นาย มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศไทย ยืนยันความสำคัญของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยมีรายได้เกือบ 2,300 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือคิดเป็น 3.1% ของ GDP โลก

ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศในเอเชียได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในความพยายามส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเติบโตและพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาค นี่คือข้อสรุปจากผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมการสัมมนาเรื่อง “ประเทศไทยและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในอาเซียน” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่กรุงเทพมหานคร โดยเน้นถึงความสำคัญของการเสริมสร้างการเชื่อมโยงอาเซียนเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเติบโตเศรษฐกิจทั่วโลก

ในงานนี้ ผู้เชี่ยวชาญในด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากประเทศในอาเซียน จีน สาธารณรัฐเกาหลี และสหรัฐอเมริกา ได้หารือถึงวิธีการส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของอาเซียน รวมถึงการสนับสนุนผู้ที่มีทักษะความสามารถ ในการกล่าวสุนทรพจน์ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ย้ำถึงความสำคัญของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่สร้างรายได้เกือบ 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งคิดเป็น 3.1% ของ GDP โลก และยังเน้นย้ำถึงนโยบายที่สอดคล้องกับประเทศไทยในการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์

“การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นนโยบายสำคัญของประเทศไทย เราได้ส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในภูมิภาคตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา นี่ก็เป็นแนวทางหลักที่รัฐบาลมุ่งเน้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งได้ถูกกล่าวถึงในแถลงการณ์นโยบายของรัฐบาลใหม่”

นายมาริษ เผยว่า เศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยสร้างรายได้เกิน 3 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ในปี 2021 คิดเป็นเกือบ 7% ของ GDP  ในขณะที่อีกกว่า 70% ของประเทศทั่วโลกได้สร้างนโยบายจำนวนมากเพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยถือเป็นแหล่งสร้างงานทำ คิดเป็นประมาณ 6% ของงานทำทั่วโลก ดังนั้น นายมาริษ จึงเห็นว่าประเทศในอาเซียนจำเป็นต้องพยายามร่วมมือกันมากขึ้นในการจัดทำนโยบายระดับชาติด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อมุ่งสู่อนาคตที่รุ่งเรืองมากขึ้น

นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ตัวแทนจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยเผยว่า

“ประเทศไทยเชื่อว่าการผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ในการรักษาและส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศสามารถสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจอย่างมาก เศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยมีบทบาทสำคัญและมีคุณค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลต่อประเทศไทยและอาเซียนด้วย ความคิดสร้างสรรค์ไม่มีขอบเขต เมื่อเราร่วมมือกัน เราสามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพทางวัฒนธรรมอันหลากหลายของอาเซียน เพื่อกำหนดให้อาเซียนเป็นผู้นำในเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับโลก”

นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ กล่าวว่าการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยนั้นมุ่งเน้นไปที่ 3 สาขาหลัก เริ่มแรก ประเทศไทยมีแผนที่จะพัฒนาบุคลากรที่มีความคิดสร้างสรรค์ผ่านโครงการ “ 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์” โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงคุณภาพของบุคลากรที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีทักษะสูงในประเทศไทย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมงานหัตถกรรม ศิลปะ วัฒนธรรม และเทคโนโลยีทันสมัย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทั่วประเทศไทยต่อไป รัฐบาลไทยยังมีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์โดยการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เป็นมิตรและมีสิ่งจูงใจมากมาย โดยใช้มาตรการสนับสนุนการบริหารจัดการในภาคส่วนต่างๆ เช่น การท่องเที่ยว แฟชั่น อาหาร เป็นต้น เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง

สุดท้าย เพื่อขยายผลิตภัณฑ์และบริการที่สร้างสรรค์ในตลาดโลก ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันหลากหลายของอาเซียน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่มีชีวิตชีวาและสร้างสรรค์ที่สุดในโลก

ในการสัมมนาบรรดาผู้เชี่ยวชาญเห็นพ้องกันว่าการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในอาเซียนมากขึ้นเป็นวิธีเดียวเพื่อให้อาเซียนแปรพลังทางวัฒนธรรมภายในกลุ่มให้กลายเป็นโอกาสในระดับโลกได้อย่างรวดเร็ว.