ตลาดนัดบั๊ก ห่า |
ตลาดนัดบั๊ก ห่าจัดขึ้นเป็นประจำทุกเช้าวันอาทิตย์ในใจกลางอำเภอเมืองบั๊ก ห่า ซึ่งห่างจากเทศบาลเมืองลาว กายประมาณ 60 กิโลเมตร ตลาดนัดบั๊ก ห่า ได้รับการโหวตจากนิตยสาร Serendib ของศรีลังกาให้เป็น 1 ในตลาด 10 แห่งที่น่าสนใจมากที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลาดแห่งนี้เต็มไปด้วยความงามแบบดั้งเดิมและเอกลักษณ์ของชนเผ่าเขตเขาสูงในเวียดนาม ตั้งแต่ครั้งโบราณกาลแขวงบั๊กห่าเป็นจุดแลกเปลี่ยนการค้าสำคัญบนเส้นทางสายไหมที่เชื่อมต่อมณฑลหนานหนิงของจีนกับเอเชียกลาง ดังนั้นผู้คนที่นี่ซึ่งส่วนมากเป็นเผ่าม้งมักจะนำอาหารและของพื้นเมืองมาแลกเปลี่ยนที่ตลาดในวันหยุดสุดสัปดาห์ ปัจจุบันตลาดนัดบั๊กหายังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมหลายอย่างของตลาดนัดโบราณ นักท่องเที่ยวที่มาตลาดนัดจะประทับใจในความคึกคักที่เต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นอายความเป็นตลาดชนเผ่าในเขตเขา เมื่อมองจากมุมสูงลงไปตลาดบั๊กห่าเหมือนกับสวนดอกไม้เคลื่อนที่สีสันฉูดฉาดจากเสื้อผ้าของชาวชนกลุ่มน้อยต่างๆ ที่มาเดินตลาดกับสีสันสดใสของสินค้าที่วางขายตามแผงร้านต่างๆ ตลาดบั๊กห่าแบ่งเป็น 4 ย่านต่อย่านขายสัตว์มีโค กระบือ สุกร ม้า ขายจำนวนมากถึงพันๆ ตัว ย่านขายเครื่องมือของใช้ เช่น คันไถ จอบ พลั่ว มีด ย่านขายเสื้อผ้า มีผ้าพื้นเมือง เครื่องประดับ ไหมพรม และย่านอาหารจะมีกระทะธั้งโก๊ ที่มีควันขึ้นโขมงและส่งกลิ่นหอมลอยมาไกล แต่ย่านที่ดึงดูดผู้หญิงชนเผ่าและนักท่องเที่ยวมากที่สุดคงเป็นย่านเสื้อผ้า ที่มีเครื่องประดับ เสื้อ กระโปรง ผ้าพื้นเมืองและกระบุงสานขายมากมาย สำหรับผู้ชายชนเผ่าในเขตเขานี้ ตลาดเป็นที่ให้เขาได้มาพบปะเพื่อนฝูงในวันหยุด กินเหล้าเหล้าแกล้ม ธั้งโก๊ อาหารพิเศษของเขตเขาภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ธั้งโก๊ เป็นอาหารจานเด็ดของเผ่าม้ง เรียกว่า เคิ้ว ทา ในภาษาม้ง ซึ่งแปลว่า “ซุปหมู”
จ๊อกก หรือสุนัขหางสั้นของคนม้งแบ่งเป็น 3 ชนิด |
คนจากถิ่นอื่นๆ ทั่วประเทศเดินทางหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อมาตลาดแต่ไม่ได้มาเที่ยวอย่างเดียว หากแต่มาแสวงหาสุนัขพันธุ์เพื้นเมืองของเผ่าม้ง หนึ่งใน 4 พันธุ์สุดยอดสุนัขที่ดีและหายากที่สุดในเวียดนาม เพราะฉะนั้นย่านขายสุนัขท้ายตลาดจึงเป็นย่านที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จ๊อ กก แปลว่าสุนัขหางสั้นเป็นสุนัขของคนเผ่าม้งที่ถูกเลี้ยงบนเขตเขาห่า ญาง มีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยม เช่น มีความซื่อสัตย์ภักดีต่อเจ้าของ มีความแสนรู้ คล่องว่องไว และกล้าหาญ มักถูกกลุ่มนักสะสมแสวงหาเสมอ หลายคนยอมจ่ายมากถึงร้อยล้านด่งเพื่อซื้อมาครอบครอง