เกษตรกรใช้โดรนในการหว่านข่าว
เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงมีพื้นที่ปลูกข้าวที่กว้างใหญ่ ซึ่งการที่เกษตรกรและหน่วยงานการเกษตรได้นำเครื่องจักรกลเข้ามาใช้นั้นได้ช่วยลดปริมาณการใช้พันธุ์ข้าวและค่าใช้จ่ายด้านปุ๋ยและยา โดยเฉพาะลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร นาย กาววันเฮี๊ยว เกษตรกรจากอำเภอถวายเซิน จังหวัดอานยาง กล่าวว่า
“ สหกรณ์ในแต่ละเขตได้ซื้อโดรนเพื่อใช้ทำการเกษตร ซึ่งช่วยให้เราสามารถเช่าได้ในราคาที่ย่อมเยา ครอบครัวของผมก็ใช้บริการนี้ในการหว่านข้าวในนา”
นาย เจิ่นท้ายเงียม รองผู้อำนวยการสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทนครเกิ่นเทอเผยว่า การประยุกต์ใช้เครื่องจักรกลในการผลิตการเกษตรได้สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การปฏิรูปอุตสาหกรรมการเกษตรในท้องถิ่นระยะปี 2016-2020 มีส่วนช่วยลดผลเสียหายหลังการเก็บเกี่ยวและยกระดับคุณภาพให้แก่ข้าว แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การประยุกต์ใช้เครื่องจักรกลมีความสมบูรณ์ จำเป็นต้องกำหนดพื้นที่ปลูกข้าวแบบทุ่งนาขนาดใหญ่และพัฒนาเขตปลูกวัตถุดิบ ส่งเสริมบทบาทการแนะแนวและสนับสนุนด้านเทคโนโลยีของสถานประกอบการ พร้อมทั้งปฏิบัตินโยบายสนับสนุนเงินกู้ในการซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เกษตรกรในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษ
“การประยุกต์ใช้เครื่องจักรกลต้องได้รับการขยายผลผ่านกลุ่มที่ให้บริการแบบมืออาชีพเพื่อมีประสิทธิภาพมากที่สุด รัฐต้องจัดทำและปฏิบัตินโยบายสนับสนุนสถานประกอบการและเกษตรกรเข้าถึงการประยุกต์ใช้เครื่องจักรกลได้อย่างสะดวก เพราะว่า พวกเขาจะเป็นแกนหลักในการประยุกต์ใช้ดังกล่าว”
การประยุกต์ใช้เครื่องจักรกลที่ทันสมัยช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าเกษตรในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง |
นาย เลแทงตุ่ง รองอธิบดีกรมปลูกสังกัดกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเผยว่า ในการประยุกต์ใช้เครื่องจักรกล ต้องให้ความสนใจถึงการสร้างกำไรให้แก่ทั้งผู้ผลิต สถานประกอบการภายในประเทศและสถานประกอบการส่งออก เพื่อสร้างความยั่งยืน
“การประยุกต์ใช้เครื่องจักรกลนั้นต้องมีการประยุกต์ใช้ทั้งในด้านอุปกรณ์และเทคโนโลยี รวมไปถึงความตระหนักของทั้งผู้ผลิต สถานประกอบการ ฟาร์ม สหกรณ์และทางการปกครองท้องถิ่น และเพื่อให้มีความยั่งยืน ท้องถิ่นต่างๆ ในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงต้องมีการเชื่อมโยงเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่การผลิตสินค้าการเกษตรในเวลาที่จะถึง”
ส่วนนาย เลมิงฮวาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเผยว่า การประยุกต์ใช้เครืองจักรกลเป็นเรื่องที่จำเป็นเพื่อเพิ่มผลผลิต ยกระดับคุณภาพและเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าการเกษตร
“ยุทธศาสตร์การประยุกต์ใช้เครื่องจักรการเกษตรคือเงื่อนไขที่จำเป็นเพื่อเพิ่มผลผลิต เพิ่มคุณภาพบนพื้นฐานของการผลิตในขอบเขตขนาดใหญ่ ซึ่งไม่เพียงแต่ในเรื่องพื้นที่เท่านั้น หากยังต้องมีการเชื่อมโยงและความร่วมมือขนาดใหญ่ของเกษตรกรในเขตปลูกวัตถุดิบนั้นอีกด้วยเพื่อก่อตั้งสหกรณ์และรูปแบบความร่วมมือกว้างใหญ่อื่นๆ ช่วยให้เกษตรกรสามารถใช้เครื่องจักรการเกษตร อุปกรณ์และเทคโนโลยีร่วมกันได้”
ปัจจุบันนี้ การประยุกต์ใช้เครื่องจักรกลในการเกษตรได้นำผลสำเร็จที่ดีมาให้แก่หน่วยงานหลักๆ ของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง แต่เพื่อมุ่งสู่ระบบการผลิตเกษตรที่ยั่งยืน ท้องถิ่นต่างๆ ต้องทำการปฏิรูปหน่วยงานและร่วมมือกับประชาชน สถานประกอบการเพื่อมีส่วนร่วมพัฒนาเวียดนามให้เป็นศูนย์กลางแห่งเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการแปรรูปสินค้าการเกษตรชั้นนำของโลกในปี 2030.