(VOVworld)- เสรีภาพในการจัดตั้งสมาคมเป็นหนึ่งในสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองที่รัฐเวียดนามได้ให้การรับรองและระบุไว้ในรัฐธรรมนูญและสิทธินี้ได้รับการส่งเสริมและค้ำประกันในการปฏิบัติจริง แต่ในขณะเดียวกันหากใครฉกฉวยการใช้สิทธินี้เพื่อมุ่งต่อต้านรัฐเวียดนามก็ถือเป็นการละเมิดกฎหมาย
การจัดตั้งสมาคมนักธุรกิจเอกชนเวียดนาม
|
มาตราที่25 ของรัฐธรรมนูญเวียดนามปี2013 ได้ระบุว่า “พลเมืองมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นอย่างเสรี มีเสรีภาพด้านสื่อมวลชน การเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างๆ การร่วมประชุม การจัดตั้งสมาคมและการชุมนุม” โดยการปฏิบัติสิทธิต่างๆเหล่านี้ยังถูกระบุในเอกสารกฎหมายที่ประกาศใช้ก่อนหน้านี้เช่น รัฐบัญญัติที่102/เอสเอล/เอล004 วันที่20พฤษภาคมปี1957 ประมวลกฎหมายแพ่งเวียดนามปี2005 กฎหมายกลไกรัฐบาล มติที่45/2010และมติที่33/2012ของรัฐบาลเกี่ยวกับการจัดตั้ง การบริหารและการดำเนินกิจกรรมของสมาคมต่างๆ
สมาคมหลายร้อยแห่ง องค์กรในเครือหลายพันแห่งได้ดำเนินกิจกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ
ตามรัฐธรรมนูญพลเมืองเวียดนามทุกคนต่างมีสิทธิ์เข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมองค์กรและสมาคมได้ ส่วนภาครัฐได้ให้การสนับสนุนด้านเจ้าหน้าที่และเงินทุนเพื่อประกอบกิจกรรมของสมาคมที่มีลักษณะพิเศษบางแห่งเช่น สมาคมเกษตรกร สมาคมสตรี สหภาพแรงงาน เป็นต้น ส่วนสมาคมด้านวิชาชีพต่างๆเช่น สมาคมนักเขียน นักข่าวและวรรณกรรม หรือสมาคมด้านเศรษฐกิจเช่นสมาคมผู้ประกอบการ เป็นต้น ที่มีแนวทางเป้าหมายการดำเนินงานที่สอดคล้องกับผลประโยชน์แห่งชาติและมาตรฐานสังคมก็ได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ ปัจจุบันเวียดนามมีสมาคม องค์การสังคมและอาชีพประมาณ460แห่งที่ประกอบกิจกรรมในขอบเขตทั่วประเทศ มีสหภาพแรงงานระหว่างหน่วยงาน20องค์กรและอีกกว่า3หมื่น6พันสหพันธ์และสโมสรระดับจังหวัดโดยประกอบกิจกรรมในทุกด้านของชีวิตสังคมเช่น มนุษยธรรม การกุศล การบริการการศึกษาฝึกอบรม การดูแลสุขภาพ การกีฬาและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้น
ในทางเป็นจริงสมาคมและองค์การต่างๆโดยเฉพาะสมาคมเศรษฐกิจได้มีส่วนร่วมมากมายในกระบวนการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสมาชิกกับทางการปกครอง สนับสนุนสมาชิกทำการผลิตประกอบธุรกิจ ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน แก้ไขข้อพิพาททางการค้าและสนองข้อมูลตลาดและการผลิต ซึ่งสมาคมต่างๆนับวันยังมีบทบาทที่เข้มแข็งในการเป็นที่ปรึกษา สะท้อนความเห็นจากสังคมต่อแนวทางนโยบายของพรรคและรัฐรวมทั้งโครงการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมต่างๆของรัฐบาลและของท้องถิ่น
สมาคมที่ฉกฉวยสิทธิเสรีภาพเพื่อละเมิดกฎหมาย
