(VOVworld) – จีนได้มีก้าวเดินที่รุนแรงมากขึ้นเพื่อพยายามขยายอำนาจในทะเลตะวันออกผ่านการตีพิมพ์แผนที่แนวตั้งโดยประกาศเส้นแบ่งพรมแดนทางทะเลเป็น “เส้นประ 10 เส้น” ที่คลอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในทะเลตะวันออกอย่างอุกอาจ แต่อย่างไรก็ตาม การกระทำลำพังเพียงฝ่ายเดียวของทางการปักกิ่งได้ถูกประชามติโลกเปิดโปง

แผนที่เส้นประ 10 เส้นสะท้อนให้เห็นแผนกุศโลบายยึดครองทะเลตะวันออก

ในแผนที่ใหม่ที่ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์แผนที่หูหนานเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน จีนได้มีปฏิบัติการที่ก้าวร้าวโดยประกาศอธิปไตยเหนือทะเลตะวันออกด้วยการย้ำ “เส้นประ 10 เส้น” ที่รุกล้ำเข้ามาในเขตชายฝั่งของเวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์และบรูไน คลอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลตะวันออก รวมทั้งหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลีย์ของเวียดนาม เกาะปาลาวัน เกาะลูซอนและแนวหินปะการังสคาร์เบอโรห์ของฟิลิปปินส์ รวมไปถึงรัฐอรุณาจัลประเทศของอินเดียด้วยซึ่งไม่เพียงแต่ประกาศอธิปไตยเหนือหมู่เกาะต่างๆของประเทศอื่นเพื่อให้เป็นเขตแดนของตนเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น จีนยังประกาศว่า การอนุมัติแผนที่ใหม่เป็นการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน ช่วยให้ประชาชนจีนมีจิตสำนึกในทุกด้านและไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับอธิปไตยเหนือดินแดนของจีนอีกต่อไป คาดว่า แผนที่ใหม่นี้ยังจะถูกนำไปสอนในโรงเรียนต่างๆของจีน
คำประกาศโดยพลการและไม่มีเหตุผล
จากการวาดแผนที่ที่มีการผนวกดินแดนของประเทศอื่นให้เป็นอาณาเขตของตนเพื่อจงใจทำให้ประชาชนภายในประเทศมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอธิปไตยในทะเลตะวันออก ประชาคมโลกจึงได้เปิดโปงแผนกุศโลบายครอบครองทะเลตะวันออกของทางการปักกิ่ง
โดยประเทศต่างๆในภูมิภาคได้ประท้วงอย่างเข้มแข็งและแสดงความเห็นว่า แผนที่ใหม่ “เส้นประ 10 เส้น” ของจีนในทะเลตะวันออกคือความทะเยอทะยานขยายอาณาเขตที่ไร้เหตุผล ขัดกับกฎหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ที่จีนได้ลงนามซึ่งทำให้แผนที่ดังกล่าวไม่มีความหมาย สหรัฐก็ได้ปฏิเสธแผนที่ “เส้นประ 10 เส้น” ของจีนและตำหนิจีนว่า เพิกเฉยต่อมาตรการทางการทูตและสันติในการแก้ไขความขัดแย้งและการพิพาท ส่วนอินเดียได้ประท้วงอย่างรุนแรงเช่นกันโดยแสดงความเห็นว่า แผนที่นี้คือแผนกุศโลบายใหม่ของจีนเพื่อรุกล้ำดินแดนและทะเล โดยเฉพาะ รัฐอรุณาจัลประเทศในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียที่จีนระบุในแผนที่ใหม่ว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของธิเบตนั้น อินเดียได้ยืนยันว่านี่คือดินแดนส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากประเทศอินเดียได้และได้อยู่ภายใต้การบริหารควบคุมของทางการนิวเดลีตั้งแต่หลังสงครามชายแดนระหว่างสองประเทศเมื่อปี 1962
