เมื่อกล่าวถึงการสร้างสรรค์และปรับปรุงพรรค ประธานโฮจิมินห์ได้ยืนยันว่า “การปรับปรุงพรรคต้องตรงประเด็นหลักคือการปรับปรุงแนวความคิดก่อน แล้วปรับปรุงองค์กรทีหลัง ปรับปรุงเจ้าหน้าที่บริหารก่อน แล้วปรัปปรุงสมาชิกพรรคทุกคนทีหลัง”  การสร้างสรรค์พรรคบนเจตนารมณ์ของการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นตามมติของการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่๔สมัยที่๑๑เกี่ยวกับปัญหาเร่งด่วนบางประเด็นว่าด้วยการสร้างสรรค์พรรคในปัจจุบันได้รับการประเมินว่า ได้ปฏิบัติตรงตามการชี้แนะของประธานโฮจิมินห์ โดยเฉพาะ ในขณะที่ประเทศกำลังเปลี่ยนแปลงใหม่ พัฒนา และผสมผสานเข้ากับกระแสโลก การสร้างสรรค์พรรคยิ่งมีความสำคัญเป็นพิเศษซึ่งเป็นปัจจัยค้ำประกันให้การปฏิบัติหลักนโยบายทางการเมือง เป้าหมาย และหน้าที่การสร้างสรรค์สังคมนิยมและ พิทักษ์รักษาปิตุภูมิเป็นผลสำเร็จ ประชาชน และสมาชิกพรรคมีความประสงค์ให้พรรคสาขาทุกระดับโดยเฉพาะกรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรคทำการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นอย่างเปิดเผยและโปร่งใส โดยเน้นให้ความสนใจต่อปัญหาที่เร่งด่วน เช่น บทบาทการนำของพรรคในการแก้ไขปัญหาสังคมต่างๆ เช่น ปัญหาภัยสังคม ความเสื่อมถอยของคุณธรรม การติดตามและตรวจสอบต่อการบริหารระดับรัฐในขณะที่ยังมีอภิสิทธิ์และสิทธิผลประโยชน์พิเศษที่ก่อให้เกิดการคอรัปชั่นและกินสินบน อิทธิพลของผู้นำที่มีความสำคัญที่สุดของพรรคในระบบการเมืองคือ รัฐบาล หน่วยงานบริหารรัฐทุกระดับ นายNguyễn Xuân Lai ทหารผ่านศึกนครCần Thơกล่าวว่า “ผมได้ติดตามการสำรวจของกรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรคที่ได้ประกาศทำให้ผมรู้สึกดีใจเพราะเห็นว่า กรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรค และผู้นำทุกระดับได้ยืนหยัดปฏิบัติมติของคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่๔อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะ กล้าวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง ในสถานการณ์ปัจจุบัน ถ้าไม่มีการสำรวจ การวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นอาจจะเกิดปัญหาที่ซับซ้อนตามมา ดังนั้นการที่พรรคเราได้ทำในเชิงรุกเช่นนี้ ในฐานะเป็นสมาชิกพรรค ผมมีความเชื่อมั่นในการนำของพรรค”    การวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นอย่างเปิดเผยและความโปร่งใสเป็นความปรารถนาของประชาชน เป็นสัญลักษณ์อันสูงส่งของพรรคสาขาทุกระดับเพื่อให้ประชาชนรับทราบว่า การวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นได้ชี้ชัดถึงข้อดีและข้อบกพร่องในการนำของพรรคสาขาทุกระดับ โดยเฉพาะ กรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรค พรรคต้องทำการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นดังโอวาทของประธานโฮจิมินห์ที่ว่า “พรรคปฏิวัติต้องวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นเหมือนที่คนเราต้องการอากาศ เหมือนผู้ที่มีโรคแต่ปกปิดโรคของตนเพราะไม่กล้าดื่มยาซึ่งยิ่งปล่อยนานวันโรคก็ยิ่งมีความรุนแรงจนเป็นอันตรายต่อชีวิต”และก็ต้องเปิดเผยผลและมีความตั้งใจที่จะแก้ไข“พรรคหนึ่งที่ปกปิดความผิดของตนเป็นพรรคที่เสื่อมถอย พรรคหนึ่งที่กล้ารับผิดชอบความผิดของตน ชี้ชัดสาเหตุและหาทุกวิถีทางแก้ไขเป็นพรรคที่ก้าวหน้า มีความกล้าหาญ มีความเข้มแข็งมั่นคงและเที่ยงธรรม” นายTrần Hoàng Long เยาวชนหมู่๔ตำบลEaTiêu อำเภอChư QuynhจังหวัดĐăk Lăk กล่าวว่า “การที่พรรคเราปฏิบัติมติของคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่๔สอดคล้องกับความปรารถนาของประชาชน ผมมีความประสงค์ว่า การปฏิบัติตามเนื้อหาของมติฉบับดังกล่าวจะเกิดประสิทธิภาพอย่างจริงจังเพราะท่านเลขาธิการใหญ่พรรคได้กล่าวว่า การปรับปรุงพรรคปัจจุบันเป็นปัญหาที่เร่งด่วนและเป็นความอยู่รอด ดังนั้น พวกเรามีความประสงค์ว่า จะมีการปฏิบัติมติดังกล่าวแบบเบ็ดเสร็จตั้งแต่ระดับบนจนถึงระดับล่าง สมาชิกพรรคทุกคนต้องปฏิบัติตามมติดังกล่าวอย่างเคร่งครัดเพื่อเกิดประสิทธิภาพอย่างจริงจังและเพิ่มความไว้วางใจของประชาชนต่อพรรค”           ในแนวความคิดโฮจิมินห์ การวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นถือว่า เป็นหลักการ เป็นกฏของการพัฒนาพรรค เป็นมาตรการที่ดีที่สุดเพื่อเสริมสร้างความสามัคคีและเอกภาพภายในพรรค และยังเป็นวิธีการเพื่อให้ผู้นำทุกระดับเสริมสร้างความไว้วางใจต่อประชาชน นายNguyễn Thanh Giản อยู่ที่ถนนÔng Ích Khiêm เขต๑๑นครโฮจิมินห์กล่าวว่า “ไม่ว่าคณะบุคคลใดก็จำเป็นที่จะต้องวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นเพื่อความก้าวหน้า เมือเร็วๆนี้ กรมการเมืองพรรคได้เปิดการรณรงค์วิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นภายในพรรคอย่างทันการณ์และประจวบเหมาะกับช่วงที่ประเทศประสบอุปสรรคนานัปการ ควบคู่กันนั้นก็ต้องยกระดับคุณภาพการนำของพรรคต่อการท้าทายใหม่ สมาชิกทุกคนต้องปฏิบัติการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นอย่างเคร่งครัดเพื่อมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะ พัฒนาพรรค”        การวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นไม่เพียงแต่เป็นงานที่ต้องปฏิบัติเป็นประจำและเป็นวิธีการนำของพรรคเท่านั้นหากยังมีความหมายชี้ขาดต่อประสิทธิภาพ และคุณภาพในการนำของพรรคเพื่อสร้างสรรค์พรรคให้นับวันยิ่งบริสุทธิ์โปร่งใส เข้มแข็งมั่นคง การปฏิบัติการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นตามมติดังกล่วของพรรคได้รับการสนับสนุนจากประชาชนซึ่งจะเอื้ออำนวยให้พรรคและรัฐปฏิบัตินโยบายสำคัญต่างๆในการสร้างสรรค์และพิทักษ์ปิตุภูมิ./.