คุณ มาร์ติน รามา (ขวา) |
คุณ มาร์ติน รามา เดินทางมากรุงฮานอยครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคมปี 1998 แล้วก็ย้ายมาอาศัยในเวียดนามในฐานะหัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจของธนาคารโลกในระหว่างปี 2002ถึงปี 2010 และเขาได้แปรความรักฮานอยจากใจมาเป็นหนังสือเรื่อง “Hanoi promenade” หรือ “ฮานอย – ที่เที่ยว” ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาเวียดนามเพื่อเสนอต่อผู้อ่านเวียดนามและได้รับการเสนอชื่อเพื่อรับ “รางวัลบุ่ยซวนฟ้าย – เพื่อความรักฮานอยปี 2017” การจัดเรียงเนื้อหา 20 ตอนอย่างรอบคอบเพร้อมภาพประกอบที่น่าสนใจและหลากหลายสีสันได้ช่วยให้ผู้อ่านเข้าถึงฮานอยผ่านมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ต่างชาติคนหนึ่ง แม้ฮานอยกำลังอยู่ในกระบวนการพัฒนาตัวเมืองอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับเขาเอง ฮานอยก็ยังคงเป็นเมืองที่น่าอยู่
ในความเห็นของมาร์ติน ฮานอยมีเสน่ห์เหมือนสาวสวย มีชีวิตชีวาและคึกคักมาก ถนนหนทางในกรุงฮานอยมิใช่เป็นที่สัญจรของผู้คนเท่านั้นหากยังมีภาพของคนหาบเร่ขายของใช้ของกินต่างๆ ร้านเบียร์สดและร้านอาหารริมฟุตบาท เป็นต้น ซึ่งสำหรับชาวต่างชาติหลายคน ภาพเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นปัญหาวุ่นวายไปหน่อยแต่สิ่งเหล่านี้แหละที่ได้สะท้อนชีวิตที่คึกคักหลากหลายสีสันของกรุงฮานอย ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่มีอายุนับพันปี นายมาร์ติน กล่าวว่า “มีสองสิ่งที่ทำให้ฮานอยเป็นเมืองพิเศษ หนึ่งคือ ฮานอยมีสถาปัตยกรรมหลากหลาย ทั้งสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส จีน สหภาพโซเวียดและอาคารต่างๆในยุคสังคมนิยม เป็นต้น นอกจากความสุขุมลุ่มลึกของเมืองหลวงที่เก่าแก่แล้ว ฮานอยังมีชีวิตที่คึกคัก ซึ่งแตกต่างกับกรุงปารีสที่เงียบกว่าและนี่คือเรื่องที่เราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่ออนุรักษ์และธำรงบรรยากาศที่คึกคักของกรุงฮานอยให้ได้”
นายมาร์ตินประทับใจมากที่สุดกับภาพของแม่ค้าหาบเร่ ของแม่ค้าถีบจักรยานเร่ขายดอกไม้ตามทุกตรอกซอกซอยของฮานอยและได้เรียกว่านั่นคือสวนดอกไม้ “เคลื่อนที่” ทำให้ฮานอยดูนุ่มนวลและสดใสมากขึ้น
ผลงาน “ฮานอย – ที่เที่ยว” |
ในผลงาน “ฮานอย – ที่เที่ยว” คุณ มาร์ตินได้เรียกฮานอยว่า “เธอ” เพราะตามภาษาแม่ของเขาคือภาษาสเปน ทุกสิ่งทุกอย่างต่างมีการแบ่งเพศ ดังนั้นหากเลือกเพศให้กรุงฮานอย เขาจะเลือกให้ฮานอยเป็นผู้หญิง โดยในผลงานนี้ ฮานอยเหมือนหญิงสาวขี้หงุดหงิดเหมือนสภาพอากาศ เดี๋ยวก็ร้อน เดี๋ยวก็หนาวที่อาจทำให้นักท่องเที่ยวหรือแม้แต่คนฮานอยเองก็รู้สึกไม่สบาย ไม่ชอบ ไม่ถูกใจแต่คุณมาร์ตินเผยว่า ฮานอยเป็นสาวสวยที่เอาใจยาก “ทุกคนก็รักฮานอยแต่หากถามผมว่า รักเพราะอะไรก็ยากที่จะตอบได้ แต่ถ้าหากไม่ทราบ ก็ไม่สามารถปกป้องสิ่งที่เรารักได้ ผมได้ตั้งคำถามว่า “อะไรทำให้ฮานอยเป็นเมืองพิเศษ” ในหนังสือเรื่อง “ฮานอย – ที่เที่ยว” ผมได้ตอบคำถามนั้นด้วยตนเอง เช่น ทำไมเราชอบทานเฝอหรือก๋วยเตี๋ยว เฝอมีอะไรบ้างที่ทำให้เราชอบทานและรู้สึกอร่อยมาก ในเฝอมีเครื่องปรุงประมาณ 20 อย่างเหมือนหนังสือของผมก็มี 20 ตอน โดยมีหนึ่งแนะนำเกี่ยวกับเฝอของฮานอย สิ่งที่ทำให้ฮานอยแตกต่างกับนครอื่นๆนั้นยังเป็นสถาปัตยกรรมและชีวิตประจำวันของประชาชน”
ในช่วงที่เขาอาศัยอยู่ในเวียดนาม มาร์ตินใช้เวลาว่างส่วนใหญ่เพื่อเดินเล่นหรือปั่นจักรยานศึกษาค้นคว้าทุกซอกทุกซอยในกรุงฮานอย และเก็บความงดงามของฮานอยในภาพถ่ายนับพันภาพโดยเฉพาะสถาปัตยกรรมเพื่อประกอบหนังสือ นางห่าจาง ผู้อ่านคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “ดิฉันได้อ่านหนังสือเรื่อง “ฮานอย - ที่เที่ยว” หลายครั้งและเห็นว่า นี่ไม่ใช่หนังสือวิชาการ ไม่ใช่หนังสือคู่มือ นี่คือบันทึกเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับฮานอยในความรักของคุณ มาร์ติน ดิฉันประทับใจมากต่อการศึกษาค้นคว้า การถ่ายภาพวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของฮานอยของเขา ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นว่า เขาต้องรักและหลงไหลกับทุกสิ่งทุกอย่างของฮานอยเป็นอย่างมากถึงจะสามารถสร้างผลงานเป็นหนังสือนี้ออกมาได้”
ในหนังสือเรื่องนี้ มาร์ตินตั้งคำถามว่า “อะไรทำให้ฮานอยกลายเป็นเมืองที่น่าอยู่ ในขณะที่เมืองใหญ่ๆในเอเชียตะวันออกนับวันไม่สวยเหมือนเดิมหรือรู้สึกเหงาแต่ฮานอยยังคงเป็นนครที่น่ารักอยู่เสมอ” ฮานอยในใจเขาไม่เพียงแต่เป็นเมืองแห่งหนึ่งให้ผู้คนทำมาหากินเท่านั้นหากยังเป็นสถานที่ที่คุณสามารถพบความสุขได้.