ส่วนสื่อระหว่างประเทศก็ไม่ได้ให้คุณค่าต่อแผนที่ใหม่ของจีนโดยหนังสือพิมพ์วอร์ชิงตันโพสต์ของสหรัฐฉบับวันที่ 27 มิถุนายนได้ตำหนิแผนที่ใหม่ของจีนว่า เป็นสิ่งที่สร้างความแปลกใจให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านและน่าตลกขบขันเพราะแผนที่นี้ยังคลอบคลุมรัฐอรุณาจัลประเทศของอินเดีย ส่วนในบทความที่พาดหัวว่า “ปักกิ่งบังคับใช้เงื่อนไขที่ไร้เหตุผลในทะเลตะวันออก” ที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ เลอมองด์ของฝรั่งเศสฉบับเมื่อเร็วๆนี้ของนักข่าว ไบร เปโดร เลตตี ได้วิเคราะว่า ความพยายามทำให้ความฝันของจีนที่ต้องการกลายเป็นประเทศมหาอำนาจทางทะเลคือหนึ่งในหน้าที่หลักของประธานประเทศจีน สีจิ้นผิงเพื่อปฏิบัติ “ความฝันประเทศจีน” ซึ่งเพื่อบรรลุความเพ้อฝันนี้ จีนพร้อมที่จะใช้ทุกวิถีทางและแผนกุศโลบายที่เพิกเฉยต่อกฎหมายสากล ใช้แสนยานุภาพที่เหนือกว่าเพื่อข่มขู่ประเทศที่เล็กกว่าเพื่อผลักดันคำเรียกร้องของตน ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์สของอังกฤษได้วิเคราะห์เจาะลึกว่า ด้วยก้าวเดินนี้ เอเชียยากที่จะเชื่อมั่นต่อเจตนาของจีนคือต้องการสันติภาพที่แท้จริง ในขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์รายวัน ลาครัว ของฝรั่งเศสฉบับวันที่ 26 มิถุนายนได้อ้างคำประกาศของบรรดานักวิจัยว่า จีนกำลังปฏิบัติความทะเยอทะยานในการขยายอิทธิพลในทะเลตะวันออกและทะเลฮัวตุ้งเพื่อปกปิดสถานการณ์ไร้เสถียรภาพภายในประเทศ
ไม่เพียงแต่ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศนอกภูมิภาคประท้วงเท่านั้น หากประชามติภายในประเทศก็เยาะเย้ยแผนที่นี้เช่นกันโดยนาย อู๋เกือ นักวิเคราะห์ทางทหารชั้นนำของจีนได้ลงบทความบนเครือข่ายสังคมออนไลน์เวยป๋อว่า จากปฏิบัติการเหมือนทางการปักกิ่ง หากสหรัฐ อังกฤษและทุกประเทศที่อยากมีดินแดนในต่างประเทศก็แค่ทำการวาดแผนที่เท่านั้นและแผนที่ใหม่ของจีนได้สะท้อนให้เห็นถึงความรักชาติที่ไร้เหตุผล
สะท้อนให้เห็นถึงความทะเยอทะยานต้องการเป็นเจ้าโลกอย่างเห็นได้ชัด
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จีนยังคงมีจุดยืนที่ไม่เสมอต้นเสมอปลายเกี่ยวกับแหล่งที่มาที่ไม่ชัดเจนของสิ่งที่เรียกว่า “เส้นประ 9 เส้น” และจีนยังมีความสับสนภายในโดยไม่สามารถอธิบายเหตุผลของเส้นประนี้ เช่นเส้นประ 9 เส้นถูกวาดอย่างไรและมีตั้งแต่เมื่อไหร่ซึ่งจนถึงขณะนี้ ก็ไม่มีเอกสารใดที่ระบุชัดเจน ส่วนสื่อมวลชน นักประวัติศาสตร์ นักฎหมาย นักการเมืองและนักภูมิศาสตร์ของจีนก็มีการอธิบายที่แตกต่างกันหรือมิหนำซ้ำยังมีทัศนะที่ขัดแย้งกัน โดยเฉพาะในประวัติศาสตร์ของจีน เส้นประ 9 เส้นก็เคยถูกเพิ่มขึ้นเป็นเส้นประ 11 เส้น
จากการเคลื่อนไหวตามอำเภอใจของจีนเพื่อปฏิบัติคำเรียกร้องที่ไร้เหตุผล ทางการปักกิ่งกำลังทำให้ชื่อเสียงของตนเสื่อมเสีย การที่จีนจงใจผนวกเกาะแก่งทั้งหมดให้เป็นดินแดนของตนนั้นได้สะท้อนให้เห็นถึงความทะเยอทะยานในการขยายอาณาเขตที่ไม่ชอบธรรมอย่างเปิดเผย แต่ตามความเห็นของนักวิเคราะห์ระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น “เส้นประ 9 เส้น” “เส้นประ 10 เส้น” หรือ “เส้นประ 11 เส้น”ก็แค่ช่วยให้จีนสร้างความพอใจภายในประเทศเท่านั้น ส่วนประชาคมโลกก็เห็นสิ่งดังกล่าวเป็นเพียงเรื่องที่น่าขบขันเท่านั้นและถึงแม้จีนจะจงใจทำทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศจะเป็นหน่วยงานเดียวเท่านั้นที่มีบทบาทสำคัญในการตัดสินเรื่องดังกล่าว./.