สถานประกอบการสตาร์ทอัพเวียดนามปรับตัวเพื่อพัฒนา

Vinh Phong
Chia sẻ
(VOVWORLD) -ต้นปี 2021  สถานประกอบการเวียดนามที่จดทะเบียนก่อตั้ง ได้เพิ่มขึ้นทั้งในด้านปริมาณและเงินทุนจดทะเบียนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วและมีความหลากหลายในด้านที่ประกอบธุรกิจ นี่คือสัญญาณที่น่ายินดีของเศรษฐกิจเวียดนามในขณะที่นักธุรกิจและสถานประกอบการได้กำหนดยุทธศาสตร์การประกอบธุรกิจและกำลังปรับตัวให้เข้ากับชีวิตวิถีใหม่เพื่อพัฒนาและมีส่วนร่วมต่อผลสำเร็จต่างๆของเศรษฐกิจเวียดนาม
สถานประกอบการสตาร์ทอัพเวียดนามปรับตัวเพื่อพัฒนา - ảnh 1นาย หวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (photo toquoc.vn)

ในเดือนมกราคมปี 2021  ได้มีการจัดตั้งสถานประกอบการรายใหม่กว่า 10,000 แห่งในทั่วประเทศ รวมยอดเงินทุนจดทะเบียนอยู่ที่ประมาณ15.4 พันล้านด่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วและมีสถานประกอบการทั่วประเทศกว่า 6,500 แห่งได้กลับมาประกอบธุรกิจอีกครั้ง นาย หวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามแสดงความคิดเห็นว่า “ปี 2020 ได้ช่วยให้ชมรมสถานประกอบการตระหนักได้ดีเกี่ยวกับการเพิ่มความสามารถในการรับมือและกำหนดแนวทางเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน การประกอบธุรกิจในตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาถือเป็นบทเรียนอันล้ำค่าสำหรับสถานประกอบการเวียดนามในการกำหนดยุทธศาสตร์และรูปแบบการประกอบธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสถานประกอบการรายใหญ่เท่านั้น หากยังมีทั้งสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมรวมอยู่ด้วยเพื่อก้าวรุดหน้าอย่างยั่งยืนบนเส้นทางแห่งการทำธุรกิจ

เพื่อสามารถอยู่รอดในช่วงที่เศรษฐกิจเผชิญความยากลำบาก สถานประกอบการหลายแห่งได้ปรับเปลี่ยนและพัฒนารูปแบบการประกอบธุรกิจเพื่อตามทันกระแส โดยเฉพาะประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในการผลิตและประกอบธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทหุ้นส่วนพันธุ์พืชส่วนกลาง Vinaseed ได้ประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่ในการประกอบธุรกิจ ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ของทางบริษัทจากเกือบ 100 ล้านด่งเมื่อ 10 ปีก่อนเป็น 1 พัน 6 ร้อยล้านด่งในปัจจุบัน โดยในตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทฯได้ใช้เงินทุนนับหมื่นล้านด่งเพื่อลงทุนในการวิจัยวิท ยาศาสตร์ นวัตกรรม ก่อสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาต่างๆและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคนิกให้ทันสมัย นาง เจิ่นกิมเลียน ประธานคณะกรรมการบริหารและผู้อำนวยการใหญ่ของ Vinaseed เผยว่า “เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก พวกเราได้เน้นพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งช่วยเพิ่มขอบเขตและประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะพวกเราได้เน้นวิจัยและผลิตพันธุ์พืชที่สามารถทนสภาพอากาศได้ดีและจะมีความต้องการสูงในอนาคต อย่างเช่น ปัจจุบันนี้ เรามีพันธุ์พืชที่สามารถปลูกในพื้นที่แห้งแล้งและน้ำทะเลซึม อาจกล่าวได้ว่า นวัตกรรมมีบทบาทชี้ขาดต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

สถานประกอบการสตาร์ทอัพเวียดนามปรับตัวเพื่อพัฒนา - ảnh 2นาง เจิ่นกิมเลียน ประธานคณะกรรมการบริหารและผู้อำนวยการใหญ่ของ Vinaseed (Photo danviet.vn)

