( VOVworld ) - วันที่ ๑๑ กันยายนรัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติการซื้อเกาะ ๓ แห่งในบริเวณหมู่เกาะเซนกากุหรือจีนเรียกว่าเตียวหยูอย่างเป็นทางการภายหลังได้ประกาศกรรมสิทธิ์การครอบครองพื้นที่พิพาทบริเวณทะเลจีนตะวันออก การกระทำดังกล่าวของทางการโตเกียวได้ก่อให้เกิดกระแสความวิตกกังวลที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีนให้ตึงเครียดยิ่งขึ้น .
|
หมู่เกาะเซนกากุหรือเตียวหยูในภาษาจีน
|
ข่าวที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะซื้อเกาะ ๓ แห่งในหมู่เกาะเซนกากุหรือเตียวหยูในภาษาจีนได้ถูกประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นโดยเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โอซามุ ฟูจิมูระได้แจ้งให้ทราบว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะซื้อเกาะ ๓ แห่งจากจำนวนทั้งหมด ๕ แห่งของหมู่เกาะเซนกากุด้วยเงินจำนวน ๒๖ ล้านดอลล่าร์สหรัฐจากเจ้าของหมู่เกาะคนญี่ปุ่น โดยจะลงนามเซ็นสัญญาซื้อในเร็ววันนี้ แม้ฝ่ายญี่ปุ่นได้ให้เหตุผลการซื้อเกาะดังกล่าวก็เพื่อความมีเสถียรภาพและความสงบรวมทั้งสกัดการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆบนหมู่เกาะซึ่งจะช่วยให้สองประเทศญี่ปุ่นและจีนหลีกเลี่ยงการตกเข้าสู่ความตึงเครียดมากขึ้น แต่มติดังกล่าวของโตเกียวกลับเปรียบเสมือนการราดน้ำมันเข้ากองไฟแห่งความโกรธของปักกิ่งที่คุกรุ่นมานาน โดยวันที่ ๑๐ กันยายน นายกฯจีนเหวินเจียป่าวได้แถลง ณ กรุงปักกิ่งว่า จะไม่ยอมถอยออกจากพื้นที่พิพาทบริเวณทะเลจีนตะวันออกแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ต่อจากนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้ออกประกาศแจ้งให้ทราบว่า ปักกิ่งได้เรียกเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศจีนเข้าพบเพื่อคัดค้านการซื้อเกาะเหล่านี้ และในการพบปะกับนายกฯญี่ปุ่น โยชิฮิโกะ โนดะ นอกรอบการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ณ เมือง วลาดีวอสต๊อก รัสเซีย ประธานประเทศจีนหูจิ๋นเทาได้ย้ำอีกครั้งเกี่ยวกับทัศนะคติของทางการปักกิ่งคือ คัดค้านการซื้อหมู่เกาะของญี่ปุ่นนี้และว่า จีนจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อยึดการถือกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะพิพาทกลับคืนมา
หมู่เกาะเซนกากุหรือเตียวหยูในทะเลจีนตะวันออกอยู่ในการควบคุมของญี่ปุ่นไม่มีประชากรอาศัยอยู่ ซึ่งอยู่ใจกลางทะเลจีนตะวันออกที่มีฐานะทางยุทธศาสตร์ด้านการเดินเรือทะเล และตั้งอยู่ระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับจังหวัดโอกินาวาทางใต้สุดของญี่ปุ่น อีกทั้งถือเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำมันและสัตว์น้ำจำนวนมาก นั่นคือสาเหตุที่ทำให้จีนและญี่ปุ่นต่างอ้างการถือกรรมสิทธิ์ ซึ่งการพิพาทนี้ได้ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านตึงเครียดในหลายทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อปี ๑๙๗๒ ญี่ปุ่นและจีนได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต นายกฯเจาเอินไหล ของจีนได้เห็นด้วยกับการชลอการแก้ปัญหาเซนกากุหรือเตียวหยูออกไปในเวลาที่เหมาะสม