การบริหารสถานประกอบการเพื่อฟันฝ่าวิกฤตโควิด -19 ( baodansinh.vn)

การแพร่ระบาดเมื่อปี 2020 ได้ส่งผลให้บริษัทหุ้นส่วนการฝึกอบรมและความร่วมมือระหว่างประเทศ INCOMAS ซึ่งเป็นสถานประกอบการสตาร์ทอัพขนาดย่อมที่ประกอบธุรกิจด้านการศึกษาของคุณ เจิ่นตู๊ฮวา ซึ่งจบปริญญาโทสาขาสังคมวิทยาต้องประสบความเดือดร้อนอย่างหนัก จนทำให้คุณ เจิ่นตู๊ฮวาต้องปรับเปลี่ยนการบริหารในหลายด้าน เช่น คืนสำนักงานที่เช่า ให้พนักงานทำงานที่บ้านพร้อมลดเงินเดือนครึ่งหนึ่งและเพิ่มกิจกรรมการขายโยเกิร์ตออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ ในขณะที่คุณ เจิ่นตู๊ฮวา ก็ต้องไปทำงานให้แก่บริษัทอื่นเพื่อนำเงินมาประคับประคองบริษัท ซึ่งบริษัทก็สามารถรอดพ้นวิกฤตและดำเนินกิจการต่อไปในปลายปี 2020 คุณ เจิ่นตู๊ฮวาได้ถ่ายทอดประสบการณ์ให้ฟังว่า             “ บทเรียนที่หนึ่งคือต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ กล้าคิดกล้าทำเพื่อสามารถใช้โอกาสที่มี พยายามทำให้บริษัทมีเงินด้วยการหาเงินด้วยตนเอง ไม่ใช่การอาศัยคนอื่น เราได้ปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงใหม่เป็นอย่างมาก เช่น สร้างความหลากหลายให้แก่สินค้า เราไม่เพียงแต่ประกอบธุรกิจในด้านการศึกษาเท่านั้น แต่เราได้ขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจไปในด้านอื่นๆด้วยเพื่อจะได้มีเงินสำหรับทำธุรกิจด้านการศึกษา ซึ่งเป็นธุรกิจที่เราทำในระยะยาว นี่คือการปรับตัวให้เข้ากับสภาพปัจจุบัน”

คุณ เลมิงด๋าว เป็นที่ปรึกษาให้แก่สถานประกอบการของกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์แสดงความคิดเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงเพื่อรับมือและฟันฝ่าอุปสรรคจากวิกฤตโควิด -19 ของบริษัท INCOMAS คือหนึ่งในตัวอย่างของความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคของสถานประกอบการเวียดนาม โดยเฉพาะสถานประกอบการสตาร์ทอัพและสิ่งที่สำคัญคือ สถานประกอบการและนักธุรกิจต้องมีความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวและพยายามอย่างสุดความสามารถ "เพื่อฟันฝ่าวิกฤตปัจจุบัน สถานประกอบการขนาดกลางและขยาดย่อมควรตรวจสอบและประเมินปัจจัยต่างๆ รวมทั้งบรรยากาศในขอบเขตมหาภาคที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจของสถานประกอบการในแต่ละด้าน สองคือ ต้องแสวงหาโอกาสความร่วมมือใหม่ ตลาดใหม่และแหล่งสนับสนุนทดแทนเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ควรใช้โอกาสนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภายในประเทศและระหว่างประเทศ ส่วนในการบริหารสถานประกอบการ ควรเน้นถึง 5 ด้านสำคัญคือ เพิ่มผลผลิตและคุณภาพในการบริการ ลดค่าใช้จ่ายและความฟุ่มเฟือย ปรับปรุงด้านโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคโดยเร็วที่สุดด้วยคุณภาพที่ดีที่สุด ปรับปรุงบรรยากาศการทำงานให้แก่แรงงาน ให้ความสนใจถึงพื้นฐานด้านวัฒนธรรมและจรรยาบรรณของสถานประกอบการ โดยเฉพาะการเสริมสร้างความไว้วางใจ สร้างความสามัคคีและร่วมแรงร่วมใจฟันฝ่าอุปสรรค"

นาย หวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (VGP)

ส่วนนาย หวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามได้แสดงความคิดเห็นว่า "การที่สถานประกอบการสามารถคงอยู่และพัฒนาหลังวิกฤตโควิด -19 แม้จะขึ้นอยู่กับบรรยากาศของเศรษฐกิจแต่ก็ต้องอาศัยความพยายามของสถานประกอบการเองด้วย ดังนั้น ในระยะสั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสถานประกอบการต้องพยายามลดค่าใช้จ่ายและรักษางานทำให้แก่แรงงาน หลังวิกฤตโควิด –19ผ่านพ้นไป ตลาดโลกจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยเศรษฐกิจต่างๆจะเน้นปกป้องตลาดภายในประเทศมากขึ้น ส่วนการที่เวียดนามมีประชากรเกือบ 100 ล้านคนก็ถือเป็นปัจจัยที่มีศักยภาพสูงสำหรับสถานประกอบการเวียดนาม"

เพื่อปรับตัวเข้ากับสภาวการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 บริษัทแต่ละแห่งต้องวางแนวทางการบริหารและประกอบธุรกิจให้เหมาะสมและคล่องตัว โดยเน้นถึงการพัฒนาตนเอง การสร้างสรรค์บรรยากาศและวัฒนธรรมในการทำงาน ส่งเสริมความคล่องตัวในการปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่สถานประกอบการวางไว้./.