 ชิ้นสแตนเลสสามเหลี่ยมที่เหลือจากการตัดเป็นโต๊ะกลมถูกนำไปผลิตเป็นชั้นวางของติดผนัง |
ในบริษัท ผลิต การค้าและให้บริการกวีฟุ๊ก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสินค้าพลาสติกและสแตนเลส สามารถประหยัดวัตถุดิบในเกือบทุกขั้นตอนการผลิต ซึ่งเศษพลาสติกและสแตนเลสได้ถูกนำไปผลิตเป็นสินค้าครัวเรือนที่ได้รับความนิยมสูงจากลูกค้า เช่น ชิ้นสแตนเลสสามเหลี่ยมที่เหลือจากการตัดเป็นโต๊ะกลมถูกนำไปผลิตเป็นชั้นวางของติดผนัง ซึ่งการประหยัดนี้ได้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและเพิ่มมูลค่าด้านเศรษฐกิจ นาง วันถิถวีเตียน ผู้อำนวยการฝ่ายมาร์เก็ตติ้งของบริษัทฯ กล่าวว่า
“หลายคนคิดว่า มาตรฐานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมปฏิบัติได้ยากแต่จริง ๆ แล้ว ทางบริษัทของเราปฏิบัตินานมาแล้ว แม้บริษัทของเรามีใบรับรอง ISO 9000 จึงสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ไปต่างประเทศได้แต่เราก็ยังคงปฏิบัติมาตรฐานต่างๆเพื่อมุ่งสู่การได้รับใบรับรอง ISO 14000 เกี่ยวกับการดำเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายในปี 2023”
ส่วนที่บริษัทผลิตพลาสติกยวีเติน ในการปฏิบัติยุทธศาสตร์การพัฒนาแห่งสีเขียว ทางบริษัทได้จัดตั้งบริษัทรีไซเคิลพลาสติก ซึ่งเปิดใช้งานตั้งแต่ปี 2020 โดยสามารถผลิตพลาสติก PET ได้ประมาณ 30,000 ตันต่อปีและกำลังวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก 2 เท่า ส่วนเมื่อปี 2022 ทางบริษัทฯ สามารถรีไซเคิลขวดพลาสติกกว่า 1.3 พันล้านขวดเพื่อส่งออกไปยัง 12 ประเทศและจัดสรรบรรจุภัณฑ์รีไซเคิลให้แก่แบรนด์ใหญ่ๆ อย่างเช่น Lavie Nestle และโค้ก นายเลแอง ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทรีไซเคิชพลาสติกยวีเตินกล่าวว่า ถ้าหากไม่คิดแบบสีเขียวก็จะไม่สามารถทำเศรษฐกิจแห่งสีเขียวได้
“ในหลายปีมานี้ เรื่องเศรษฐกิจครบวงจร การพัฒนาแห่งสีเขียวและการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้กลายเป็นคำติดปากของทุกคนแล้ว โดยเฉพาะหลังการประชุม COP 26 ณ สกอตแลนด์ที่ทางนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ให้คำมั่นในเรื่องดังกล่าว สถานประกอบการจะมีการเข้าถึงเศรษฐกิจแห่งสีเขียวในรูปแบบต่าง ๆในฐานะสถานประกอบการรายใหญ่ในด้านพลาสติก บริษัทของเรากำลังปฏิบัติมาตรการรีไซเคิลพลาสติก ซึ่งมีส่วนร่วมช่วยให้เวียดนามสะอาด สวยงามและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”
ยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้รับการปฏิบัติผ่านการที่รัฐบาลเวียดนามอนุมัติยุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับการขยายตัวแห่งสีเขียวระยะปี 2021-2030 วิสัยทัศน์ถึงปี 2050 นาย หวอเตินแถ่ง รองประธานสหพันธ์การค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามหรือวีซีซีไอเผยว่า เศรษฐกิจแห่งสีเขียวอาศัยหลักการคือลดขยะที่เป็นพิษ ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและค้ำประกันความกลมกลืนของผลประโยชน์ทางสังคม นับตั้งแต่ปี 2010 เวียดนามเริ่มปฏิบัติเศรษฐกิจแห่งสีเขียวนับตั้งแต่ที่วางยุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับเรื่องนี้และจนถึงขณะนี้ สามารถลงนามในข้อตกลงการค้าเสรี 15 ฉบับ โดยมีหลายฉบับมีเงื่อนไขที่เข้มงวดในด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
“เราต้องมุ่งสู่การตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานจากขยะ ส่วนผู้บริโภคก็นับวันสนใจสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังนั้น สถานประกอบการต้องพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต นี่คือช่วงเวลาที่เราต้องเร่งพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสีเขียว การขยายตัวแห่งสีเขียวและการบริโภคแห่งสีเขียว”
การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในเวลาที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของหลายประเทศ ส่งผลให้ทุกประเทศต้องหันมาสนใจการพัฒนาแห่งสีเขียวและร่วมกันปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่เพื่อผลิตสินค้าแห่งสีเขียวและพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสีเขียว สถานประกอบการต้องสร้างสรรค์ห่วงโซ่อุปทานแห่งสีเขียวและฝึกอบรมแรงงานในด้านเศรษฐกิจแห่งสีเขียวให้ได้ พร้อมทั้งต้องระดมเงินทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการผลิตแห่งสีเขียวด้วย ดังนั้น สถานประกอบการเวียดนามกำลังพยายามพัฒนานวัตกรรม มีความคิดแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีปฏิบัติการแบบสีเขียวเพื่อสามารถคงอยู่และพัฒนาอย่างยั่งยืน.