และปี ๑๙๗๘ สองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งบรรดาผู้นำจีนเห็นว่า ควรปล่อยให้การแก้ไขปัญหาเซนกากุหรือเตียวหยูเป็นของชนรุ่นหลัง อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ปัญหาพื้นที่พิพาทในทะเลจีนตะวันออกทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศไม่สู้ดีนัก ซึ่งวิกฤตล่าสุดในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคมที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวจีนได้ขึ้นหมู่เกาะเซนกากุหรือเตียวหยูและปักธงเพื่อยืนยันอธิปไตยของจีนเหนือบริเวณดังกล่าว แต่ญี่ปุ่นได้ตอบโต้ด้วยการชนเรือของจีนจนอัปปางลง ฉีดน้ำใส่เรือดังกล่าวและจับกุมนักเคลื่อนไหวทั้ง ๑๔ คน ต่อจากนั้น ญีปุ่นก็ได้ส่งคนขึ้นเกาะและปักธง รวมทั้งทำการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐ ซึ่งการกระทำดังกล่าวก็ได้ถูกฝ่ายจีนคัดค้านอย่างรุนแรง โดยรัฐบาลจีนได้ติติงญี่ปุ่นอย่างรุนแรง ส่วนชาวจีนได้ออกสู่ท้องถนนทำการชุมนุมคัดค้าน ทำลายรถเก๋งและร้านอาหารญี่ปุ่น แม้กระทั่งนายพลคนหนึ่งของจีนได้เรียกร้องให้ส่งเรือไปป้องกันหมู่เกาะเซนกากุหรือเตียวหยู และเหตุล่าสุดคือ รถของเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นถูกโจมตีเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่โตเกียวไม่หวั่นไหวและไม่ประณีประนอมต่อปัญหาอธิปไตยเหนือหมู่เกาะโดยไม่นำพาต่อคำขู่ของปักกิ่ง ด้วยการซื้อเกาะบางแห่งในหมู่เกาะเซนกากุหรือเตียวหยู ทางการโตเกียวได้ส่งสาส์นชัดเจนว่า เซนกากุเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของญี่ปุ่นด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์และกฎหมายสากล วงการนักวิเคราะห์เห็นว่า สาเหตุที่ญี่ปุ่นกล้าทำเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดเพราะญี่ปุ่นมีความได้เปรียบในการกำหนดชะตากรรมของพื้นที่พิพาทในทะเลจีนตะวันออก หากการซื้อเกาะเสร็จสิ้น จีนต้องยอมรับเส้นแบ่งไหล่ทวีปในทะเลจีนตะวันออกตามเงื่อนไขของทางการโตเกียว และจะเกิดปัญหาซับซ้อนขึ้นจนอาจจะเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของจีนเมื่อมีการขยายการปรากฎตัวของทหารสหรัฐและญี่ปุ่นทางทิศตะวันตกของเส้นแบ่งนี้ และในอนาคตอันใกล้ๆนี้ เมื่อเรือทหารของจีนวิ่งผ่านเกาะต่างๆริมไหล่ทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใกล้ๆญี่ปุ่น ไต้หวันและทิศเหนือของฟิลิปปินส์อาาจะต้องเผชิญหน้ากับเครื่องบินและเรือรบของกองทัพสหรัฐและญี่ปุ่น และหากญี่ปุ่นก่อสร้างฐานเรดาห์ในพื้นที่พิพาทเพื่อแจ้งเตือนจรวดพิสัยไกลโตเกียวและวอชิงตันจะไม่เพียงแต่สามารถควบคุมบริเวณทางทิศเหนือของไต้หวันได้เท่านั้น หากยังมุ่งเป้าไปยังบริเวณลุ่มน้ำทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจีนอีกด้วย
วิกฤตในเอเชียตะวันออเฉียงเหนือกำลังเป็นที่สนใจของประชาคมระหว่างประเทศ แต่ไม่มีใครอยากให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียดมากขึ้นในสภาวการณ์โลกปัจจุบันที่กำลังเกิดความร้อนระอุในหลายจุด แต่ดูเหมือนว่า ไม่เห็นลู่ทางที่อาจจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ในขณะนี้ ./.