นักธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีความสามารถที่หมู่บ้าน เมิ๊กลิ้ว จังหวัดเซินลา

Tòng Đức Anh - Ngọc Anh
Chia sẻ
(VOVWORLD) -ที่ตำบล เหมื่องยน อำเภอกวิ่งญาย จังหวัดเซินลา นาย หล่อวันก๊วก อายุ 40 ปี ชนกลุ่มน้อยเผ่าค้าง ในหมู่บ้าน เมิ๊กลิ้ว เป็นผู้เดินหน้าในการปลูกผลไม้ผสานกับการเลี้ยงปศุสัตว์ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่มีประสิทธิภาพที่ชาวบ้านปฏิบัติตามเพื่อหลุดพ้นจากความยากจน
นักธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีความสามารถที่หมู่บ้าน เมิ๊กลิ้ว จังหวัดเซินลา - ảnh 1การเลี้ยงวัวในจังหวัดเซินลา

จากความคล่องตัวและขยันหมั่นเพียร นาย หล่อวันก๊วก ได้ไปเรียนรู้ประสบการณ์ที่ฟาร์มต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ที่ฟาร์มของตน โดยเป็นคนแรกในหมู่บ้านที่ซื้อต้นพลัมพันธุ์เฉพาะถิ่นของอำเภอหมกโจว์มาปลูกในพื้นที่แล้วค่อยๆ ขยายพันธุ์จนได้จำนวน 500 ต้นและปลูกลำไยอีก 200 ต้น ซึ่งขณะนี้ทุกต้นก็เข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว นอกจากนี้ เพื่อให้ร่มเงาและเพิ่มความชื้นให้ดิน นาย ก๊วก ก็ปลูกส้มโอเขียวร่วมกับพลัมและลำไยในพื้นที่ 0.5 เฮกตาร์ นอกจากนี้ก็ยังปลูกส้ม ส้มเขียวหวานและมะม่วงในพื้นที่ 2.5 เฮกตาร์ ปลูกต้นแพร์ 2.5 เฮกตาร์และปลูกเร่วหอมหรือหมากแหน่งซึ่งเป็นพันธุ์ขิงที่มีมูลค่าสูงในพื้นที่ 1 เฮกตาร์ นาย หล่อวันก๊วก กล่าวว่า

“ ผมได้เรียนรู้วิธีการปลูกผลไม้และเลี้ยงปศุสัตว์ในท้องถิ่นหลายแห่งแล้วถอดประสบการณ์เอง ผมเป็นผู้เดินหน้าในการทดลองการปลูกผลไม้พันธุ์ใหม่ๆ ในหมู่บ้าน ซึ่งต้องดูแลเรื่องปุ๋ยและยากำจัดวัชพืช โดยแต่ละปี การเก็บเกี่ยวของเราได้ผลดี ซึ่งกลายเป็นตัวอย่างให้ชาวบ้านเรียนรู้ปฏิบัติตาม”

เมื่อก่อน นาย ก๊วก ก็เหมืนชาวบ้านส่วนใหญ่ที่มักจะเลี้ยงสัตว์แบบปล่อยป่า นอกจากนี้ สัตว์เลี้ยงมักจะติดโรคต่างๆ จึงขายได้ราคาไม่ดีนัก จากการตระหนักได้ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายก๊วก ได้เปลี่ยนมาเป็นการเลี้ยงในรูปแบบฟาร์มเพื่อสามารถดูแลได้อย่างใกล้ชิด ทำการปลูกหญ้าและกล้วยเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ รวมทั้งประยุกต์ใช้เทคนิกต่าง ๆ ในการเลี้ยง โดยในคอกจะมีวัวตัวผู้นับสิบตัวสำหรับขายเนื้อ และรายได้จากการขายเนื้อก็นำไปซื้อวัวมาเลี้ยงใหม่ ส่วนมูลวัวนำไปทำเป็นปุ๋ยปลูกต้นไม้เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มมูลค่าเนื่องจากเป็นพืชปลอดสารพิษ

ไม่เพียงแต่สร้างฐานะที่มั่นคงเท่านั้น แต่ นาย ก๊วก ยังถ่ายทอดประสบการณ์การปลูกและเลี้ยวปศุสัตว์ให้แก่ชาวบ้านอีกด้วย โดยเฉพาะให้ชาวบ้านที่ยากจนยืมปุ๋ยและพันธุ์ไม้ นาย กว๋างวันเทือง เลขาธิการพรรคสาขาหมู่บ้าน เมิ๊กลิ้ว เผยว่า

“นายก๊วกเป็นคนแรกในหมู่บ้านที่กล้าคิดกล้าทำปรับเปลี่ยนพันธุ์พืชและสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะได้ทดลองปลูกพลัม มะม่วงและลูกแพร์  มีชาวบ้านหลายคนได้ปฏิบัติตามรูปแบบที่มีประสิทธิภาพนี้ของนาย ก๊วก โดยสามารถปลูกผลไม้ที่มีมูลค่าสูง มีกว่า 10 ครอบครัวได้พัฒนารูปแบบการเลี้ยงวัวในคอกอย่างมีประสิทธิภาพ ในเวลาข้างหน้า ทางหมู่บ้านจะรณรงค์ให้ชาวบ้านพัฒนารูปแบบนี้ต่อไป”

จากการปลูกผลไม้ผสานกับการทำปศุสัตว์และเปิดร้านขายสินค้า แต่ละปี นาย ก๊วก มีรายได้ประมาณ 200 ล้านด่ง หรือ 8,500 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถสร้างบ้านที่โอ่โถงและซื้อเครื่อใช้ในครัวเรือนที่ทันสมัยต่างๆ นาย หว่างวันหอก ประธานคณะกรรมการประชาชนตำบล เหมื่องโยน ได้เผยว่า ทางตำบลกำลังขยายผลรูปแบบการทำธุรกิจที่มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับท้องถิ่นมากขึ้น

“ตามข้อมูลสถิติ ครอบครัวในตำบลฯ ร้อยละ 50 มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น รูปแบบการทำธุรกิจของนาย ก๊วก ถือรูปแบบที่ดีเพื่อขยายผลต่อไป ซึ่งปัจจุบันนี้ ครอบครัวของเขามีฐานะมั่นคงที่สุดในหมู่บ้านเมิ๊กลิ้วและเป็นตัวอย่างที่ชาวบ้านจำนวนมากได้เรียนรู้ปฏิบัติตาม

จากการช่วยเหลือของนาย หล่อวันก๊วก และความพยายามของชาวบ้าน หมู่บ้านเมิ๊กลิ้วในวันนี้มีครอบครัวที่ยากจนเหลือเพียง 10 ครอบครัวและครอบครัวที่ใกล้ยากจนอีก 10 ครอบครัวเท่านั้นจากจำนวนทั้งหมด 125 ครอบครัวในหมู่บ้าน ซึ่งส่วนร่วมของนายก๊วกได้ช่วยให้เขาได้รับหนังสือชมเชยจากคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเซินลาให้เป็น “เกษตรกรที่มีผลงานยอดเยี่ยมในการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ในตำบล”.

คำติชม