แต่ในขณะเดียวกันในเวลาที่ผ่านมาก็มีกลุ่มอิทธิพลที่ไม่หวังดีต่อรัฐเวียดนามฉกฉวยสิทธิเสรีภาพดังกล่าวจัดตั้งสมาคมเพื่อเป็นเครื่องมือในการเคลื่อนไหวอย่างผิดกฎหมายและต่อต้านรัฐเวียดนาม ยกตัวอย่างเช่นองค์กรปฏิกิริยาเวียดเตินที่จัดตั้งอันที่เรียกว่า “สมาคมเพื่อนของเวียดเติน” “เพื่อนของเหงวียนก๊วกกวน” บนเฟสบุคเพื่อชักชวนคนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆที่คุกคามความมั่นคงแห่งชาติ มีบุคคลบางคนที่เรียกตัวเองเป็น “นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตย” ได้เรียกร้องให้มีการจัดตั้งอันที่เรียกว่า “สมาคมนักข่าวอิสระ”เพื่อใช้เป็นเครื่องมือให้แก่บล๊อคเกอร์ที่แฝงตัวในนามประชาธิปไตยทำการต่อต้านรัฐเวียดนาม หรือมีอีกกลุ่มที่รณรงค์ให้จัดตั้งอันที่เรียกว่า “คณะวรรณกรรมอิสระ” ที่มีการเขียนบทความต่างๆที่แสดงให้เห็นถึงเพทุบายสร้าง “การปฏิวัติดอกมะลิ”เพื่อเรียกร้องให้นักเขียนเข้าร่วมการเคลื่อนไหวที่มีลักษณะคล้ายกับ “การปฏิวัติวสันต์แห่งอาหรับ” นอกจากนั้นก็มีบางองค์กรที่เรียกตัวเองว่า ศูนย์รวมเยาวชนประชาธิปไตย สมาคมสตรีแห่งสิทธิมนุษยชน สมาคมนักโทษทางจิตใจ สมาคมนักข่าวอิสระ เป็นต้น ซึ่งแม้จะมีกฎระเบียบและเป้าหมายไม่เหมือนกันแต่องค์กรเหล่านี้ต่างมุ่งลบล้างบทบาทการนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและการบริหารของรัฐ บิดเบือนความจริงเกี่ยวกับระบบการเมือง จัดตั้งสมาคมที่ต่อต้านสำนักงานต่างๆของรัฐ มีความร่วมมือกับอิทธิพลที่เป็นอริทำการยุยงส่งเสริมและปลูกปั่นการต่อต้านรัฐเวียดนาม ใส่ร้ายป้ายสีว่าเวียดนามละเมิดสิทธิเสรีภาพในการจัดตั้งสมาคมและเรียกร้องให้ประเทศต่างๆใช้เรื่องนี้เป็นเงื่อนไขเพื่อสร้างแรงกดดันต่อเวียดนามเมื่อเวียดนามเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก
การจัดตั้งสมาคมอย่างเสรีตามรัฐธรรมนูญ
การที่สมาคมและองค์การต่างๆในเวียดนามมีจำนวนมากนั้นเป็นผลจากการที่รัฐได้พยายามค้ำประกันและส่งเสริมสิทธิผลประโยชน์ที่ชอบธรรมต่างๆของพลเมืองอย่างเต็มที่โดยเฉพาะสิทธิการจัดตั้งสมาคมตามเจตนารมณ์ของอนุสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิทางการเมืองและพลเรือนปี1966ที่เวียดนามได้ลงนาม โดยในข้อที่1มาตราที่22ของอนุสัญญาฯได้ระบุว่า “ทุกคนต่างมีสิทธิ์จัดตั้งสมาคมอย่างเสรีรวมทั้งสิทธิในการจัดตั้งและเข้าร่วมสหพันธ์อาชีพต่างๆเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตน” แต่ในข้อที่2ของมาตรานี้ก็ระบุชัดว่า “การใช้สิทธินี้จะถูกจำกัดภายใต้กรอบของกฎหมายเพราะความต้องการที่จำเป็นในสังคมแห่งประชาธิปไตยเพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ ความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของชุมชน สุขภาพของประชาชนรวมไปถึงสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นด้วย”
ทั้งนี้ เป็นอันว่าไม่อาจทำการจัดตั้งสมาคมอย่างแพร่หลายถ้าหากการจัดตั้งนั้นส่งผลเสียต่อผลประโยชน์แห่งชาติและสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ซึ่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายของเวียดนามให้ความเคารพสิทธิดังกล่าวเสมอและไม่จำกัดหรือขัดขวางการเคลื่อนไหวของไม่ว่าสมาคมใดที่มีกิจกรรมเพื่อมนุษย์เพื่อประชาชน ส่วนการจัดตั้งองค์กรอิสระที่เคลื่อนไหวเป็นฝ่ายต่อต้านกับองค์กรการเมืองต่างๆของเวียดนามก็ถือเป็นการกระทำที่เดินสวนกับผลประโยชน์ของประชาชน ละเมิดกฎหมายของเวียดนามรวมทั้งกฎหมายสากล และแน่นอนว่าสิ่งนี้จะไม่ได้รับการยอมรับให้ปฏิบัติในเวียดนาม./.