อาจกล่าวได้ว่า เสรีภาพด้านความเชื่อและการนับถือศาสนาในเวียดนามนับวันยิ่งได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งรัฐให้ความเคารพและปกป้องผ่านรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่างๆ เช่น ในรัฐธรรมนูญเวียดนามปี 2013 ระบุว่า ประชาชนทุกคนต่างมีสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อและการนับถือศาสนา ในความเป็นจริง ประชาชนเวียดนามร้อยละ 95 มีความเชื่อและนับถือศาสนาต่างๆ ส่วนกิจกรรมด้านศาสนาต่างๆในเวียดนาม เช่น การประกอบศาสนากิจและการเผยแผ่ศาสนาถูกจัดขึ้นโดยปฏิบัติตามกฎหมายเวียดนามโดยแต่ละปีมีการจัดเทศกาลทางศาสนาหรือความเชื่อในท้องถิ่นต่างๆประมาณ 8,500 รายการ

ที่จังหวัดด่งนาย เขตตะวันออกภาคใต้เวียดนาม ซึ่งเป็นท้องถิ่นที่มีชาวคริสต์จำนวนมาก คือกว่า 8 แสน 7 หมื่นคน หรือคิดเป็นร้อยละ34 ของประชากร มีบาทหลวง 558 รูปในคริสตจักร 259 แห่ง ชาวคริสต์ทุกคนต่างมีเสรีภาพในการประกอบศาสนกิจและมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ประเทศให้เจริญรุ่งเรืองผ่านการปฏิบัติกิจกรรมการกุศลต่างๆ โดยเฉพาะบาทหลวงและนักบวชหลายรูปได้ยืนยันว่า ทางการปกครองท้องถิ่นทุกระดับ รวมทั้งชุมชนที่นี่ต่างอำนวยความสะดวกให้ชาวคริสต์ประกอบศาสนกิจในทุกที่ทุกเวลา  บาทหลวงเฉิ่นหงอกเตวียน ชาวคริสต์นิกายเซนต์จอห์นในนครเบียนหว่า จังหวัดด่งนายยกตัวอย่างว่า “โรงพยาบาลโท้งเญิดเป็นโรงพยาบาลเอกชนของชาวคริสต์นิกายเซนต์จอห์นที่ได้รับการก่อสร้างเมื่อปี 1956 ซึ่งส่วนใหญ่รักษาโรคให้แก่ชาวคริสต์ที่อาศัยพื้นที่แถบนี้ ซึ่งมีมากถึงร้อยละ 80  ถึงปี 1979 โรงพยาบาลนี้ถูกมอบให้เป็นของรัฐแต่การประกอบศาสนกิจยังคงมีขึ้นเหมือนเดิม ในทุกวัน พวกเราจะสวดมนต์และดูแลผู้ป่วย ถ้าแพทย์เห็นว่า ผู้ป่วยคนไหนที่รักษาไม่หายก็จะบอกให้ญาติๆเชิญบาทหลวงมาสวดมนต์ให้เพื่อความสบายใจ ตลอดจนสัญลักษณ์ต่างๆของคริสตศาสนายังคงประกฎให้เห็นในโรงพยาบาลแห่งนี้”

พระมหาเถระทิ๊กยากวาง หัวหน้าคณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ พุทธสมาคมเวียดนามเผยว่า พวกเรา ซึ่งในนามของศาสนิกชนขอยืนยันว่า รัฐเวียดนามให้ความเคารพและค้ำประกันสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อและการนับถือศาสนาของประชาชนทุกคน การจัดงานวิสาขบูชาปี 2014 เมื่อเร็วๆนี้ของพุทธสมาคมเวียดนามก็พิสูจน์ให้เห็นถึงเสรีภาพด้านความเชื่อและการนับถือศาสนาในเวียดนาม พระมหาเถระทิ๊กเญิดตื่อ รองเลขาธิการดูแลการต่างประเทศของคณะกรรมการจัดงานวิสาขบูชาปี 2014 ก็ยืนยันว่า “ในหลายปีมานี้ รัฐบาลเวียดนามได้ทำอย่างสุดความสามารถเพื่อปรับปรุงและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ปกป้องสิทธิต่างๆของมนุษย์ รวมทั้งสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อและการนับถือศาสนา” ส่วนดร.ฮามิด คูมาซาชาวอินเดียที่วิจัยเกี่ยวกับพุทธศาสนาได้กล่าวในโอกาสเข้าร่วมงานวิสาขบูชา 2014 ว่า “การจัดงานวิสาขบูชาปีนี้ที่จังหวัดนิงบิ่งห์เป็นเรื่องที่ดีเพราะนิงบิงห์เป็นผืนแผ่นดินแห่งพระพุทธเจ้า ผมมีนักเรียนกว่า 100 คนต่างเป็นพุทธศาสนิกชนและพระภิกษุสามเณรชาวเวียดนาม ดังนั้นผมจึงรู้จักการประกอบศาสนากิจของชาวพุทธในเวียดนาม ชาวเวียดนามจำนวนมากนับถือศาสนาพุทธ นี่คือเรื่องที่ดี ถึงแม้เวียดนามเป็นประเทศคอมมิวนิสต์แต่สามเณรและพระภิกษุสงฆ์ รวมทั้งองค์การทางพุทธศาสนาต่างมีเสรีภาพเพื่อประกอบศาสนกิจ”

ในความเป็นจริง ปัจจุบันศาสนาต่างๆกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีการประกอบศาสนกิจอย่างคึกคักมาก ตั้งแต่ปี 2009 ที่เวียดนามรายงาน UPR รอบแรกมาจนถึงปัจจุบัน รัฐเวียดนามได้รับรององค์การศาสนาอีก 8 องค์กร รวมยอดองค์การศาสนาในเวียดนามเป็น 38 องค์กร และในตลอด 5 ปีที่ผ่านมา รัฐเวียดนามได้อำนวยความสะดวกเพื่อฟื้นฟูและมอบที่ดินก่อสร้างศาสนสถานเกือบ 3 พันแห่ง ส่วนองค์การศาสนาที่ยังไม่มีศาสนสถาน รัฐก็อำนวยความสะดวกให้ผู้นับถือทำการประกอบศาสนากิจที่บ้าน ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดจากนิกายต่างๆของชาวคาทอลิก

ทั้งนี้เป็นพื้นฐานเพื่อให้เวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระ 2014-2016 ด้วยเสียงสนับสนุนมากที่สุด สามารถขยายผลสำเร็จต่างๆในด้านสิทธิมนุษยชนต่อไป./.