาคี พร้อมทั้ง เห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือในด้านการเมือง-การทูต เศรษฐกิจ-การค้า วิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี กลาโหม-ความมั่นคง เป็นต้น ให้การสนับสนุนกันในฟอรั่มพหุภาคีและในกรอบของสหประชาชาติ พร้อมทั้ง ย้ำถึงความสำคัญของทะเล โดยต้องการอนุรักษ์และพัฒนาอย่างยั่งยืนและเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ต้องรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความร่วมมือในแต่ละภูมิภาคและโลกบนพื้นฐานของกฎหมายสากลและหลักการขั้นพื้นฐานของสหประชาชาติ.