เมื่อวันที่ 11 กันยายน รัฐบาลญี่ปุ่นได้ลงนามในสัญญาซื้อเกาะ 3 แห่งจากทั้งหมด 5 เกาะของหมู่เกาะ เซนกากุ เพื่อโอนกรรมสิทธิ์เกาะดังกล่าวให้เป็นของรัฐหลังจากได้อนุมัติเงินจำนวน 30 ล้านเหรียญสหรัฐจากกองทุนสำรองเพื่อซื้อเกาะดังกล่าว ซึ่งการกระทำดังกล่าวของรัฐบาลญี่ปุ่นได้สร้างกระแสการคัดค้านอย่างรุนแรงจากจีน  โดยเมื่อวันที่ 10 กันยายน นาย หยาง เจียฉี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้เรียกตัวนาย ยูอิจิโร นิวะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำจีน เข้าพบ เพื่อแสดงการคัดค้านการกระทำดังกล่าวของญี่ปุ่น  ในวันเดียวกัน ในการพบปะกับครูอาจารย์และนักศึกษาของสถาบันการต่างประเทศในกรุงปักกิ่ง นาย เวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนได้ยืนยันว่า หมู่เกาะ เตียวหยู  เป็นส่วนหนึ่งของจีน รัฐบาลและประชาชนจีนจะไม่ยอมประนีประนอมในปัญหาการพิพาทด้านอธิปไตยเหนือหมู่เกาะดังกล่าว  ส่วนนาย ซินสุเกะ สุกิยามา อธิบดีกรมเอเชียและโอเชียเนียสังกัดกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้เดินทางไปยังจีนเพื่อชี้แจงแผนการโอนกรรมสิทธิ์เกาะดังกล่าวของทางการโตเกียวและเรียกร้องให้ทางการปักกิ่งใช้ความอดกลั้น  

นอกจากนี้เขตหมู่เกาะเซนกากุ หรือ เตียวหยู ก็ยังเป็นจุดพิพาทด้านอธิปไตยระหว่างจีนกับไต้หวันตั้งแต่ช่วงปี 1970 หลังจากที่สำรวจพบว่า เขตทะเลรอบๆหมู่เกาะดังกล่าวมีนํามันดิบปริมาณมาก หมู่เกาะดังกล่าว ไต้หวันเรียกว่า เตียวหยูไถ่ ประกอบไปด้วยเกาะใหญ่ 5 เกาะ โดยมีเกาะ Taisho ที่ทางการญี่ปุ่นได้ประกาศกรรมสิทธิ์การครอบครองไปแล้ว ซึ่งหลังจากการทำสัญญาซื้อเกาะใหญ่ 3 เกาะดังกล่าว รัฐบาลญี่ปุ่นได้โอนกรรมสิทธิ์เกาะ 4 เกาะจากทั้งหมด 5 เกาะของหมู่เกาะ เซนกากุ./.