ไม่ยอมรับข้อเสนอเรื่อง “เส้นประ9เส้น” เพื่อแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออกโดยสิ้นเชิง

Thu Hoa/VOV5
Chia sẻ

(VOVworld)- “แผนที่ลิ้นวัว”หรือเรียกว่า “แผนที่เส้นประ9เส้น” และ “U-shaped” คือข้อเรียกร้องแต่เพียงฝ่ายเดียวของจีนที่ไม่มีพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ นิตินัยและสภาพที่เป็นจริงในทะเลตะวันออกรองรับนั้นได้ถูกประชามติระหว่างประเทศคัดค้านมาโดยตลอด และเมื่อเร็วๆนี้นักวิชาการของจีนก็ได้แสดงท่าทีคัดค้านต่อไปโดยเห็นว่าทุกปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ “เส้นประ9เส้น”จะต้องเป็นปัญหาที่ได้รับการหยิบยกขึ้นแก้ไขเป็นอันดับแรกในก-ระบวนการแสวงหาสันติภาพในทะเลตะวันออก


(VOVworld)- “แผนที่ลิ้นวัว”หรือยังเรียกว่า “แผนที่เส้นประ9เส้น” และ “U-shaped” คือข้อเรียกร้องแต่เพียงฝ่ายเดียวของจีนที่ไม่มีพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ นิตินัยและสภาพที่เป็นจริงในทะเลตะวันออกรองรับนั้นได้ถูกประชามติระหว่างประเทศคัดค้านมาโดยตลอด และเมื่อเร็วๆนี้นักวิชาการของจีนก็ได้แสดงท่าทีคัดค้านต่อไปโดยเห็นว่าทุกปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ “เส้นประ9เส้น”จะต้องเป็นปัญหาที่ได้รับการหยิบยกขึ้นแก้ไขเป็นอันดับแรกในก-ระบวนการแสวงหาสันติภาพในทะเลตะวันออก

ไม่ยอมรับข้อเสนอเรื่อง “เส้นประ9เส้น” เพื่อแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออกโดยสิ้นเชิง - ảnh 1
“แผนที่เส้นประ9เส้น”ที่จีนเสนอเพื่อเป้าหมายทางการเมืองนั้นที่แท้จริงคือแผนกุศโลบายมุ่งครอบครองทั้งทะเลตะวันออก

ทะเลตะวันออกเป็นเขตทะเลที่อยู่ทางทิศตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกรวมพื้นที่ประมาณ3.5ล้านตารางกิโลเมตร ส่วน “แผนที่ลิ้นวัว”ที่จีนเสนอนั้นเป็นแผนที่วาดเส้นประ9เส้นที่เริ่มจากอ่าวทะเลตะวันออกเลียบตามชายฝั่งทะเลภาคกลางของเวียดนามประมาณ50-100กิโลเมตรลงไปทางใต้ผ่านเกาะปาลาวันของฟิลิปปินส์และคลอบคลุมน่านน้ำส่วนหนึ่งที่ประเทศนี้ประกาศอธิปไตยและสิ้นสุดลงที่ช่องแคบลูซอนระหว่างฟิลิปปีนส์และใต้หวัน ซึ่งในแผนที่แนวตั้งที่จีนประกาศเมื่อเดือนมิถุนายนปี2014 เส้นประ9เส้นนี้ยังมีการขยายเป็น10เส้นซึ่งคลอบคลุมทั้งรัฐอรุณจัลประเทศของอินเดีย ซึ่ง “แผนที่เส้นประ9เส้น”ที่จีนเสนอเพื่อเป้าหมายทางการเมืองนั้นที่แท้จริงคือแผนกุศโลบายมุ่งครอบครองทั้งทะเลตะวันออก

จีนไม่มีพื้นฐานกฎหมายที่รองรับข้อเรียกร้องที่ดื้อด้านของตน

จนถึงปัจจุบันฝ่ายจีนไม่สามารถแสดงเอกสารข้อมูลใดๆที่มีการระบุชัดถึงจุดพิกัดและตำแหน่งของ “แผนที่เส้นประ9เส้น”แม้กระทั่งในหนังสือราชการที่จีนส่งถึงสหประชาชาติเมื่อเดือนพฤษภาคมปี2009ก็ไม่มีการเอ่ยถึง โดยจีนไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไม “แผนที่ลิ้นวัว”นั้นถูกเขียนในลักษณะเส้นประเพราะจีนอยากให้โลกเข้าใจว่าเส้นประ9เส้นนี้เป็นเส้นพรมแดนครอบคลุม “เขตน่านน้ำทางประวัติศาสตร์”หรือ “ชายแดนทางทะเล”ของจีน  ซึ่งประชามติได้ตั้งคำถามว่าทำไม่ในแถลงการณ์ของรัฐบาลจีนเกี่ยวกับเขตทะเลต่างๆเมื่อวันที่4กันยายนปี1958ไม่ได้กล่าวถึงเขตน่านน้ำทางประวัติศาสตร์หรือ “แผนที่ลิ้นวัว” ในทะเลตะวันออก ส่วนเอกสารกฎหมายฉบับอื่นๆที่จีนประกาศหลังจากนั้นเช่น กฤษฏีกาเกี่ยวกับเขตน่านน้ำและเขตทะเลรอยต่อปี1992 แถลงการณ์เกี่ยวกับเส้นฐานอาณาเขตทางทะเลปี1996 กฎหมายเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปปี1998ก็ไม่ได้ระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด ดั้งนั้นหากมองในด้านนิตนัย เมื่อถืออนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลปี1982 (ซึ่งเป็นเอกสารทางกฎหมายพื้นฐานเกี่ยวกับทะเลที่161ประเทศได้ให้สัตยาบันเข้าร่วมรวมทั้งจีน)เป็นหลักอ้างอิงก็สามารถกล่าวได้ว่า ข้อเรียกร้องของจีนเกี่ยวกับเส้นประ9เส้นนั้นไม่มีเหตุผลและไม่มีหลักฐานรองรับทั้งทางกฎหมายและความเป็นจริง และสิ่งที่ต้องย้ำอีกก็คืออนุสัญญาฯฉบับนี้ไม่ได้ระบุเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า “เขตน่านน้ำทางประวัติศาสตร์”

