แม้อายุสูงมากแล้วแต่ท่านยังหลงไหลงานวิจัยเกี่ยวกับฮนอย

ผมเป็นคนฮานอยคือคำตอบของนักวิจัยยางกวนเมื่อถูกถามว่า ทำไมท่านรักฮานอยจนกลายเป็นความหลงไหลอย่างนี้  นักวิจัยยางกวนเป็นคนตัวเมืองเกิ่มหย่าง จังหวัดห่ายเซือง แต่ย้ายมาอยู่ที่กรุงฮานอยตั้งแต่ปีค.ศ.๑๙๕๐  นักวิจัยยางกวนบอกว่า ท่านติดใจวัฒนธรรมและความศิวิไลฮานอยมานานแล้ว ท่านได้ไปทุกแห่งหนในกรุงฮานอยไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้าน ถนนเล็กใหญ่หรือตรอกซอกซอยและลิ้มลองอาหารขนานแท้ของฮานอยทุกอย่าง  มีบางครั้งท่านเดินเท้าจากถนนเคิมเทียนในใจกลางกรุงฮานอยไปยังอำเภอชานเมืองแทงจี่ที่ขึ้นชื่อด้วยข้าวเกรียบปากหม้อเพื่อรับประทานอาหารชนิดนี้   ท่านศึกษาสูตรทำน้ำจิ้มและวิธีการทำข้าวเกรียบปากหม้อเพื่อเขียนลงในหนังสือแนะนำอาหารเวียดนาม  ท่านได้ศึกษาค้นหาที่มาของชื่อถนนหล่าหว่องในอดีตซึ่งมีอีกชื่อว่าถนนหว่างเซิน ซึ่งปัจจุบันคือถนนจ่าก๊า  ที่ถนนแห่งนี้มีร้านอาหารจ่าก๊าหล่าหว่องหรือปลากระทะร้อนที่ขึ้นชื่อของฮานอย  “ จากใจรักฮานอย ผมจึงศึกษาหาข้อมูลที่หาค่ามิได้เกี่ยวกับฮานอยได้มากมายและผมอยากถ่ายทอดให้ผู้อ่านเข้าใจเกี่ยวกับฮานอยยิ่งขึ้น  สำหรับผม ฮานอยเป็นเมืองที่สวยงาม ผมเรียนรู้จากคนฮานอยได้หลายอย่างเช่น คน ฮานอยมีอัธยาศัยดี เป็นผู้ดีและผมอยากกลายเป็นคนฮานอย ”

จากใจอยากอุทิศแรงกายและแรงใจต่อการพัฒนาของนครหลวง  นักวิจัยยางกวนได้ลงพื้นที่หลายแห่งเพื่อศึกษาวิจัยแล้วเขียนหนังสือให้สาธารณชนได้รับทราบ ดังนั้นหนังสือของท่านจึงเขียนด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายและแนะนำสิ่งที่ดีๆเกี่ยวกับฮานอย โดยเฉพาะพจนานุกรมพกพาเกี่ยวกับถนนต่างๆในฮานอย  สิ่งที่น่าสนใจคือ หนังสือทุกเล่มของท่านต่างระบุเลขที่บ้านและหมายเลขโทรศัพท์ หากผู้อ่านอยากสอบถามอะไรก็โทรไปถามท่านได้เลย   นักวิจัยยางกวนมีความสุขมากเมื่อหนังสือของท่านมีข้อมูลเกี่ยวกับฮานอยที่ครบถ้วนให้บริการผู้อ่าน  กวีบั่งเหวียดกล่าวถึงนักวิจัยยางกวนว่า  “ ผลงานของคุณลุงยางกวนเขียนเกี่ยวกับคนฮานอย ความสวยงามของฮานอย ถนนสายต่างๆในฮานอย บุคคลที่มีชื่อเสียงของฮานอยและวิถีชีวิตของคนฮานอย  คุณลุงเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับฮานอย  คุณลุงทำงานอย่างรอบคอบและมีความรับผิดชอบสูง เรื่องทุกเรื่องที่คุณลุงเขียนนั้นมาจากการเก็บข้อมูลในการลงพื้นที่ ไม่ใช่จากการฟังเรื่องเล่าหรือจากการค้นคว้าข้อมูลจากหนังสือและสื่อต่างๆ  ความรักฮานอยอย่างสุดซึ้งของคุณลุงสะท้อนจากผลงานต่างๆของท่าน ”

