นางสาว อุรวดี ศรีภิรมย์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย และตัวแทนของสมาคมมิตรภาพเวียดนาม - ไทย สมาคมมิตรภาพไทย - เวียดนามเข้าร่วมกิจกรรม (Photo: Thanh Thao)

กิจกรรมจะจัดไปจนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม โดยมีการจัดแสดงกว่า 20 บูธของสถานประกอบการที่มาจากประเทศไทยเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ของไทย เช่น อาหาร เครื่องสำอาง สินค้าหัตถกรรม แฟชั่น เป็นต้น ต่อผู้บริโภคเวียดนาม พร้อมทั้งเปิดโอกาสส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างชมรมสถานประกอบการเวียดนามและไทย

นางสาว อุรวดี ศรีภิรมย์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย (Photo: Thanh Thao)

นางสาว อุรวดี ศรีภิรมย์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย ได้เผยว่า กิจกรรมในปีนี้มีความแตกต่างกับกิจกรรมครั้งก่อนๆ โดยย้ำถึงปัจจัยการเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งและจริงจังมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงก้าวพัฒนาใหม่ในความสัมพันธ์ทวิภาคีหลังจากที่เวียดนามและไทยได้ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้านเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมปี 2025 นอกจากนี้การเลือกชื่อของกิจกรรมคือ Thai Connect สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ Three connect ที่ทั้งสองประเทศกำลังผลักดัน ซึ่งกิจกรรมนี้จะมีส่วนร่วมผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการของสองประเทศและสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเวลาที่จะถึง

นางสาว อุรวดี ศรีภิรมย์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย และนาย  เหงวียนหิวเหงียะ เลขาธิการพรรคสาขาจังหวัดฮึงเอียนไปชมบูธแสดงสินค้าของไทย (Photo: Thanh Thao)

ส่วนนาย เหงวียนหิวเหงียะ เลขาธิการพรรคสาขาจังหวัดฮึงเอียน ได้เผยว่า ปัจจุบันนี้ ที่จังหวัดฮึงเอียนมีสถานประกอบการกำลังประกอบธุรกิจกว่า 25,000 แห่ง มีนิคมอุตสาหกรรมและเขตเศรษฐกิจ 18 แห่งรวมพื้นที่กว่า 30,000 เฮกตาร์ ซึ่งพร้อมให้การต้อนรับสถานประกอบการต่างประเทศเข้ามาลงทุน การปรากฎตัวของสถานประกอบการไทยในจังหวัดฮึงเอียนยังมีไม่มากนักและถือว่ายังคงมีศักยภาพอีกมาก ทางการจังหวัดฮึงเอียนจะเดินพร้อมและสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้สถานประกอบการไทยขยายการลงทุนและพัฒนาในจังหวัดได้อย่างยั่งยืน

นาย ปีฐพล รัตนจินดา ผู้อำนวยการฝ่ายขายขององค์การเภสัชกรรม (Photo: Thanh Thao)

นาย ปีฐพล รัตนจินดา ผู้อำนวยการฝ่ายขายขององค์การเภสัชกรรม หรือ GPO กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ GPO เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าในเวียดนาม ตลาดเวียดนามเป็นตลาดที่มีประชากรที่เป็นคนรุ่นใหม่จำนวนมากและมีความต้องการในการดูแลสุขภาพมาก ดังนั้น นี่เป็นโอกาสดีที่ทางองค์กรขยายความร่วมมือ พร้อมทั้งแสดงความหวังว่า ผ่านกิจกรรมนี้ GPO จะเป็นที่รู้จักในจังหวัดฮึงเอียนและท้องถิ่นต่างๆ ของเวียดนามมากขึ้นเพื่อเปิดโอกาสแห่งความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในเวลาที่จะถึง.