นาย Nhek Serey Ratana ผู้อนุรักษ์อาชีพตอกลายหนังโบราณ

รายการภาคภาษากัมพูชา
Chia sẻ
(VOVWORLD) - ท่านผู้ฟังค่ะ งานศิลปะหัตถกรรมตอกลายหนังเป็นส่วนหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมที่เก่าแก่ของกัมพูชา ซึ่งอาจมีมาก่อนการสร้างนครวัดและได้สืบทอดกันมาจนถึงทุกวันนี้ โดยผลงานตอกลายหนังทุกชิ้นล้วนมีคุณค่าทางศิลปะและดูมีชีวิตชีวา โดยลวดลายต่างๆได้รับแรงบันดาลใจจากนิทานพื้นบ้านและสิ่งที่คุ้นเคยในวัฒนธรรมเขมร รวมถึงการแสดงหุ่นเงา Sbek Thom มรดกวัฒนธรรมนามธรรมที่จับต้องไม่ได้ชิ้นแรกในอินโดจีนที่ได้รับการรับรองจากองค์การ UNESCO

 

 
นาย Nhek Serey Ratana ผู้อนุรักษ์อาชีพตอกลายหนังโบราณ - ảnh 1นาย Nhek Serey Ratana (เสื้อขาว) กับสมาชิกของ Little Angel
 
 

ในร้านขายของที่ระลึกเล็กๆ แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า Little Angel อยู่ด้านหน้าปราสาทพระโค ในหมู่บ้าน Ovulok ตำบล Bakong อำเภอ Prasat Bakong มีการจัดวางผลงานแกะสลักหนังวัวเพื่อจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว โดยทุกๆ วัน สามารถได้ยินเสียงตอกหนังจากเหล่าเด็กๆ ที่มีฐานะยากจนและเด็กกำพร้าที่กำลังเรียนรู้งานหัตถกรรมเครื่องหนัง ซึ่งดึงดูดความสนใจของกลุ่มนักท่องเที่ยว เจ้าของร้านคือนาย Nhek Serey Ratana ช่างตอกลายหนังที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี เผยว่า กว่าที่จะผลิตสินค้าได้หนึ่งชิ้นต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ มากมายอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่การเลือกผืนหนัง การทำความสะอาด การเก็บรักษา การร่างขึ้นรูป และการตอกลาย 

หนังที่ใช้แกะสลักเป็นหนังวัวตัวผู้ที่ยังอ่อน ซึ่งตายด้วยเหตุธรรมชาติไม่ใช่ถูกเชือด ส่วนยาใช้รักษาหนังทำจากเปลือกไม้ ซึ่งเปลือกไม้นั้นจะถูกแช่น้ำแล้วต้มเป็นยา แล้วค่อยนำไปทาบนผืนหนังเพื่อการเก็บรักษา ก่อนหน้านั้น ต้องทำความสะอาดหนังเพื่อกำจัดกลิ่นเหม็น แล้วเอาไปตากให้แห้งภายในเวลา 3 เดือนก่อนที่จะทายา

นาย Nhek Serey Ratana เผยเพิ่มเติมว่า สำหรับผลิตภัณฑ์หนังที่ใช้ในงานแสดงหนังใหญ่เขมรหรือ Sbek Thom เนื่องจากมีการตอกลายรูปภาพศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในตำนาน ดังนั้น กระบวนการตอกลายจึงต้องประกอบพิธีกรรมบางอย่างด้วย โดยช่างจะวาดภาพตัวละครบนผืนหนังในช่วงวันพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้นและถ้าหากวาดยังไม่เสร็จภายในวันนั้น ก็ต้องรอจนถึงวันพระจันทร์เต็มดวงครั้งต่อไป หลังจากนั้น ต้องวางผืนหนังดังกล่าวไว้บนโต๊ะโดยห้ามให้สัมผัสกับพื้น