แม้แต่คนเผ่าม้งที่อาศัยในพื้นที่รอบๆ ก็มาที่ตลาดแห่งนี้เพื่อหาซื้อ จ๊อ กก ตามความเชื่อของคนม้ง การซื้อสุนัขเข้าบ้านเป็นการนำโชค นำสิ่งที่เป็นมงคลมาที่บ้าน นายหญ่าง แซว เซ้ง เผ่าม้งที่ตำบลบ้านโฟ้ อำเภอบั๊กห่า เผยว่า “สำหรับคนเผ่าม้ง หากเดินตลาดแล้วซื้อสุนัขที่ดีได้ตัวหนึ่งถือว่าเป็นการได้โชคได้ลาภ สุนัขซื้อมาต้องรู้จักเห่า เวลาเจ้าของสั่งต้องรู้จักทำตาม สุนัขเป็นเพื่อนของชาวม้ง ซื้อสุนัขมาเหมือนนำสิ่งที่เป็นมงคลกลับบ้าน” จ๊อกก หรือสุนัขหางสั้นของคนม้งแบ่งเป็น 3 ชนิด ได้แก่ กกติด กกถอ และ กกหลึง โดย กกติด คือสุนัขที่ไม่มีหาง มีแต่ขนหาง กกถอ ถอแปลว่ากระต่าย สุนัขชนิดนี้จึงมีหางเหมือนหางกระต่าย ส่วน กกหลึง เป็นสุนัขที่มีหางสั้นประมาณ 8-15 เซ็นติเมตร กลุ่มนักสะสมสุนัขจะนิยมหาซื้อสุนัขไร้หางและสุนัขหางกระต่ายมากที่สุด นายถ่า วัน แถ่ง นักท่องเที่ยวจากจังหวัด แท็ง ฮ้วาที่มาเที่ยวตลาดได้เล่าว่า “ผมได้ยินคนพูดว่า ทางเหนือนี้มีสุนัขพันธุ์ดี จึงเดินทางมาหาซื้อกลับไปเลี้ยงที่บ้าน ที่ตลาดมีสุนัขสวยๆ เยอะมาก ราคาแต่ละตัวประมาณ 3-4 แสนด่ง ผมชอบมาก ซื้อมา 2 ตัวแล้ว”
การหาสุนัขหางสั้นพันธุ์นี้บนที่ราบสูงห่า ยาง บางทียากยิ่งกว่าหาซื้อในฮานอย |
อย่างไรก็ดี คนที่นิยมชมชอบสุนัข กก แห่งตลาดบั๊ก ห่า เผยว่าสุนัขพันธุ์ที่มีค่าและหายากที่สุดต้องยกให้ จ๊อกกแดง หรือ จ๊อกกเพลิง ซึ่งมีขนสีแดงเข้ม นักสะสมหลายคนไม่เคยเสียดายเงินทองและความพยายามที่จะแสวงหาเพื่อได้มาซึ่งสุนัขหางสั้นพันธุ์พื้นเมืองที่ยังไม่กลายพันธุ์ ยังคงมีลักษณะพันธุ์แท้ดั้งเดิมของป่าเขาที่นี่ จ๊อกก บางตัวที่เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดีเคยถูกตั้งราคาขายสูงเกือบ 200 ล้านด่ง ส่วนลูกที่ออกมาราคาของทั้งคอกก็ประมาณ 100 ล้านด่ง นายฝ่าม แอ็ง ต๊วน มาจากนครไฮฟองที่มีความชอบและมีประสบการณ์ในการเลี้ยงสุนัขบั๊กห่า เผยว่า “สุนัขบั๊ก ห่า เป็น 1 ใน 4 พันธุ์สุดยอดสุนัขดีและหายากของเวียดนาม โดยเฉพาะสุนัขที่มีขนสีแดง ยิ่งหากตาเหมือนตาสุนัขจิ้งจอกด้วยแล้ว ราคาอาจสูงถึง 15-30 ล้านด่งต่อ 1 ตัว”
ปัจจุบันการเลี้ยง จ๊อกก ของเผ่าม้งกำลังเป็นที่นิยมในทั่วประเทศ การหาสุนัขหางสั้นพันธุ์นี้บนที่ราบสูงห่า ยาง บางทียากยิ่งกว่าหาซื้อในฮานอย แต่ตลาดนัดบั๊ก ห่ายังคงคึกคักทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ด้วยรถราและผู้คนที่มาเที่ยวเขตเขาตะวันตกเฉียงเหนือ สำหรับหลายคนการมาเที่ยวตลาดนัดบั๊กหาเป็นโอกาสได้สัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชนกลุ่มน้อย และพวกเขาไม่เคยลืมที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพื่อบันทึกความทรงจำอันงดงามของดินแดนแห่งนี้.