ส่วนผู้เชี่ยวชาญและสถานประกอบการได้ยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงใหม่ด้านนวัตกรรมและประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีคือมาตรการหลักเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสถานประกอบการ นาย ด่ามกวางทั้ง ผู้อำนวยการบริษัท Agricare Vietnam นาย ต๋าเหวียดหยุง อธิบดีกรมประยุกต์ใช้และพัฒนาเทคโนโลยีสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและนาย เหงียนเท้จุง ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทเทคโนโลยี DTT ได้ย้ำว่า            “การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและเทคโนโลยีดิจิทัลคือหนึ่งในปัจจัยที่จำเป็นเพื่อช่วยให้เรามีความได้เปรียบในการแข่งขันและเข้าสู่ยุคดิจิทัล

พวกเรากำลังผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆ จึงต้องแข่งขันกับคู่แข่งจำนวนมาก ดังนั้น เราต้องประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงที่สามารถเจาะตลาดที่เราได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรี

ถ้าหากเรามีรายได้ 1 ด่ง เราก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในเครื่องมือในการผลิตถึงร้อยละ 70 ส่วนแรงงานจะได้ร้อยละ 15 และนักลงทุนก็ได้ร้อยละ 15 เช่นกัน นี่คือผลการวิจัยของมหาวิทยาลัย MIT เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งก็เป็นคำเตือนต่อสถานประกอบการในการแข่งขัน ดังนั้น ถ้าหากเราแค่ใช้เงินลงทุนหรือแรงงาน เราจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ดังนั้น จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงใหม่เครื่องมือ โดยประยุกต์ใช้นวัตกรรมเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสถานประกอบการ

รัฐบาลเวียดนามเน้นย้ำอยู่เสมอว่า สถานประกอบการเป็นปัจจัยหลักของเศรษฐกิจ ถ้าหากสถานประกอบการมีความแข็งแกร่ง เศรษฐกิจก็จะแข็งแกร่งตามไปด้วย ดั่งคำยืนยันของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊ก “สถานประกอบการต้องตระหนักว่า การลงทุนให้แก่การวิจัยและการพัฒนาคือเส้นทางที่ “สั้นที่สุด” เพื่อประสบผลสำเร็จในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาอย่างยั่งยืน ดังนั้น เราควรส่งเสริมให้สถานประกอบการลงทุนให้แก่ด้านนี้มากขึ้นผ่านนโยบาย กฎหมายและงบประมาณ รวมทั้งสินเชื่อสำหรับเทคโนโลยีและมนุษย์ของรัฐ สถานประกอบการต้องเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรม

ในหลายปีมานี้ ดัชนีนวัตกรรมโลกของเวียดนามได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปีที่แล้วได้ติดอันดับที่ 45 จาก126 เศรษฐกิจ เป็นประเทศนำหน้าในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับต่ำ เมื่อก่อนนี้ บริษัทต่างๆมักจะใช้เงินลงทุนจากภาครัฐถึงร้อยละ 70 เพื่อสนับสนุนให้แก่วิทยาศาสตร์แต่เดี๋ยวนี้ได้ใช้ถึงร้อยละ 50 ในร่างเอกสารเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมระยะ 5 ปี ระยะปี2021-2025 และร่างเอกสารเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมระยะปี 2021-2030 ของรัฐบาลต่างย้ำถึงเนื้อหาพัฒนาแหล่งบุคลากร วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีอย่างรอบด้าน การส่งเสริมนวัตกรรมควบคู่กับการปลูกฝังจิตสำนึกเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศ ความภูมิใจเกี่ยวกับประชาชาติ ความมุ่งมั่นพึ่งพาตนเองและส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมและคนเวียดนาม โดยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี นวัตกรรมและการพัฒนาสู่ดิจิทัลจะช่วยสร้างก้าวกระโดดทางด้านผลิตภาพ คุณภาพ ประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของเวียดนามในเวลาข้างหน้า.

คำติชม