เวิร์คช็อปงานตอกลายหนังและร้านขายของที่ระลึก Little Angel ของนาย Nhek Serey Ratana ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2001 ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ประกอบธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นบ้านพักที่แสนอบอุ่น สร้างโอกาสให้แก่เด็กยากจนและเด็กกำพร้าในการดํารงชีวิตพร้อมเรียนรู้อาชีพการตอกลายหนังและสามารถไปศึกษาต่อที่โรงเรียน เขาเผยว่า ตัวเองก็เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกัน ต้องเก็บเศษเหล็กไปขายและไม่ได้ไปโรงเรียน ดังนั้น เขาจึงอยากให้ความช่วยเหลือกลุ่มเด็กๆ ที่ตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนที่ตนเองเคยประสบในชีวิต ให้มีโอกาสได้ไปโรงเรียนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า จนถึงปัจจุบัน ที่โรงงานและร้านขายของที่ระลึก Little Angel ของเขาได้ให้ความช่วยเหลือเด็กๆ ที่มีฐานะยากจนกว่า 200 คน 

“ในช่วงแรก ผมสังเกตเห็นว่า มีเด็กบางคนนั่งดูผมทำงานทั้งวัน ผมถามพวกเขาว่าทำไมไม่ไปโรงเรียน ซึ่งก็ได้คำตอบว่า พวกเขาเป็นเด็กกำพร้าเลยไม่มีเงินไปโรงเรียน ส่วนตัวผมก็เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกัน และเห็นพวกเขามีสถานะที่ไม่ต่างกับตัวเองเมื่อก่อน เลยตัดสินใจสอนอาชีพการตอกลายหนังให้แล้วทำสินค้าไปขายเพื่อจะได้มีเงินไปโรงเรียน ช่วงแรกๆ ผมรับสอนเด็กแค่ 5 คน หลังจากนั้นมีเด็กๆ มาเรียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้มีมากกว่า 200 คนแล้ว

นาย Nhek Serey Ratana ผู้อนุรักษ์อาชีพตอกลายหนังโบราณ - ảnh 2ผลงานของนาย Nhek Serey Ratana

นาย Nhek Serey Ratana ได้ให้ความช่วยเหลือด็กกำพร้า เด็กพิการ หรือเด็กที่มีฐานะที่ยากลำบากมาสมัครเรียนอาชีพและมีที่พักฟรี ด้วยเงื่อนไขข้อเดียวเท่านั้นคือ พวกเขาต้องไปโรงเรียนต่อให้จบ เด็กชาย Oeun Narong นักเรียนผู้พิการทางขา ได้เรียนอาชีพเครื่องหนังที่นี่มาได้ 8 ปี เผยว่า 

“ในช่วงแรก หนูไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่หลังจากได้มาที่นี่ คุณครูก็สอนหลายอย่างมาก ตอนนี้ หนูสามารถวาดภาพ ขึ้นรูป ตอกลาย และนำสินค้าไปขายเพื่อมีเงินไปโรงเรียน ทำงานที่นี่ก็ไม่กระทบการเรียนที่โรงเรียน โดยหนูสามารถทำงานได้หลังกลับจากโรงเรียน

ในกลุ่มเด็กๆ กว่า 200 คนที่ได้รับความช่วยเหลือจากนาย Serey Ratana หลายคนได้มีงานทำและชีวิตที่ดีอย่างมั่นคงโดยไม่ต้องอยู่ที่นี่ นอกจากนั้น ยังมีหลายคนเลือกที่จะศึกษาอาชีพต่อและเปิดโรงงานของตนเองในจังหวัดอื่นๆ เพื่อการเผยแพร่และอนุรักษ์อาชีพตอกลายหนังเขมรโบราณ พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ที่มีฐานะยากจนเหมือนที่คุณครูของพวกเขาเคยสอนและเคยทำ

ทั้งนี้ ศิลปะการตอกลายหนังเป็นมรดกทางวัฒนธรรมเผ่าเขมรที่มีอายุยาวนานนับพันปี แม้มีหลายคนเลือกที่จะเลิกทำ แต่ก็ยังมีอีกจำนวนมากเหมือนนาย Nhek Serey Ratana ที่ยังคงอนุรักษ์และสานต่องานฝีมือดั้งเดิมนี้จากรุ่นสู่รุ่น โดยหลังจากได้สะสมความรู้และทักษะความสามารถแล้ว น้องๆ คนรุ่นใหม่ก็ได้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมแหล่านี้อย่างแท้จริง ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ของประเทศชาติและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลัง./.

คำติชม