นายกรฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก เป็นประธานในการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์สรุปผลการปฏิบัติงานด้านการแก้ปัญหาความยากจนในช่วงปี 2016 -2020 |
ในการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์สรุปผลการปฏิบัติงานด้านการแก้ปัญหาความยากจนในช่วงปี 2016 -2020 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ยืนยันว่า พรรคและรัฐมีจุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสนใจต่อการแก้ปัญหาความยากจนและค้ำประกันสวัสดิการสังคม
ผลสำเร็จที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
ปี 2016 ซึ่งเป็นปีแรกในการปฏิบัติโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน อัตราครอบครัวยากจนของเวียดนามอยู่ที่ร้อยละ 4.25 มาถึงปัจจุบัน อัตราครอบครัวที่ยากจนได้ลดลงเหลือร้อยละ 2.75 เท่านั้น เป็นอันว่าภายหลัง 5 ปี มีประชาชน 6 ล้านคนได้หลุดพ้นจากความยากจนและจำนวนอำเภอยากจนได้ลดลงครึ่งหนึ่ง แต่เพื่อสามารถบรรลุผลงานดังกล่าว ยอดเงินลงทุนเพื่อปฏิบัติโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความยากจนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 93 ล้านล้านด่งหรือคิดเป็นกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในนั้น ครึ่งหนึ่งเป็นงบประมาณแผ่นดิน แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆแต่สภาแห่งชาติและรัฐบาลได้เพิ่มงบประมาณให้แก่การแก้ปัญหาความยากจนขึ้นอีก 2 เท่า โดยจัดสรรงบประมาณร้อยละ 21 ให้แก่การปฏิบัติงานด้านสวัสดิการสังคม ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยมีไม่กี่ประเทศที่มีรายได้เหมือนเวียดนาม ผู้ยากจนและประชาชนชนกลุ่มน้อยทั้งหมดได้รับการประกันสุขภาพฟรี และในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เวียดนามก็ได้ออกนโยบายต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน 13 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด
ผลสำเร็จจากการแก้ปัญหาความยากจนของเวียดนามเป็นผลมาจากการเข้าร่วมของทั้งระบบการเมืองและทางการทุกระดับ การสนับสนุนของประชาชนทั้งภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะ ท้องถิ่นต่างๆที่สามารถหลุดพ้นจากความยากจนด้วยเจตนารมณ์แห่งการพึ่งพาตนเอง
ภาพของการประชุม (Photo:nhandan.com.vn) |
เพื่อเวียดนามที่ไม่มีความยากจน
จากการเป็นประเทศที่ได้รับผลเสียหายอย่างหนักจากสงครามและเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ งานด้านการแก้ปัญหาความยากจนและการป้องกันไม่ให้กลับไปยากจนอีกครั้ง จะเป็นความท้าทายใหญ่ต่อเวียดนาม นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ยืนยันว่า
“เพื่อปฏิบัติงานด้านการแก้ปัญหาความยากจนและสวัสดิการสังคมในช่วงปี 2021 -2025 วิสัยทัศน์ปี 2030 และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลกในช่วงปี 2015 -2030 ของสหประชาชาติ เวียดนามได้พยายามและมีความตั้งใจมากขึ้นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ดังต่อไปนี้อย่างมีประสิทธิภาพและเคร่งครัดมากขึ้น หนึ่งคือ ทำการวิจัยเพื่อยื่นเสนอต่อคณะกรรมการกลางพรรค กรมการเมืองและคณะเลขาธิการพรรคประกาศมติและคำสั่งเกี่ยวกับนโยบายการแก้ปัญหาความยากจนและสวัสดิการสังคมอย่างยั่งยืนจนถึงปี 2030 ยื่นเสนอต่อสภาแห่งชาติประกาศมติเกี่ยวกับการผลักดันการปฏิบัติเป้าหมายการแก้ปัญหาความยากจนและอนุมัติแนวทางการลงทุนโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความยากจนและสวัสดิการสังคมอย่างยั่งยืนในช่วงปี 2021 -2025 แนวทางจนถึงปี 2030 และวิสัยทัศน์ปี 2045 “เพื่อเวียดนามที่ไม่มีความยากจน” ตามเอกสารที่จะยื่นเสนอต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่มีรายได้สูงและไม่มีความยากจนในปี 2045”
เพื่อปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าว เวียดนามจะเสร็จสิ้นการจัดทำนโยบายช่วยเหลือผู้ยากจน มาตรฐานความยากจนในหลายมิติ ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อเด็ก ผู้สูงอายุและประชาชนชนกลุ่มน้อย นอกจากการปฏิบัติ2 โครงการเป้าหมายที่สำคัญคือโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่และโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน เวียดนามจะปฏิบัติมติโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับเขตชนกลุ่มน้อย โดยเน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจและสังคมในเขตที่ประสบอุปสรรค โดยเฉพาะ โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม การเชื่อมโยงเพื่อสร้างโอกาสการแลกเปลี่ยนสินค้าและงานทำ นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกเห็นว่า
“เพื่อปฏิบัติความรับผิดชอบต่อผู้ยากจน ผมขอเสนอให้ปฏิบัติขบวนการใหม่ ตำบล แขวงและหมู่บ้านแต่ละแห่งสร้างสรรค์รูปแบบการแก้ปัญหาความยากจนดีเด่นและสอดคล้องกับสถานการณ์ในท้องถิ่นและมีวิธีการปฏิบัติที่มีความคิดสร้างสรรค์ ท้องถิ่นต่างๆให้ความช่วยเหลืออำเภอที่ยากจนและตำบลที่มีทางเศรษฐกิจ-สังคมที่ยากจนกว่า เปิดการรณรงค์การแข่งเพื่อปฏิบัติเป้าหมายการแก้ปัญหาความยากจนอย่างมีความคิดสร้างสรรค์และจริงจังมากขึ้น”
นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ย้ำว่า การที่ประชาชนมีรายได้และไม่มีความยากจนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งนี่ก็เป็นเป้าหมายที่เวียดนามกำลังมุ่งปฏิบัติเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน.