การสัมมนาภายใต้หัวข้อ “ดึงดูดแหล่งเงินลงทุนผจญภัยให้แก่สถานประกอบการสตาร์ทอัพ” (Photo: hoilhpn.org.vn) |
ในสภาวการณ์ที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนยังไม่คลี่คลายลงทำให้บรรดานักลงทุนกำลังแสวงหาตลาดใหม่แทนตลาดจีน โดยเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีจีดีพีเฉลี่ยในช่วงปี 2015-2019 อยู่ที่ร้อยละ 6.76 และสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ได้กลายเป็นจุดนัดพบของนักลงทุนระหว่างประเทศ นี่คือข้อสังเกตที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในการสัมมนาภายใต้หัวข้อ “ดึงดูดแหล่งเงินลงทุนผจญภัยให้แก่สถานประกอบการสตาร์ทอัพ” โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประสานงานกับ UPGen Vietnam และThinkzone Ventures จัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ส่วนรายงานของกองทุนเพื่อการลงทุน Do Ventures ได้คาดการณ์ว่า ระบบนิเวศสตาร์ทอัพนวัตกรรมเวียดนามในปี 2020 จะติดอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากสิงคโปร์และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นโอกาสที่ดี ดังนั้น สตาร์ทอัพเวียดนามต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับกระแสการลงทุนในเวลาที่จะถึง นาง หว่างถิกิมยุง หัวหน้ากองทุนเพื่อการลงทุนญี่ปุ่น Genesia Ventures ณ ประเทศเวียดนามยืนยันว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของระบบนิเวศสตาร์ทอัพนวัตกรรมในเวียดนามเป็นอย่างมากและตั้งความหวังว่าเวียดนามจะกลายเป็นตลาดที่มีการลงทุนในระดับสูงจากภูมิภาคและโลก ซึ่งเราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนผ่านผลงานที่น่าประทับใจของระบบนิเวศสตาร์ทอัพเวียดนามในปี 2019“อาจกล่าวได้ว่า ระบบนิเวศสตาร์ทอัพของเวียดนามในปี 2019 มีการขยายตัวสูงที่สุดและสตาร์ทอัพเวียดนามได้รับเงินลงทุนที่ไหลเข้าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึงร้อยละ 18”
ปัจจุบันนี้ ที่เวียดนามมีกองทุนสนับสนุนการลงทุนผจญภัยเกือบ 100 กองทุน ซึ่งมีทั้งกองทุนภายในและต่างประเทศ โดยกองทุนต่างประเทศมีเครือข่ายอย่างกว้างขวางในหลายประเทศ ซึ่งสามารถสนับสนุนสตาร์ทอัพให้ขยายการประกอบธุรกิจไปยังตลาดต่างๆ ส่วนกองทุนภายในประเทศมักจะมีความเข้าใจอย่างกว้างลึกเกี่ยวกับระบบนิเวศสตาร์ทอัพนวัตกรรมในเวียดนาม มีแหล่งบุคลากรที่พร้อมสนับสนุนสตาร์ทอัพในทุกด้าน ทั้งด้านกฎหมาย บัญชีและการเงิน เป็นต้น
สิ่งที่น่าสนใจคือ กองทุนภายในและต่างประเทศกำลังมีแนวโน้มร่วมมือกันเพื่อลงทุนให้แก่สตาร์ทอัพเวียดนามแต่เนื่องจากยังไม่มีแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงระหว่างนักลงทุนต่างๆ ทำให้การเบิกจ่ายเงินให้แก่สตาร์ทอัพยังคงใช้เวลามากเกินไป ส่งผลกระทบในทางลบต่อกระบวนการพัฒนาของสตาร์ทอัพ ดังนั้น จำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มแบบนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การดึงดูดเงินทุนและการพัฒนาของสตาร์ทอัพ นี่คือสาเหตุที่เวียดนามกำลังเร่งจัดตั้งพันธมิตรกองทุนเพื่อการลงทุนในเวียดนาม นาย บุ่ยแถ่งโด ผู้อำนวยการและผู้คิดริเริ่มร่วมของ Thinkzone Ventures กล่าวว่า “กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกำลังเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาโครงการ 844 ฉบับแก้ไข โดยเสนอให้จัดตั้งเครื่อข่ายเชื่อมโยงนักลงทุนและสำนักงานกฎหมายเพื่อจัดตั้งพันธมิตรและ Thinkzone Ventures กำลังประสานงานกับโครงการ 844 เพื่อปฏิบัติงานนี้”
บรรดาผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า การจัดตั้งพันมิตรของกองทุนเพื่อการลงทุนในเวียดนามจะช่วยให้ผู้วางนยโยบายรับทราบเกี่ยวกับความต้องการของตลาดมากขึ้น เพื่อปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนผจญภัยในเวียดนาม พร้อมทั้งเป็นเวทีให้ทุกคนแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนและสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ ยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานของระบบนิเวศสตาร์ทอัพเวียดนาม./.