นักวิชาการจีนคัดค้านข้อเรียกร้อง แผนที่เส้นประ9เส้น

หลังจากที่จีนได้ตีพิมพ์แผนที่แนวตั้งที่มีเส้นประ10เส้นที่ครอบคลุมพื้นที่ทะเลตะวันออกเกือบทั้งหมดเมื่อต้นเดือนมิถุนายนปี2014 เว็บไซต์ Bbs.tianya.cn ของจีนก็ได้ลงบทความที่วิเคราะห์ว่า แค่เส้นประ9เส้นก็ไม่สามารถทำให้ประชามติยอมรับได้แล้วจะหวังอะไรเกี่ยวกับการรับรองเส้นประ10เส้นอีก ส่วนนักวิชาการหลีลินหัว อดีตเจ้าหน้าที่ศูนย์ข่าวทางทะเลของจีนก็ได้ลงความเห็นในบล๊อคส่วนตัวที่มีหัวข้อว่า “เส้นประ9เส้นจะอยู่ได้อีกกี่วัน” ที่ยืนยันว่าจีนไม่มีหลักฐานเพื่อกำหนดให้เส้นประ9เส้นเป็นพรมแดนทางทะเลของตนพร้อมทั้งเคยเรียกร้องให้จีนให้ความคารพอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลปี1982 ก่อนหน้านั้นนักวิชาการหลีวาดางก็ได้ลงความเห็นในเว็ปของตนว่า “การที่ประเทศจีนประกาศเส้นประ9เส้นเองโดยไปทับซ้อนกับเขตเศรษฐกิจจำเพาะ200ไมล์ทะเลของประเทศเพื่อนบ้านในทะเลตะวันออกได้สร้างความขัดแย้งที่ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลปี1982 ซึ่งต้นเหตุของปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกได้เริ่มมาจากเรื่องเส้นประ9เส้นดังนั้นนี่คือเรื่องที่สำคัญและต้องได้รับการแก้ไขเป็นอันดับแรกในกระบวนการแสวงหาสันติภาพในทะเลตะวันออก นอกจากนี้นายหลีวาดางได้ยืนยันว่า รัฐบาลจีนควรพิจารณาอย่างจริงจังเกี่ยวกับการยุติการกำหนดเส้นแบ่งเขตน่านน้ำที่อ้างหลักประวัติศาสตร์เพื่อเปิดทางให้แก่การแก้ไขปัญหาในทะเลตะวันออกอย่างจริงจัง

จีนควรยุติข้อเรียกร้องเกี่ยวกับ แผนที่เส้นประ9เส้น

ทันทีหลังจากที่ข้อเรียกร้องเรื่องเส้นประของจีนถูกประกาศต่อประชาคมระหว่างประเทศเมื่อเดือนพฤษภาคมปี2009 เวียดนามและฟิลิปปินส์ได้ส่งหนังสือคัดค้านถึงสหประชาชาติ โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมปี2010 อินโดนีเซียได้ยื่นหนังสือต่อสหประชาชาติเพื่อคัดค้านข้อเรียกร้องดังกล่าวของจีนเช่นกัน ส่วนในคำแถลงที่กรุงฮานอยเมื่อวันที่23กรกฎาคมปี2010 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ นางฮิลลารีลินตั้นก็ได้แสดงท่าทีคัดค้านข้อเรียกร้องทางทะเลว่าด้วยเส้นประ9เส้นที่ไม่สอดคล้องกับอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลปี1982ของจีน  เป็นอันว่าข้อเรียกร้องเกี่ยวกับเส้นประ9เส้นของจีนนับวันยิ่งถูกคัดค้านอย่างรุนแรงทั้งจากประชาชนจีน นักวิจัยและนักกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งประเทศต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทะเลตะวันออกเช่นเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศที่อยู่นอกขอบเขตข้อพิพาทด้านอธิปไตยแต่มีผลประโยชน์ด้านการค้าและการเดินเรือทะเลอีกด้วยเช่นสหรัฐ ญี่ปุ่นและอินเดีย

ทั้งนี้สำหรับเรื่องทะเลตะวันออก แม้จีนจะไม่พอใจแต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่านี่คือเขตทะเลที่มีความหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ9ประเทศกับ1อาณาเขต เป็นส่วนหนึ่งในนโยบายการพัฒนาของทุกชาติที่อยู่ริมฝั่งทะเลตะวันออกตลอดจนประเทศที่อยู่นอกภูมิภาค เมื่อแนวโน้มโลกาภิวัตน์กำลังขยายตัวและส่งผลกระทบต่อทุกประเทศนั้น ข้อเรียกร้องที่ก้าวร้าวของจีนเกี่ยวกับเส้นประ9เส้นจะต้องถูกประณามอย่างรุนแรงต่อไปแน่นอน./.

Komentar