(VOVworld) –ในกรอบการเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ เมื่อบ่ายวันที่ 15 กันยายน ท่านเหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้มีการเจรจากับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันเกี่ยวกับแนวทางและมาตรการเพื่อผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างลึกระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นให้มีความสมบูรณ์และลึกซึ้งยิ่งขึ้นในอนาคต โดยเน้นถึงการเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมือง ผลักดันความเชื่อมโยงและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ รวมทั้งความร่วมมือในปัญหาระดับภูมิภาคและโลก ผู้นำทั้งสองท่านยังเห็นพ้องกันที่จะจัดการเยี่ยมเยือนและการพบปะสังสรรค์ของผู้นำระดับสูง ความร่วมมือและการพบปะแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐสภาและพรรคการเมืองของทั้งสองประเทศ ขยายและเสริมสร้างระเบียบความร่วมมือสนทนาที่มีอยู่ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ผู้นำทั้งสองท่านยังเห็นพ้องกันที่จะผลักดันความเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจสองประเทศตามแนวทางที่ยาวนานและยั่งยืนบนพื้นฐานที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีความได้เปรียบ มีศักยภาพและมีพลังเพื่อสนับสนุนกันในการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเน้นเป็นพิเศษถึงการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ การเชื่อมโยงทักษะความสามารถในการผลิตและแหล่งบุคลากร

เลขาธิการใหญ่เหงียนฟู้จ่องได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นให้สิทธิพิเศษในการจัดสรรเงินโอดีเอให้แก่เวียดนาม โดยเฉพาะในกระบวนการปฏิบัติความคิดริเริ่มเกี่ยวกับหุ้นส่วนโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพสูงที่ญี่ปุ่นจัดสรรให้แก่เอเชีย สนับสนุนการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนของเวียดนามต่อไปและขยายการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ทันสมัย ผลัดดันให้สถานประกอบการญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในเวียดนามมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการเกษตร อุตสาหกรรมและการก่อสร้าง

ส่วนนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะได้ยืนยันว่า ญี่ปุ่นจะให้การช่วยเหลือและสนับสนุนเวียดนามพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน รวมมทั้งการให้สิทธิพิเศษต่อการจัดสรรเงินโอดีเอให้แก่เวียดนาม โดยประกาศว่า ก่อนอื่นจะจัดสรรเงินโอดีเอมูลค่า 1 แสนล้านเยนให้แก่โครงการต่างๆของเวียดนาม

ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องกันที่จะปฏิบัติ “วิสัยทัศน์ระยะกลางและระยะยาวในด้านความร่วมมือด้านการเกษตรเวียดนาม – ญี่ปุ่น”อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้นำทั้งสองท่านยังเห็นพ้องกันที่จะผลักดันการพบปะด้านกลาโหมในทุกระดับ โดยนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ยืนยันว่า พร้อมที่จะขยายความร่วมมือกับเวียดนามเพื่อเพิ่มทักษะความสามารถของเวียดนามในการบังคับใช้กฎหมายในเขตทะเล รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจเพิ่มการจัดสรรเรือที่ใช้งานแล้วให้แก่เวียดนามต่อไป พร้อมที่จะร่วมมือและสนับสนุนเวียดนามเข้าร่วมภารกิจการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ รวมทั้งจะขยายความร่วมมือในด้านความมั่นคงที่มีอยู่แล้วและในด้านใหม่ๆ

ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันที่จะประสานงานอย่างใกล้ชิดในการประชุมระดับสูงอาเซียน การประชุมระดับสูงเอเชียตะวันออกและฟอรั่มพหุภาคีที่สำคัญอื่นๆเกี่ยวกับปัญหาที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสนใจ รวมทั้งกระบวนการปฏิรูปองค์กรสหประชาชาติ มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อไปในการเจรจาและปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรีในภูมิภาค รวมทั้งข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีและข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือ RCEP ญี่ปุ่นให้คำมั่นว่า จะให้การช่วยเหลือและประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเวียดนามเพื่อให้เวียดนามจัดการประชุมสุดยอดเอเปก 2017 ให้ประสบความสำเร็จ

ผู้นำทั้งสองท่านยังแสดงความกังวลถึงความซับซ้อนในทะเลตะวันออกที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ โดยเฉพาะการก่อสร้างเกาะเทียมขนาดใหญ่ พร้อมทั้งย้ำถึงความสำคัญและความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 แถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว

หลังการเจรจา ทั้งสองฝ่ายได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ร่วมกันด้านความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่น.