นาง เลหั่ง รองเลขาธิการสมาคมการแปรรูปและส่งออกสัตว์น้ำเวียดนามหรือ VASEP เผยว่า การพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์นี้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่สถานประกอบการส่งออก โดยเฉพาะสถานประกอบการสัตว์น้ำ   ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ฝ่ามเท้แอง หัวหน้าภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งชาติได้ชื่นชมการที่ผู้นำทั้งสองประเทศสนับสนุนการผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ ส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน โดยเฉพาะด้านที่มีความหมายที่สำคัญและก้าวกระโดด เช่น วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีขั้นสูงและการที่เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม เสนอให้สหรัฐรับรองเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามโดยเร็วและลดการจำกัดการส่งออกต่อสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง 

“การที่สหรัฐรับรองเวียดนามเป็นเศรษฐกิจเชิงตลาด จะช่วยยกระดับสถานะของเวียดนามในตลาดโลก เอื้อให้แก่เวียดนามในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ของตลาดระหว่างประเทศ ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้นและช่วยลดการจำกัดในการนำเข้าเทคโนโลยีขั้นสูงจากสหรัฐ”

หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศบนเครือข่ายโซเชียล Truth Social เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมตามเวลาสหรัฐว่า ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม สำนักข่าวหลายแห่งทั่วโลกได้รายงานข้อมูลนี้พร้อมกัน โดยย้ำถึงนิมิตหมายที่สำคัญของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ  สำนักข่าวใหญ่ๆ เช่น Reuters, Financial Times, Bloomberg และ Nikkei ต่างรายงานว่า สหรัฐและเวียดนามได้บรรลุข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่สำคัญในความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศ โดยส่งผลกระทบที่สำคัญต่อเศรษฐกิจทั้งสองประเทศและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก หนังสือพิมพ์ Financial Times รายงานว่า เวียดนามเป็น “หนึ่งในไม่กี่ประเทศที่เพิ่งบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ”  ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสถานะของเวียดนามบนแผนที่การค้าโลก ในสภาวการณ์ที่หุ้นส่วนการค้าของสหรัฐจำนวนมากกำลังเร่งเพื่อบรรลุข้อตกลงนี้

สำนักข่าวอื่นๆ ให้ความสนใจเป็นพิเศษถึงผลกระทบของข้อตกลงระหว่างสหรัฐกับเวียดนามต่อห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคและปฏิกิริยาของตลาด โดย CNN ระบุว่า “ตลาดมีปฏิกิริยาในเชิงบวกต่อข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับเวียดนาม” โดยอ้างข้อมูลที่ว่า หุ้นของบริษัทใหญ่ๆ ซึ่งกำลังพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานในเวียดนาม เช่น Nike, Lululemon และ Columbia Sportswear ต่างปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหลังจากประธานาธิบดี ทรัมป์ประกาศข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม ส่วน CNBC ได้อัพเดทปฏิกิริยาของตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอย่างรวดเร็ว ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.3% ในขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.7% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 48 จุดหรือ 0.1% หุ้นของ Nike ซึ่งผลิตรองเท้าประมาณครึ่งหนึ่งในเวียดนามและจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 .