มหาสมัคคีชนในชาติเป็นแหล่งพลังที่เข้มแข็งและปัจจัยชี้ขาดต่อความสำเร็จของภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิในทุกระยะ(dangcongsan.vn) |
มหาสมัคคีชนในชาติคือเกียรติประวัติที่ดีงาม ได้รับการรักษาและส่งเสริมมาตลอดในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาประเทศ เป็นแหล่งพลังที่เข้มแข็งและปัจจัยชี้ขาดต่อความสำเร็จของภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิในทุกระยะ
พยายามร่วมกันเพื่อการพัฒนาประเทศ
เวียดนามกำลังมีโอกาสที่สำคัญเพื่อพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งนี่เป็นโอกาสเพื่อลดช่องว่างการพัฒนากับประเทศต่างๆทั้งภายในและนอกภูมิภาค ปัจจุบัน การเห็นแรงงานพยายามยกระดับฝีมือ เรียนรู้กระบวนการผลิตที่ทันสมัย มีความคิดริเริ่มด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาด้านต่างๆ เช่น ปิโตรเลียม การบิน เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ไปรษณีย์และโทรคมนาคม เป็นต้น ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ส่วนในด้านการเกษตร เกษตรกรได้เปลี่ยนแปลงแนวคิดการผลิตและประกอบธุรกิจ เป็นฝ่ายรุกในการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในการผลิตจนกลายเป็นแกนนำในการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ การพัฒนาการเกษตรและเศรษฐกิจชนบทตามแนวทางที่ทันสมัย ส่วนแถวขบวนปัญญาชนได้เข้าร่วมการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ในหลายด้านอย่างเข้มแข็ง โดยปัญญาชนบางส่วนมีความสามารถทัดเทียมกับปัญญาชนในประเทศพัฒนา ในขณะที่เยาวชนเวียดนามนับวันมีความคล่องตัว มีความคาดหวังอันแรงกล้าและสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ของโลกได้อย่างรวดเร็ว แถวขบวนนักธุรกิจที่นับวันเพิ่มขึ้น มีความมุ่งมั่นอันแน่วแน่และพยายามฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อสร้างฐานะ เดินหน้าในการเปลี่ยนแปลงใหม่และสร้างงานทำ
ส่วนประชาชนชนกลุ่มน้อยได้เชิดชูความสามัคคีและพยายามฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสังคม การแก้ปัญหาความยากจน การสร้างสรรค์เขตชุมชน การอนุรักษ์และส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมและเกียรติประวัติที่ดีงามของประชาชาติ ส่วนผู้ที่นับถือศาสนาต่างๆ ได้เดินพร้อมกับประชาชาติ ส่งเสริมคุณค่าทางวัฒนธรรม จริยธรรมและแหล่งพลังต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ชมรมชาวเวียดนามโพ้นทะเลมุ่งใจสู่ปิตุภูมิเสมอ อันเป็นการเสริมสร้างความไว้วางใจ ความภาคภูมิใจในประชาชาติและเป็นหนึ่งในแหล่งพลังเพื่อพัฒนาประเทศ
ส่วนประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมได้เข้าร่วมขบวนการต่างๆของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ขบวนการแก้ปัญหาความยากจน การสร้างสรรค์ชนบทใหม่ ตัวเมืองที่มีอารยธรรม การรณรงค์ “ชาวเวียดนามให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนาม”และกิจกรรมสวัสดิการสังคมเพื่อเป้าหมายการพัฒนาประเทศ
ความสามัคคีคือพลังภายในที่เข้มแข็งที่สุดของประชาชนเวียดนาม
เวียดนามกำลังอยู่ในช่วงที่สำคัญเพื่อพัฒนาอย่างรวดเร็ว ยั่งยืนและค้ำประกันการปฏิบัติยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมระยะปี 2021 - 2030 และแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมระยะปี2021 – 2025 โดยในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 เมื่อปี 2021 ได้มีการกำหนดเป้าหมายของการปฏิวัติเวียดนามในปัจจุบันคือ “ส่งเสริมความมุ่งมั่นและพลังที่เข้มแข็งของมหาสามัคคีชนในชาติผสานกับการพัฒนาของยุคสมัย ผลักดันภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ พัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยอย่างพร้อมเพรียงและรอบด้าน ปกป้องปิตุภูมิอย่างมั่นคง รักษาบรรยากาศสันติภาพ เสถียรภาพ พยายามพัฒนาเป็นประเทศพัฒนาตามแนวทางสังคมนิยมในช่วงกลางศตวรรษที่ 21” ซึ่งนี่ก็คือจุดรวมพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ
ส่วนในการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 8 สมัยที่ 13 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการกลางพรรคได้สรุปว่า ในระยะการพัฒนาใหม่ ควรส่งเสริมเกียรติประวัติแห่งมหาสามัคคีชนในชาติ สร้างความเห็นพ้องทางสังคม ปลูกฝังจิตใจแห่งความรักชาติ การพึ่งตนเอง ความภาคภูมิใจในประชาชาติ ความเชื่อมั่นและความคาดหวังเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมปฏิบัติเป้าหมายถึงปี 2030 เวียดนามจะกลายเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาที่มีอุตสาหกรรมที่ทันสมัย มีรายได้ปานกลางในระดับสูงและจนถึงปี 2045 จะกลายเป็นประเทศพัฒนาและมีรายได้สูงตามแนวทางสังคมนิยม ซึ่งเพื่อปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าว เวียดนามจะปรับปรุงระบบกฎหมายและนโยบายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่ มีส่วนร่วมส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของประชาชนทุกภาคส่วน จุดประกายความมุ่งมั่นและความคาดหวังเกี่ยวกับการพัฒนาของประชาชนทุกคน ยกระดับประสิทธิภาพของกิจกรรมของหน่วยงานภาครัฐในการจัดทำและปฏิบัตินโยบายส่งเสริมความสามัคคีชนในชาติ เปลี่ยนแปลงใหม่วิธีการดำเนินงานของแนวร่วมปิตุภูมิ องค์กรการเมืองและสังคมและสมาคมต่างๆอย่างมีความคิดสร้างสรรค์เพื่อเป็นตัวแทนของสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของประชาชน สนับสนุนการพัฒนาประเทศ จัดกิจกรรมต่างๆในขบวนการแข่งขันรักชาติอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
ทั้งนี้ ความสามัคคีคคือพลังที่เข้มแข็งที่สุดของประชาชนเวียดนามในสภาวการณ์ที่การพัฒนาประเทศในปัจจุบันมีทั้งโอกาสและความท้าทายต่างๆมากมาย ดังนั้นการส่งเสริมมหาสามัคคีชนในชาติจะช่วยให้เวียดนามสามารถฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อบรรลุผลสำเร็จในการพัฒนาประเทศมากขึ้น.