เปิดระยะใหม่แห่งการขยายความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับฟอรั่มเศรษฐกิจโลก

Anh Huyen - VOV5
Chia sẻ
(VOVworld) –ตามคำเชิญของนาย เคลาส์ ชวาบ ประธานฟอรั่มเศรษฐกิจโลกหรือ WEF วันที่ 17 มกราคม นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้เดินทางถึงประเทศสวิสเซอร์แลนด์เพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของ WEF ที่มีขึ้น ณ เมืองดาวอสเป็นเวลา 3 วัน ร่วมกับคณะผู้แทนกว่า 70 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้นำของประเทศใหญ่ๆ องค์กรระหว่างประเทศและกลุ่มบริษัทชั้นนำระดับโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาทางเศษฐกิจ การพัฒนาและปัญหาที่ร้อนระอุทั่วโลก รวมไปถึงการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในสภาวการณ์แห่งการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก

(VOVworld) –ตามคำเชิญของนาย เคลาส์ ชวาบ ประธานฟอรั่มเศรษฐกิจโลกหรือ WEF วันที่ 17 มกราคม นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้เดินทางถึงประเทศสวิสเซอร์แลนด์เพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของ WEF ที่มีขึ้น ณ เมืองดาวอสเป็นเวลา 3 วัน ร่วมกับคณะผู้แทนกว่า 70 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้นำของประเทศใหญ่ๆ องค์กรระหว่างประเทศและกลุ่มบริษัทชั้นนำระดับโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาทางเศษฐกิจ การพัฒนาและปัญหาที่ร้อนระอุทั่วโลก รวมไปถึงการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในสภาวการณ์แห่งการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก


เปิดระยะใหม่แห่งการขยายความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับฟอรั่มเศรษฐกิจโลก - ảnh 1
ตำรวจรักษาความปลอดภัยที่ดาวอส (Photo Internet)

WEF ก่อตั้งเมื่อปี 1971 ตามข้อเสนอของประธาน เคลาส์ ชวาบ ถึงขณะนี้ WEF ได้กลายเป็นฟอรั่มที่มีชื่อเสียงที่สุดเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ การพัฒนาและแนวโน้มใหญ่ๆที่ส่งผลกระทบต่อนโยบายของแต่ละประเทศ ภูมิภาคและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระดับโลก

ฟอรั่มที่สำคัญที่สุดของ WEF คือการประชุมประจำปีที่จัดขึ้น ณ เมืองดาวอสในเดือนมกราคมโดยมีผู้นำประเทศ ผู้นำองค์กรระหว่างประเทศและกลุ่มบริษัทชั้นนำของโลกเข้าร่วม พร้อมทั้งเป็นโอกาสที่ดีเพื่อให้ผู้แทนหารือเกี่ยวกับปัญหาของโลกและภูมิภาคที่ต่างให้ความสนใจ ขยายความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์หุ้นส่วน

ความร่วมมือที่นับวันยิ่งใกล้ชิดมากขึ้น

การประชุมประจำปีของ WEF ในปีนี้ภายใต้หัวข้อ “การบริหารที่มีความรับผิดชอบและพร้อมปฏิบัติ” จะเน้นหารือถึงปัญหายกระดับการบริหารของโลก การรับมือกับความผันผวนด้านความมั่นคงและวิกฤต ผลักดันการพัฒนาอย่างครอบคลุมและยั่งยืนในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกมีการขยายตัวอย่างล่าช้า

เวียดนามและ WEF ได้มีความสัมพันธ์ร่วมมือกันตั้งแต่ปี 1989 โดยผู้นำระดับสูงของเวียดนามเข้าร่วมการประชุมประจำปีของ WEF ณ เมืองดาวอสและฟอรั่มเศรษฐกิจโลกเกี่ยวกับเอเชียตะวันออกเป็นประจำ กรรมการผู้จัดการของ WEF ฟิลิป เรอสแลร์ได้เดินทางมาเยือนเวียดนามสามครั้งคือเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนปี 2014 วันที่ 22 กรกฎาคมปี 2015และวันที่ 25 เมษายนปี 2016 ส่วนในการประชุมระดับสูงความร่วมมือกัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนามหรือซีแอลเอ็มวีครั้งที่ 8 และการประชุมระดับสูงยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี –เจ้าพระยา-แม่โขงหรือ ACMECS ครั้งที่ 7 เมื่อเดือนตุลาคมปี 2016 เวียดนามได้ประสานงานกับ WEF จัดการประชุมเศรษฐกิจโลกเกี่ยวกับแม่น้ำโขงเพื่อประชาสัมพันธ์เขตอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงและได้มีการเชิญชมรมสถานประกอบการชั้นนำของโลกเข้าร่วมการประชุมด้วย

สาส์นที่เข้มแข็งเกี่ยวกับศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม

ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับ WEF กำลังพัฒนาอย่างดีงาม โดยเฉพาะการร่วมมือจัดฟอรั่มเศรษฐกิจโลก – แม่น้ำโขงจนประสบความสำเร็จเนื่องในโอกาสการประชุมแอลเอ็มวีครั้งที่ 8 และการประชุม ACMECS ครั้งที่ 7 ณ กรุงฮานอยเมื่อเดือนตุลาคมปี 2016 นี่ถือเป็นนิมิตหมายของความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับ WEF ซึ่งได้รับคำชื่นชมจาก WEFและชมรมสถานประกอบการภายในภูมิภาค

ปัจจุบันนี้ เวียดนามมีเครือบริษัทและบริษัทรายใหญ่ 11 แห่งที่เป็นสมาชิกของ WEF เช่น เครือบริษัทโทรคมนาคมกองทัพเวียดนามหรือเวียดเทล เครือบริษัทเอฟพีที เครือบริษัท VinGroupและ VinaCapital เครือบริษัทไปรษณีย์และโทรคมนาคม ธนาคารการค้าต่างประเทศเวียดนาม เครือบริษัทลงทุนไซ่ง่อน และบริษัทหุ้นส่วนก่อสร้างสถาปัตยกรรมเอเอ เป็นต้น

ในฐานะเศรษฐกิจที่เพิ่งโดดเด่นของภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่กำลังพัฒนาอย่างคล่องตัว เวียดนามเป็นหุ้นส่วนสำคัญของ WEF และกำลังร่วมมือกับ WEF ในด้านที่ต่างให้ความสนใจ เวียดนามได้เข้าร่วมข้อคิดริเริ่มเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ใหม่ด้านการเกษตรหรือ New Vision for Agriculture อย่างเข้มแข็งเพื่อมุ่งรักษาความมั่นคงด้านอาหาร การพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านการเข้าถึงตลาดและการเชื่อมโยงการเข้าร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย รัฐบาล สถานประกอบการและเกษตรกร โดยเฉพาะผ่านรูปแบบหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ผู้เชี่ยวชาญของ WEF ประเมินว่า เวียดนามกำลังมีเงื่อนไขที่ดีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะแรงงานรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ขยันหมั่นเพียรและคล่องตัว

ทั้งนี้ คณะผู้แทนเวียดนาม นำโดยนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้จะส่งสาส์นที่เข้มแข็งเกี่ยวกับความคืบหน้าของเศรษฐกิจเวียดนามต่อที่ประชุม โดยเฉพาะเป็นโอกาสประชาสัมพันธ์ปีเอเปกเวียดนาม 2017 ส่วนการเข้าร่วมของนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กในการประชุมนี้ยังแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการขยายความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับ WEF ที่นับวันพัฒนามากขึ้นรวมทั้งการเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ของเวียดนามบนเวทีระหว่างประเทศ.

Komentar