ท่านได้รับรางวัลบุ่ยซวนฟ้าย-เพื่อความรักฮานอย

หนังสือของนักวิจัยยางกวนเกี่ยวกับฮานอยมีหลายผลงานเช่น “ ทังลอง-ฮานอยในคำพังเพยและสุภาษิต  ”  “ ถนนในฮานอย ”  “ พันปีแห่งทังลอง-ฮานอยศิวิไล ”และ “ วัฒนธรรมในครอบครัวชาวฮานอย ” ซึ่งต่างสะท้อนมุมที่สวยงามเกี่ยวกับฮานอยเมืองผู้ดี   สำหรับนักวิจัยยางกวนนั้น ความสวยงามของฮานอยไม่ใช่แค่อาคารบ้างช่องที่ทาสีเหลืองและหลังคามุงกระเบื้องที่ตะใคร่น้ำจับเท่านั้น หากอยู่ที่วิถีชีวิตที่เป็นสามัญของชาวฮานอยด้วย  วิถีชีวิตและความเป็นผู้ดีของคนฮานอยได้รับการหล่อหลอมจากวัฒนธรรมของครอบครัว  ท่านได้ปฏิบัติตามครรภ์ลองชีวิตของผู้ดีฮานอยโดยได้สั่งสอนบุตรหลานที่ต้องดำเนินชีวิตอย่างซื่อสัตย์ สุจริต เคารพความจริง มีชีวิตที่สมถะ มีอัธยาศัยดีและเคารพผู้ใหญ่ และท่านผู้มีชื่อว่ายางกวนก็ได้รับความเคารพศัทธาจากวงการเพราะความซื่อสัตย์และจิตใจโปร่งใส  นักวิจัยยางกวนเล่าว่า  “ ต้องถือวัฒนธรรมในครอบครัวเป็นรากฐาน เด็กไม่ดีเพราะพ่อและแม่ไม่ใช่สังคมหรือครูอาจารย์  เมื่อผมเขียนหนังสือไม่เคยคิดเลยว่า ต้องเป็นผลงานอมตะและหนังสือของผมไม่ใช่หนังสือทางทฤษฎีและใช้คำศัพท์สูง  พจนานุกรมพกพาเกี่ยวกับถนนสายต่างๆในฮานอยของผมหนา ๓๐๐ หน้ากระดาษเท่านั้น ซึ่งต่างจากพจนานุกรมถนนเล่มอื่นๆที่หนาเท่าคืบ  ”

ปีนี้ นักวิจัยยางกวนมีอายุเกือบ ๙๐ ปีแล้ว แม้สังขารไม่อำนวยแถมยังป่วยตามประสาคนแก่ด้วยทำให้การเดินเหินไม่สะดวก แต่ความรักของท่านต่อฮานอยยังไม่จางหายไปไหน จากส่วนอุทิศและผลงานเกี่ยวกับฮานอย คณะกรรมการประชาชนนครหลวงฮานอยได้มอบประกาศเกียรติคุณเป็นพลเมืองผู้ดีของนครหลวง และในปีนี้ท่านได้รับรางวัลบุ่ยซวนฟ้าย-เพื่อความรักฮานอย อันเป็นการให้กำลังใจท่านในการศึกษาวิจัยและเผยแพร่ฮานอยซึ่งเป็นแผ่นดินแห่งศิวิไลหลายพันปีให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายของคนเวียดนามทั่วประเทศและชาวต่างชาติ .