 นาง เติ๋นต๋าไหม ในตำบลต๋าฝิ่น อำเภอเมืองซาปา จังหวัดซาปา (hoilhpn.org.vn) |
“ช่วงนั้น ชีวิตของฉันลำบากมาก ตอนกลางคืนต้องแบกลูกขึ้นหลังไปขายของให้นักท่องเที่ยว ส่วนตอนกลางวันก็เป็นไกด์ ทำงานเยอะแต่ก็ยังยากจนอยู่ ฉันจึงคิดหาทางเพื่อแก้ปัญหานี้ แล้วก็ตัดสินใจกลับหมู่บ้านและแนะนำยาแผนโบราณของชาวเย้าให้แก่นักท่องเที่ยวได้ลองใช้ ซึ่งได้ช่วยให้สตรีหลายคนที่มีฐานะยากจนเหมือนดิฉันสามารถหลุดพ้นจากความยากจน”
นี่คือเหตุผลที่นาง เติ๋นต๋าไหม ผู้อำนวยการของสหกรณ์ชุมชนชาวเย้า หมู่บ้านต่าจ๋าย ตำบลต๋าฝิ่น อำเภอเมืองซาปา จังหวัดหล่าวกาย จัดตั้งสหกรณ์เมื่อปี 2015 ซึ่งในตอนแรก เธอและสตรี 7 คนที่เป็นสมาชิกในสหกรณ์ฯ แค่พัฒนาและจำหน่ายยาสมุนไพรของชนกลุ่มน้อยเผ่าเย้าสำหรับใช้อาบน้ำเท่านั้น แต่หลังจากนั้น ทางสหกรณ์ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มอีกหลายอย่าง เช่น ชุดยาสมุนไพรอาบน้ำ ชุดยาสมุนไพรแช่เท้าและชุดยาสมุนไพรสระผม เป็นต้น ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าจำนวนมาก ผลิตภัณฑ์ได้จำหน่ายในทั่วประเทศและส่งออกไปยังตลาดออสเตรเลีย แคนาดาและสิงคโปร์ นาย Rasguma นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสที่มีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์เป็นอย่างมากได้กล่าวว่า “เมื่ออาบน้ำด้วยยาสมุนไพรที่นี่ ผมเห็นถึงความแตกต่าง สุขภาพดีขึ้น ผลิตภัณฑ์ของชาวเย้าที่นี่ดีมาก และจะได้รับความนิยมในหลายประเทศ”
ในปี 2022 รายได้ของสหกรณ์ฯ ได้บรรลุกว่า 2.7 พันล้านด่งหรือเกือบ 113,000 ดอลลาร์สหรัฐ และมีสมาชิก 160 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเย้าที่ปลูกพืชสมุนไพรในตำบลต๋าฝิ่นและเขตใกล้เคียงรวมพื้นที่กว่า 100 เฮกตาร์ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิก นางไหมและสมาชิกทุกคนกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรเฉพาะถิ่นเพื่อให้บริการด้านสุขภาพแก่ชาวเวียดนามและมุ่งสู่การส่งออกไปยังตลาดใหม่ๆ
“ในเวลาข้างหน้า ทางสหกรณ์ฯ จะวิจัยต่อไปเพื่อออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ได้มาตรฐานสำหรับการส่งออก ช่วยให้สมาชิกทุกคนมีรายได้เพิ่มขึ้น มีความมั่นใจในการพัฒนาอาชีพนี้ของชาวเย้าแดงในซาปาและช่วยให้สตรีชาวเย้าหลุดพ้นจากความยากจนได้อย่างยั่งยืน”
ความสำเร็จของสหกรณ์ฯ สามารถโน้มน้าวให้ศูนย์พัฒนาสถาณ์ประกอบการชนบทเวียดนามหรือ VietID สนับสนุนการถ่ายทอดประสบการณ์ ช่วยเชื่อมโยงกับตลาด ฝึกอบรมและพัฒนาเครื่องหมายการค้าให้แก่ผลิตภัณฑ์ รวมทั้งลงทุนให้แก่สหกรณ์ฯ นาง ดิงถิแอ๊งเตวี๊ยด ที่ปรึกษาของศูนย์ VietID เผยว่า “เราเลือกพวกเขาเพราะ นางไหมเป็นผู้ที่พึ่งตนเองและรักสตรีทุกคนในหมู่บ้านของตนมาก”
จิตใจแห่งการฟันฝ่าความยากจน กล้าคิดกล้าทำในการทำธุรกิจสตาร์อัพจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นจุดแข็งของท้องถิ่นของนาง เติ๋นต๋าไหม ในตำบลต๋าฝิน ได้มีส่วนร่วมช่วยให้สตรีชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆ มีงานทำที่มั่นคงจนสามารถหลุดพ้นจากความยากจนได้อย่างยั่งยืน.